AT THE OPEN (#ATO)
SET พักตัวตามกรอบ 1395-1415 จุด
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ
Market Strategy
SET Index คาดพักตัวตามกรอบ 1395-1415 จุด แรงกดดันจากรายงานเงินเฟ้อทั่วไป/พื้นฐานสหรัฐฯเดือน มี.ค. ขยายตัว 3.5%/3.8%YoY มากกว่าตลาดคาด 3.4%/3.7%YoY ทำให้ตลาดเลื่อนมุมมองการปรับลดดอกเบี้ยฯ FED ครั้งแรกไปที่เดือน ก.ย. (จากเดิมคาดในช่วง มิ.ย.-ก.ค.) และดอกเบี้ยฯ ณ สิ้นปีอยู่ที่ 5% สูงกว่า FOMC Dot Plot ที่คาด 4.6% กดดันต่อ Bond Yield 10 ปี สหรัฐฯ ปรับขึ้น 20 bps ทำจุดสูงของปีที่ 4.56% ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับลงในช่วง -0.8% ถึง -1.1% นอกจากนี้ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ยังมีอยู่สูงจากสหรัฐฯ รายงานว่าอิหร่านและพันธมิตร เตรียมโจมตีอิสราเอลในไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งเป็นช่วงคาบเกี่ยวระหว่างวันหยุดยาวของตลาดหุ้นบ้านเราจึงอาจเห็นแรงขายลดความเสี่ยงออกมา
ด้านปัจจัยในประเทศวานนี้รัฐบาลเผยรายละเอียดโครงการ Digital Wallet ในส่วนที่ให้น้ำหนักอยู่ที่แหล่งที่มาของเงินที่ใช้ในโครงการ 5 แสนล้านบาท ซึ่งจะมาจาก 3 ส่วน 1) จากงบประมาณปี 67 1.75 แสนล้านบาท 2) งบประมาณปี 68 1.53 แสนล้านบาท และ 3) เงินกู้จาก ธกส. 1.72 แสนล้านบาท มองเป็นบวกจากเม็ดเงินโครงการที่มาจากงบประมาณเป็นหลัก แต่ต้องติดตามการดำเนินการในทางปฏิบัติว่าจะราบรื่นหรือไม่ ส่วนหุ้นที่ได้ประโยชน์ ชอบกลุ่มค้าปลีก (CPALL) กลุ่ม F&B (OSP) และกลุ่มไฟแนนซ์ (MTC) ส่วนผลการประชุม กนง. วานนี้มีมติคงดอกเบี้ยฯ ตามตลาดคาด โดยมองเศรษฐกิจฟื้นตัวตั้งแต่ 2Q67 และมี Upside จากมาตรการกระตุ้นของรัฐ ด้านมุมมองดอกเบี้ยยังติดตามควบคู่กับตัวเลขเศรษฐกิจต่อไป มุมมองข้างต้นเราเชื่อว่าจะเป็นบวกต่อกลุ่ม ธ.พ. กลยุทธ์การลงทุนวันนี้เลือก KTB OSP

Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 7 จุด แรงหนุนหลักมาจากกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์เพิ่มขึ้น 3% หนุนจากรายงานยอดส่งออกไต้หวันเดือน มี.ค. ขยายตัว 18.9%YoY มากกว่าตลาดคาด 7.5%YoY กลุ่มค้าปลีก CPALL +1.8% BJC +2% HMPRO +1.9% จากความคืบหน้าโครงการ Digital Wallet และกลุ่ม ธ.พ. +0.5% หลัง กนง. คงดอกเบี้ยฯ โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3.7 พันล้านบาท

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ OSP KTB

KTBปันผลสูง + งบ 1Q67 จะดี
กำไร 1Q67 ที่ 1.03 หมื่นล้านเติบโตทั้ง 68% QoQและ 2% YoY (โดดเด่นกว่ากลุ่มธนาคารที่คาดขยายตัว 17%QoQ แต่ทรงตัว YoY) โดยการขยายตัว QoQ จากสำรองหนี้สูญที่ลดลง หลังตั้งสำรอง ITD ไปหมด 100% ด้านคุณภาพสินทรัพย์อยู่ในเกณฑ์ดีจากโครงสร้างสินเชื่อเสี่ยงต่ำและมีสำรองหนี้เสียต่อสินเชื่อในระดับสูง
ด้าน Valuation ไม่แพงเพราะซื้อขายบน PBV67 0.55 เท่า แถมปันผลปี 67/68 อยู่ในระดับสูง 5.8%/6.3% เป็นปัจจัยที่ช่วยจำกัด Downside ของราคาหุ้น
ระยะสั้นจากผลการประชุม กนง. วานนี้ที่ยังไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนต่อการปรับลดดอกเบี้ยฯ เพราะยังมีมุมมองที่ดีกับเศรษฐกิจซึ่งน่าจะลดความกังวลต่อการชะลอตัวของ NIM
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 21.00

OSP Digital Wallet และกำไรหนุนราคาหุ้น
ระยะสั้นมี 2 ปัจจัยบวกขับเคลื่อนราคา
1) งบ 1Q67E คาดกำไรปกติจะเพิ่มขึ้น 25%YoY หนุนจากยอดขายเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น 4% YoY และอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 226 bps YoY เป็น 35.7% โดยได้รับแรงหนุนจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติและไฟฟ้าที่ลดลง ประกอบกับประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้นหลังปิดโรงงานผลิตขวดแก้วในปี 66
2) ความคืบหน้าโครงการ Digital Wallet หนุนการฟื้นตัวของภาคบริโภคและมองเป็นต่อผลประกอบการ OSP ในช่วง 4Q67
ทั้งนี้เราคาดกำไรปกติในปี 67E ขยายตัวที่ 21% YoY จากยอดขายเครื่องดื่มทั้งในและต่างประเทศที่ขยายตัว กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากประสิทธิภาพการผลิตเพิ่มขึ้น ต้นทุนพลังงานลดลง และการออกสินค้าใหม่ ด้าน PER67 อยู่ที่ 23 เท่า หรือ -1.5 SD จากค่าเฉลี่ย 5 ปี ถือว่าไม่แพง
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 23.20บาท

KEY FACTOR
เงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน มี.ค. สูงกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย (Headline CPI) +3.5% YoY และ +0.4% MoM (Consensus คาด +3.4% YoY และ +0.3% MoM) ในขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) +3.8% YoY และ +0.4% MoM (Consensus คาด +3.7% YoY และ +0.3% MoM) โดยภาคบริการกลับยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง +0.5% MoM เป็นปัจจัยที่ยังสะท้อนความเสี่ยงต่อแนวโน้มดอกเบี้ยระยะยาวของสหรัฐฯ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับฐานช่วง -0.84% ถึง -1.09% ในขณะเดียวกันตลาดปรับมุมมองดอกเบี้ยให้น้ำหนักการคงดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย. และ ก.ค. ที่โอกาสประมาณ 81% และ 57% ตามลำดับ

Eyes on
11 เม.ย. ประชุม ECB, เงินเฟ้อจีน
12 เม.ย. การค้าระหว่างประเทศจีน

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ