สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(17 เมษายน 2567)----------นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) SUPER เปิดเผยว่า ขอรายงานให้ทราบว่า เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2567ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ ได้พิจารณาและมีมติอนุมัติให้ บริษัท ซุปเปอร์ เอิร์ธ เอนเนอร์ยี จำกัด (“SEE” หรือ “ผู้ขาย”)ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ เข้าลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นแบบมีเงื่อนไขบังคับก่อนเพื่อจำหน่ายหุ้นในสัดส่วน 100% ของ บริษัท ซุปเปอร์เอิร์ธ เอนเนอร์ยี 1จำกัด (“SEE1”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ และโอนสิทธิเรียกร้องในเงินกู้ยืมทั้งหมด (ประกอบด้วยเงินต้นและดอกเบี้ย) ที่ SEE1 มีอยู่กับ SEE ให้กับ SUS Thailand Holding Limited (“SUS” หรือ “ผู้ซื้อ”) (รวมเรียก “สัญญาซื้อขายหุ้น”) โดยมีมูลค่ารายการประมาณ 1,131 ล้านบาท ภายหลังที่ดำเนินการจำหน่ายหุ้นสามัญดังกล่าวแล้ว ทำให้ SEE1 สิ้นสภาพการเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ

โดย SUS Thailand Holding Limited เป็นบริษัทที่จัดตั้งภายใต้กฎหมายของฮ่องกง อยู่ภายใต้กลุ่มของบริษัท SUSEnvironment จัดตั้งที่ประเทศจีน ซึ่งดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้าแบบครบวงจรและดำเนินงานโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะ 78 โครงการซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะ 110,000 ตันต่อวัน นอกจากนี้ SUS มุ่งมั่นที่จะบริหารจัดการขยะมูลฝอย การสร้างเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ รวมไปถึงการจัดการของเสียทางเกษตร เพื่อมีส่วนร่วมในการบรรลุเป้าหมายผ่านพลังงานคาร์บอนต่ำ

ทั้งนี้ บริษัท ซุปเปอร์ เอิร์ธ เอนเนอร์ยี 1 จำกัด (“SEE1”) เป็นผู้ถือหุ้น 100% ในบริษัท ซุปเปอร์ เอิร์ธ เอนเนอร์ยี 8 จำกัด(“SEE8”) ซึ่ง SEE8 เป็นบริษัทที่ดำเนินกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะที่อำเภอทรายน้อย จังหวัดนนทบุรี มีกำลังการผลิตติดตั้งประมาณ 20 เมกะวัตต์ ปริมาณพลังไฟฟ้ารับซื้อตาม PPA 19 เมกะวัตต์ ปัจจุบันอยู่ในช่วงพัฒนาและก่อสร้าง มีกำหนดการสร้างแล้วเสร็จและมีกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ให้แก่การไฟฟ้าฝ่ ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ภายในเดือนมีนาคม 2568

การจำหน่ายหุ้นในครั้งนี้ บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ในการสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ (Strategic Partner) เพื่อผนึกกำลังในการร่วมลงทุนและพัฒนาธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานโรงขยะในระยะยาว ในหลายด้าน ทั้งด้านเงินทุน ด้านบุคลากร ด้านเทคโนโลยี และด้านเครือข่ายเพื่อช่วยสนับสนุนในการหาโอกาสการลงทุนเพิ่มเติมในอนาคต รวมถึงกระแสเงินสดที่ได้รับจะนำไปใช้ชำระคืนหนี้สินของบริษัทฯ เพื่อลดภาระดอกเบี้ย และเป็นทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ รวมถึงใช้ในจัดหาทุนในการดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในอนาคตของบริษัทฯ

ทั้งนี้บริษัทฯ มีแผนการใช้เงินที่ได้จากการจำหน่ายหุ้นในครั้งนี้ โดยนำไปชำระคืนหนี้สินของบริษัทฯ เพื่อลดภาระดอกเบี้ย, ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าที่กลุ่มบริษัทได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ที่มีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ระหว่างปี 2569–2572และเป็นเงินทุนหมุนเวียน