Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

160

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 18 เม.ย.67 ปิด -5.92 จุด อยู่ที่ 1,361.02 จุด มูลค่าการซื้อขาย 53,907 ลบ.ต่างชาติขาย 341 ลบ. สถาบันขาย 309 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 1,791 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 549 ลบ. มียอดซื้อสุทธิในหุ้น PTTEP,CPALL,TRUE,PTTGC,KBANK และมียอดขายสุทธิ EA,KTB,BBL,PTT,TU มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 9,902 ลบ. หุ้นที่มีปริมาณ Short สูงคือ EA-R,EGCO-R,DMT โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 34,293 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 80,996 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 1,978 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +06%, S&P500 -0.22%, Nasdaq -0.52% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี -0.89%, สินค้าฟุ่มเฟือย -0.71% หลังเจ้าหน้าที่เฟดหลายท่านชี้เฟดยังไม่ควรรีบลดดอกเบี้ย ส่งผลให้ US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.62% ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.24% ได้แรงหนุนจาก ABB บริษัทวิศวกรรมของสวิต ฯ +6.3% รับกำไร Q1/67 ดีกว่าคาด ส่งผลให้กลุ่มสินค้า & บริการ +0.7%, สื่อสาร +1% และธนาคาร +1.9%  

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี หลัง มิเชล โบว์แมน คณะผู้ว่าเฟด, เมสเตอร์ ปธ.เฟดสาขาคลิฟแลนด์ และ จอห์น วิลเลี่ยม ปธ.เฟดสาขานิวยอร์ค ซึ่งทั้ง 3 ท่านเป็นสมาชิกมีสิทธิ์โหวต ชี้เฟดยังไม่ควรรีบลดดอกเบี้ย เนื่องจากเงินเฟ้อสหรัฐลดลงช้ากว่าคาด ขณะที่ตัวเลขผู้รับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์อยู่ที่ 212,000 & คาด 215,000 ราย และดัชนีภาคการผลิตเขตมิด – แอตแลนติก เม.ย. ปรับขึ้นอยู่ที่ +15.5 สูงสุดในรอบ 2 ปี บ่งชี้ภาวะตลาดแรงงาน & เศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแรงดี ดังนั้น CME Fed Watch คาดเฟดจะคงดอกเบี้ยในการประชุม มิ.ย. และมีโอกาส 41.5% จะลดดอกเบี้ยใน ก.ย.               
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ได้แรงหนุนจากกำไร Q1/67 ของหุ้นกลุ่มวิศวกรรม, สื่อสาร และธนาคาร ที่เปิดเผยออกมาดีกว่าคาด โดย LSEG คาดกำไร Q1/67 บจ.ใน Stoxx600 จะหดตัว -12.1% YoY และหากไม่รวมกลุ่มพลังงานคาดกำไร -8.2% YoY
  • ตลาดหุ้นฝั่งเอเชียวานนี้ฟื้นตัว หลังสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางยังไม่ขยายตัว และรอประเมินทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐ ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.09% หลัง กลต.จีนเผยเกณฑ์ถอดหุ้นออกจากตลาด ช่วยลดแรงขายในหุ้นมีทุนจดทะเบียนต่ำ
  • ดัชนี SET วานนี้ -0.43% ปริมาณการซื้อขาย 5.39 หมื่น ลบ. พอรต์โบรกขาย 1.79 พัน ลบ. สถาบันขาย 309 ลบ. และต่างชาติขาย 341 ลบ. จากแรงขายกลุ่มพลังงาน & ปิโตรเคมีปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบ ขณะที่กลุ่มที่หนุนดัชนี คือ อิเล็ก ฯ ที่เริ่มฟื้นตัวกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดเอเชีย และกลุ่มอาหาร & รพ. มีแรงซื้อเนื่องจากเป็นกลุ่มปลอดภัย โดยภาคบ่ายดัชนีปรับลดลงต่ำสุดที่ระดับ 1,349 จุด จากประเด็นข่าว Morgan ปรับลดเป้าหมายดัชนี SET จากเดิมคาดที่ 1,700 จุด ลงมาอยู่ที่ 1,500 จุด ก่อนดัชนีจะฟื้นตัวเนื่องจากภาวะตลาดปัจจุบันได้สะท้อนปัจจัยลบดังกล่าวแล้ว ส่วนประเด็นเศรษฐกิจ ครม.อนุมัติกรอบงบประมาณรายปี 68 ที่ 3.75 ล.ลบ. เพื่อรองรับโครงการดิจิทัล วอลเล็ต แต่ยังรอความชัดเจนในส่วน งบ.จาก ธกส. ว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่     

Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,350 – 1,355 แนวต้าน 1,370 – 1,375 โดยดัชนีมีโอกาสปรับลดลงจากความกังวลเฟดตรึงดอกเบี้ยสูงนาน อาจส่งผลให้ Fund Flow ในตลาดอาเซียนชะอตัว แนะนำทยอยซื้อกลุ่มปลอดภัย เช่น CPALL,CPAXT,AAI,ITC,ICHI,SAPPE
  • ICHI* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 20.70 บาท) แนวโน้ม 1Q67 คาดกำไรเพิ่ม QoQ, YoY และมีโมเมนตัมต่อเนื่องไปยัง 2Q67 รับผลบวกจากการบริโภคที่เพิ่มขึ้น การท่องเที่ยวฟื้นตัว และเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน ช่วยหนุนอัตราการใช้กำลังการผลิตเร่งขึ้น สำหรับภาพรวมปี 67 บริษัทวางเป้าหมายรายได้ 9 พันล้านบาท +12%YoY อัตรากำไรขั้นต้น 23% จากตลาดชาเขียวพร้อมดื่มยังคงเติบโต ผนวกกับแผนออกสินค้าใหม่กลุ่ม Non-Tea healthy trend และธุรกิจรับจ้างผลิตที่เพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อการใช้กำลังการผลิตและมาร์จิ้น ขณะที่การเพิ่มไลน์การผลิต +13% เป็น 1,700 ล้านขวด จะเสร็จในช่วง 4Q67-1Q68 ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 67-68 ที่ 22 พันล้านบาท +11%YoY และ 1.35 พันล้านบาท +11%YoY
  • PR9* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 80 บาท) ประเมินการดำเนินงานใน 1Q67 มีแรงหนุน YoY จากการฟื้นตัวของผู้ป่วยชาวจีน(ตามตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาในไทย) ขณะที่ฝั่งผู้ป่วยไทยยังโดดเด่นในเรื่องโรคไตและได้ประโยชน์จากตัวเลขผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ของไทยที่สูงขึ้น YoY ด้านPR9*เอง ปี67 นี้ ตั้งเป้ารายได้เติบโต +12%YoY พร้อมทั้งทำการตลาดไปหาผู้ป่วยต่างชาติมากขึ้น(กัมพูชา, พม่า, ลาว, จีน, และกลุ่มใหม่-ชาติอาหรับ)  ทั้งนี้ตลาดคาด กำไรสุทธิ ปี67 และ ปี68 จะขยายตัวต่อเนื่องมาอยู่ที่ 581 ลบ.(+4%YoY) และ 687 ลบ.(+18%YoY) ตามลำดับ

 

 

Daily Key Factors

 

Oil Update(0) WTI พ.ค. +$0.04 อยู่ที่ $82.73/บาร์เรล Brent มิ.ย. -$0.18อยู่ที่ $87.11/บาร์เรล หลังสถานการณ์ในตะวันออกกลางยังไม่ลุกลาม กอปรกับสหรัฐประกาศคว่ำบาตรเวเนซุเอลา

 

Gold Update(+) Comex Gold มิ.ย. +$9.60 อยู่ที่ $2,398 /ออนซ์ ได้แรงหนุนเนื่องเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ
-64.76 ล้านดอลลาร์สหรัฐ   โดยขายหุ้นไทย -9.26   ล.ดอลลาร์สหรัฐ  ขายหุ้นอินโดฯ -44.69 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -10.18 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 36.86 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.575 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +57 จุด อยู่ที่ 1,901

(+) BitCoin เช้านี้ +1.23% อยู่ที่ 62,251 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

11 เม.ย.    ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

30 เม.ย.    ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที4  กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

                ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์

สัปดาห์ที5  สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนี

ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค    

สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

 

 

ต่างประเทศ

15 เม.ย.    US ดัชนียอดขายปลีก(มี.ค.)

16 เม.ย.    CN ดัชนีจีดีพี (GDP) ของจีน (ปีต่อปี) (ไตรมาส 1)

17 เม.ย.    EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (มี.ค.)

18 เม.ย.    US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

US ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย (เม.ย.)

US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (มี.ค.)

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตัวรับความหวังเศรษฐกิจจีนเริ่มดีขึ้น ลุ้น Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย 

(1)กลุ่มการอุปโภคบริโภค  ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, HMPRO*, ILM*, CPN*, CRC, MC*, KAMART*, CBG*, ICHI*, RBF* 

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัวจากฐานต่ำปี66  AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, SAPPE*, DELTA, KCE*, EPG*, NYT*, SJWD* 

(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH* 

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR* 

(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ เริ่มลดลง BGRIM*, GPSC* 

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA, SUSCO*

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio April 2024: GFPT*, SAPPE*, GPSC*, ITEL*, ITC*, ICHI*

 

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

น้ำขึ้นให้รีบตัก By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดบวก หุ้นขึ้น วันนี้ น้ำขึ้นให้รีบตัก หรือเทขายกำไรไว้ก่อน ด้วยพรุ่งนี้ ตลาดเรา ...........

งบท่องเที่ยว By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง วันนี้ ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ยังคงแกว่งตัว ในกรอบแคบๆ ส่วนการเก็งกำไรนั้น หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้