Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

208

 

 

ได้อย่าง (DIGITAL WALLET) .. เสียอย่าง (ดอกเบี้ย)
รัฐส่งสัญญาณเดินหน้า DIGITAL WALLET อย่างเป็นทางการ โดยยืนยันกรอบเวลาเปิดให้ลงทะเบียนผู้รับสิทธิ์ และร้านค้า ใน 3Q67 และ เติมเงินเข้า DITGITALWALLET ใน 3Q67 ทั้งนี้แหล่งเงินมาจาก 3 ส่วนคือ งบประมาณปี 2568 จำนวน1.527 แสนล้านบาท, แปรงบประมาณปี 2567 จำนวน 1.75 แสนล้านบาท และธกส. 1.723 แสนล้านบาท (ใช้ ม.28 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ) ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นแรงกระตุ้นเศรษฐกิจ และถือเป็นปัจจัยบวกสำหรับตลาดหุ้น ส่วนอีกเรื่องหนึ่งเป็นผลการประชุม กนง. ซึ่งมีมติไม่เอกฉันท์ (5:2) ให้คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่2.5% ซึ่งถือว่าเป็นไปตามที่เราคาดไว้ แต่ที่น่าสนใจวันนี้คือตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่ออกมาสูงกว่าคาด ทำให้FEDWATCH TOOL แสดงความน่าจะเป็นที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกเป็นเดือน ก.ย.67 และอาจลดเพียง 1 ครั้ง ซึ่งอาจทำให้กนง. คงดอกเบี้ยนโยบาย 2.5% ได้นานขึ้น ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อตลาดฯการคงดอกเบี้ยนโยบายที่อาจยาวนานขึ้น ประกอบกับ SET INDEX ปรับขึ้นมาแรง 2 วัน อาจทำให้เกิดแรงขายทำกำไร วันนี้ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของSET INDEX ที่ 1400 –1420 หุ้น TOP PICK เลือก BJC, CBG และ MAJOR

 


เงินเฟ้อสหรัฐฯ สูงกว่าคาด กดดัน FED คงดอกเบี้ยนานขึ้น
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน มี.ค.67 ของสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าคาด โดยขยายตัว3.5%YOY(+0.4%MOM) สูงกว่าคาดที่ 3.4%YOY และเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่
3.2%YOY ส่วน CORE CPI ขยายตัว 3.8% สูงกว่าคาดที่ 3.7% เช่นกัน ขณะที่หากพิจารณาเป็นรายสินค้าจะเห็นได้ว่า สินค้าที่เติบโตต่อเนื่องจากเดือนที่แล้ว หรือMOM คือ GASOLINE +1.7%MOM ELECTRICITY +0.9%MOM APPAREL+0.7%MOM SHELTER +5.7%MOM TRANSPORTATION SERVICE
+1.5%MOM เป็นต้น

ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯออกมาสูงกว่าคาดเป็นเดือนที่ 4 แล้ว ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ FEDคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนาน โดยปัจจุบัน CME FED WATCH TOOL ปรับมุมมองโดยคาดจะลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน ก.ย.67 โดยให้น้ำหนักอยู่ที่ 46.2%และในปี 2024 คาดลดดอกเบี้ยเพียงแค่ 1-2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งต่างจากช่วงต้นเดือนที่คาดจะลดดอกเบี้ยตั้งแต่ มิ.ย.67 และลดดอกเบี้ย 3-4 ครั้ง ประเด็นดังกล่าว จึงทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐในหลายดัชนีปรับตัวลงแรงราว 1% สวนทาง BOND YIELD ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงเช่นกัน โดย BOND YIELD 10 ปีอยู่ที่ระดับ 4.54%

 

สรุป เงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ออกมาสูงกว่าคาด กดดัน FED คงดอกเบี้ยนานขึ้นกว่าเดิมโดย FED MINUTES บ่งชี้ว่า FED ต้องการให้อัตราเงินเฟ้อเข้าสู่กรอบเป้าหมายที่ 2%และเป็นปัจจยกดดันสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นในระยะสั้น โดยกลยุทธ์การลงทุนแนะนำเก็งกำไรหุ้นได้ประโยชน์จาก BOND YIELD สูงขึ้น ราคาย่อตัวมาลึก อาทิBBL, KBANK, BLA, TLI เป็นต้น

กนง. มีมติคงอัตราดอกเบี้ย แต่มองเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป
การประชุม กนง. มีมติคงอัตราดอกเบี้ย 5 ต่อ 2 เสียง คณะกรรมการฯ ส่วนใหญ่เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเงินอยู่แล้ว ขณะที่กรรมการ 2 เสียงเห็นว่าควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำลงจากปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ชัดเจนขึ้น และจะมีส่วนช่วยบรรเทาภาระของลูกหนี้ได้บ้างโดยในปี 2567 กนง.คาดเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่สูงขึ้นอยู่ที่ 2.6%และปี 2568 อยู่ที่ 3.0% ได้รับแรงสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่ปรับดีขึ้น ทั้งในด้านจำนวนนักท่องเที่ยวและค่าใช้จ่ายต่อคน, การลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัวต่อเนื่อง รวมถึงการใช้จ่ายและลงทุนภาครัฐที่จะกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปีส่วนการส่งออกมีแนวโน้มฟื้นตัวได้อย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงครึ่งหลังของปี ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของปี 67-68 คาดอยู่ที่ 0.6% และ 1.3% ตามลำดับ


โดยรวมจึงทำให้ BOND YIELD ไทยยังทยอยปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุด BONDYIELD 10 ปี อยู่ที่ 2.68% (สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายแล้ว) โดยฝ่ายวิจัยฯ คาดว่าทิศทางนโยบายการเงินในระยะข้างหน้ายังขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และเสถียรภาพระบบการเงินในระยะข้างหน้าเป็นสำคัญ โดยยังคงต้องติดตามแรงส่งจากมาตรการกระตุ้นทางการคลังที่อาจมีผลต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งทำให้อาจมีความเป็นไปได้ที่ กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. หรือ ส.ค. 2567 ได้ซึ่งการลดดอกเบี้ยจะเป็นการเพิ่ม UPSIDE ของ TARGET SET ราว 60-70 จุด(ขึ้นอยู่กับประมาณการ EPS67F) และช่วยเพิ่มปริมาณการซื้อขายราว 3-4 พันล้านบาท/วัน


แต่ระยะเวลาการปรับลดดอกเบี้ยที่แตกต่างกันของไทยกับสหรัฐ (ไทยอาจลดเร็วกว่า)รวมถึงส่วนต่างดอกเบี้ยนโยบาย และ BOND YIELD 10Y ของสหรัฐที่ทิ้งห่างไทยมากขึ้น โดยล่าสุด BOND YIELD 10Y สหรัฐสูงกว่าไทยถึง 1.85%ทั้ง 2 ปัจจัยอาจกดดันให้ค่าเงินบาทอยู่ในโซนอ่อนค่านานกว่าปกติ ถือเป็นปัจจัยสนับสนุนหุ้นได้ประโยชน์บาทอ่อนอีกทาง อาทิ TU, ITC, CPF, STA, NER, KCE, DELTA

สรุป กนง. มีมติคงอัตราดอกเบี้ย แต่มองเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งฝ่ายวิจัยฯมองว่า การลดดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีอาจเกิดขึ้นได้ หากตัวเลขเศรษฐกิจ และนโยบายการคลังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดังที่หวังไว้ แต่อาจกดดันให้ค่าเงินบาทอยู่ในโซนอ่อนค่านานกว่าปกติได้

 

DIGITAL WALLET มาแล้ว แต่เริ่มใช้ได้ 4Q67
วานนี้นายกรัฐมนตรี แถลงรายละเอียดความคืบหน้า DIGITAL WALLET โดยมีรายละเอียดที่ควรทราบ ดังนี้


กลุ่มเป้าหมาย : ประชาชนไทยจำนวน 50 ล้านคน อายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป เป็นผู้ที่มีเงินได้พึงประเมินเกิน 840,000 บาทต่อปีภาษี(70000 บาท/เดือน) หรือไม่มีมีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท


เงื่อนไขการใช้จ่าย : กลุ่มแรก ระหว่างประชาชนกับร้านค้า ใช้จ่ายเชิงพื้นที่ในระดับอำเภอ โดยกำหนดให้ใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดเล็กที่ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดเท่านั้น ในระยะเวลา 6 เดือน, กลุ่มที่สอง ระหว่างร้านค้ากับร้านค้า ไม่กำหนดเงื่อนไขการใช้จ่ายเชิงพื้นที่ระหว่างร้านค้ากับร้านค้าในระดับอำเภอ และขนาดของร้านค้า การใช้จ่ายเงินสามารถใช้จ่ายได้หลายรอบ

ประเภทสินค้า : สินค้าทุกประเภทยกเว้น สินค้าอบายมุข, น้ำมัน, บริการ, ออนไลน์และ สินค้าที่กระทรวงพาณิชย์จะกำหนดเพิ่มเติมช่วงเวลาการดำเนินโครงการ : ประชาชนและร้านค้าจะสามารถเข้าร่วมโครงการฯภายใน 3Q67 และจะมีการเริ่มใช้จ่ายภายใน 4Q67


แหล่งเงินสนับสนุน : 1. ใช้งบประมาณปี 2567 175,000 ล้านบาท, 2. ใช้งบประมาณปี2568 152,700 ล้านบาท, 3. ใช้เงินผ่านหน่วยงานรัฐ คือ ธ.ก.ส.172,300 ล้านบาทผ่านมาตรา 28โดยรัฐบาลคาดจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ราว 1.2-1.6% ของ GDP ทั้งปี (TURNOVER0.4-0.5 เท่า)

สรุป DIGITAL WALLET มาแล้ว แต่เริ่มใช้ได้ 4Q67 โดยรัฐบาลคาดจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ราว 1.2-1.6% ของ GDP ทั้งปี (TURNOVER 0.4-0.5 เท่า) โดยคาดที่ได้ประโยชน์ คือ หุ้นกลุ่มอาหาร-ค้าปลีก/ค้าส่ง อาทิ CBG, ICHI, OSP, TFG,BTG,CPAXT, BJC เป็นต้น

 

Research Division
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส

เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม, CISA
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ไต่เส้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองดูหุ้นไทยไต่เส้น แถว 1370 +/- แบบพยาบามฝ่าด่าน 1380 จุด โดยเช้านี้ พี่ DELTA..

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้