Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.ทิสโก้ : SYNEX คงคำแนะนำ “ซื้อ”มูลค่าเหมาะสม 13.30 บาท

155

 

SYNEX : เข้าสู่ช่วงการฟื้นตัว; ปรับการประมาณการเป็น "ซื้อ"


ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและกำไรจากเงินลงทุนที่ลดลง ทำให้การฟื้นตัว YoY ไม่ชัดเจน
เราคาดการณ์กำไรสุทธิหลักใน 1Q24F ของ SYNEX อยู่ที่ 111 ล้านบาท (-15% YoY-18% QoQ) โดยทั่วไปยอดขายน่าจะยังคงฟื้นตัว YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากมาตรการสิทธิประโยชน์ทางภาษีของรัฐบาล แต่การลดลงของอัตรากำไรและกำไรจากเงินร่วมทุน รวมถึงค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น จะยังคงกดดันกำไรสุทธิ อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากำไรจะเติบโตได้ใน 2Q24F เมื่อเทียบรายปีจากฐานที่ต่ำ และเราได้ปรับการประมาณการเป็น "ซื้อ" สำหรับ SYNEX พร้อมปรับมูลค่าที่เหมาะสมใหม่เท่ากับ 13.30 บาท

เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 1Q จะอยู่ที่ 131 ล้านบาท (-4% YoY, -12% QoQ)
คาดว่ายอดขายจะปรับตัวดีขึ้น 5% YoY ที่ 9.5 พันล้านบาท โดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการสิทธิประโยชน์ทางภาษีของรัฐบาลในช่วงเดือน ม.ค. - ก.พ. ซึ่งสนับสนุนการฟื้นตัวของกลุ่มสมาร์ทโฟน และผลักดันให้ผลิตภัณฑ์เกม มีการเติบโตอย่างมากโดยเฉพาะสินค้าของนินเทนโดซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ SYNEX ตั้งแต่ 3Q23 อย่างไรก็ตาม ยังคาดว่าประสิทธิภาพในกลุ่มธุรกิจ และผู้บริโภคจะยังคงซบเซา และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงสู่ระดับ 3.9% จาก 4.2% เนื่องจากสัดส่วนยอดขายสมาร์ทโฟนที่มากขึ้น ซึ่งมีอัตรากำไรต่ำที่สุด ดังนั้น แม้เราคาดว่ากำไรจากการดำเนินงานจะเติบโต 23% เมื่อเทียบรายปีสู่ระดับ 141 ล้านบาท (-24% QoQ) แต่กำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วน่าจะยังคงลดลง 15% YoY สู่ 111 ล้านบาท เนื่องจากกำไรจากเงินร่วมทุนลดลงมากและต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

การเติบโตจะเร่งตัวขึ้นใน 2H24F จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่
แม้ยอดขายไอโฟนในจีนจะอ่อนแอ แต่โมเมนตัมการเติบโตโดยรวมของ SYNEX ยังคงแข็งแกร่งในท่ามกลางการได้รับการจัดสรรสินค้าจากแอปเปิลในสัดส่วนที่มากขึ้น ดังนั้น เรายังคงเชื่อว่ากลุ่มสื่อสารโทรคมนาคม (40% ของยอดขาย SYNEX ในปี 2023) จะยังคงเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนการเติบโตในปี 2024 อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ายอดขายจะเร่งตัวใน 2H24F ด้วยระดับสองหลัก โดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ (โดยเฉพาะในกลุ่มสมาร์ทโฟน) การฟื้นตัวของการเติบโตในกลุ่มธุรกิจ และกระแสรายได้เพิ่มเติมจากซอฟต์แวร์และผลิตภัณฑ์เกม

เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ SYNEX โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 13.30 บาท จากวิธี Sum of the Parts
เราคำนวณมูลค่าที่เหมาะสมโดยใช้วิธี Sum of the Parts ซึ่งประกอบด้วย 1. 12.20 บาทต่อหุ้น สำหรับธุรกิจจัดจำหน่ายหลัก ที่อัตราส่วนราคาต่อกำไร 18 เท่า (เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 15 เท่า) 2. 1.10 บาทต่อหุ้น สำหรับมูลค่าของ NCAP (โดยคิดส่วนลดจากการถือหุ้น 20%) และมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ อัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ และผลประกอบการของ NCAP

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

น้ำขึ้นให้รีบตัก By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดบวก หุ้นขึ้น วันนี้ น้ำขึ้นให้รีบตัก หรือเทขายกำไรไว้ก่อน ด้วยพรุ่งนี้ ตลาดเรา ...........

งบท่องเที่ยว By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง วันนี้ ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ยังคงแกว่งตัว ในกรอบแคบๆ ส่วนการเก็งกำไรนั้น หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้