Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

264

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 9 เม.ย.67 ปิด +25.53 จุด อยู่ที่ 1,401.11 จุด มูลค่าการซื้อขาย 48,387 ลบ.ต่างชาติซื้อ 6,037 ลบ.สถาบันขาย 402 ลบ.รายย่อยขาย 5,656 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 5,067 ลบ. มียอดซื้อสุทธิในหุ้น PTTEP,BDMS,BBL,AOT,KBANK และมียอดขายสุทธิ KSL,BH,STA,SCGP,ICHI มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 3,954 ลบ. หุ้นที่มีปริมาณ Short สูงคือ KSL-R,DCC-R,KTC-R และปริมาณขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืนสูงสุด คือ BTS-R, LH-R, BANPU-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 76,647 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 104,148 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 6,067 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.02%, S&P500 +0.14%, Nasdaq +0.32% โดยกลุ่มอสังหา +1.29%, สาธารณูปโภค +0.55% ขณะที่กลุ่มการเงิน -0.5%, อุตสาหกรรม -0.22% ส่วน NFIB เผยดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อม มี.ค. ลดลงอยู่ที่ 88.5 ต่ำสุดนับตั้งแต่ ธ.ค. 55 ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.61% จากแรงขายกลุ่มธุรกิจการบิน & อวกาศ -3.7% เนื่องจากมูลค่าหุ้นสูงเกินไป เช่นเดียวกับผู้ผลิตอาวุธ เช่น SAAB,ลีโอนาโด, ไรน์เมทัล ปรับลดลง
  • Market View
  • ตลาดหุ้นสหรัฐทรงตัวรอตัวเลขเงินเฟ้อที่จะรายงานในช่วงค่ำวันนี้ โดยคาด US CPI มี.ค. อยู่ที่ 3.4% & ก.พ. 3.2% YoY และ US Core CPI มี.ค. คาด 7% & ก.พ. 3.8% YoY รวมถึง Fed Minutes 19 – 20 มี.ค. เพื่อประเมินโอกาสที่จะลดดอกเบี้ย ซึ่งล่าสุด CME Fed Watch ชี้โอกาสเพียง 51% จะเริ่มลดดอกเบี้ยในการประชุม 12 มิ.ย. หลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐยังมีสัญญาณร้อนแรง ส่วนวันศุกร์นี้จะเริ่มรายงานกำไร Q1/67 ของกลุ่มธนาคารสหรัฐ เช่น JP.Morgan, Citi Group, Wells Fargo ซึ่ง LSEG คาดกำไร Q1/67 บจ.ใน S&P500 +7.0% & ก่อนหน้านี้คาด +7.2% YoY          
  • ตลาดหุ้นยุโรปปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มผู้ผลิตอาวุธ และธนาคารยูโรโซน -1% หลังความต้องการสินเชื่อลดลง เนื่องจากต้นทุนดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงขึ้น โดยนักลงทุนรอผลการประชุม ECB วันที่ 11 เม.ย. ซึ่งคาดยังดอกเบี้ยเงินฝาก ธ.พาณิชย์กับ ECB ไว้ที่ 4.0%
  • ตลาดหุ้นฝั่งเอเชียวานนี้ นิเกอิ +1.08% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่กลุ่มส่งออกได้แรงหนุนจากค่าเงินเยนอ่อนค่า โดย ปธ.BOJ เผยยังคงลด ม.กระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป หากเงินเฟ้อฐานของญี่ปุ่นอยู่ที่ระดับเป้าหมาย 2% ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.05% รอรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของจีน เช่น ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่, CPI และส่งออก – นำเข้าจีน มี.ค.
  • ดัชนี SET วานนี้ +1.86% ปริมาณการซื้อขาย 4.83 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 6.0 พัน ลบ. รายย่อยขาย 5.6 พัน ลบ. สถาบันขาย 402 ลบ. ได้แรงหนุนจากกลุ่มอิเล็ก ฯ +5.2% จากคาดอุปสงค์เซมิคอนดักเตอร์, PCB มีโอกาสฟื้นตัวในช่วง 2H/67 กอปรคาด ธ.กลางหลัก ๆ จะเริ่มลดดอกเบี้ย ส่วนกลุ่มอสังหา +2.8% หลัง ครม.ออก ม.กระตุ้นภาคอสังหาฯ เช่น 1) ลดค่าธรรมเนียมโอนจาก 2 % เหลือ 0.01% และจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% สำหรับราคาบ้านไม่เกิน 7 ลบ. จนถึง 31 ธ.ค.67 2) ม.ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ปลูกสร้างบ้าน 3) สินเชื่อบ้าน ธอส. 4) โครงการบ้าน BOI ซึ่งคาดจะกระตุ้น GDP ปี 67 ได้ 1.7 – 1.8% ส่วนประเด็นสำคัญวันนี้ติดตามผลการประชุม กนง. ว่าจะมีเสี่ยงหนุนให้ลดดอกเบี้ยเพิ่มหรือไม่ รวมถึงการแถลงรายละเอียด ม.ดิจิทัล วอลเล็ต     

Daily Strategy

  • ประเมินดัชนี SET มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,405 – 1,415 โดยมีแนวรับ 1,390 ได้แรงหนุนจากงบประมาณปี 67 จะเริ่มเบิกจ่ายได้ในเดือนนี้ กอปรกับแนวโน้มลดดอกเบี้ยในช่วง 2H/67 แนะนำทยอยซื้อค้าปลีก CPALL,CPAXT/ท่องเที่ยว AOT,AAV,BA,ERW/ อสังหาฯ LH,QH,AP,SPALI,PSH,SC,SIRI
  • GPSC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 59.75 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 1Q67 คาดกำไรฟื้นตัว QoQ เป็นผลจากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้างวด ม.ค.-เม.ย.67 ขึ้นมาที่ 18 บาท/หน่วย ประกอบกับต้นทุนเชื้อเพลิงและค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานที่ลดต่ำลงตามฤดูกาล ช่วยหนุนอัตรากำไรดีขึ้น ส่วนในปี 67 คาดค่าไฟฟ้ามีโอกาสขยับขึ้นหรือทรงตัวจากงวดปัจจุบัน อีกทั้งได้ผลบวกจากต้นทุนพลังงานที่ลดลง นอกจากนี้จะได้ประโยชน์จากการปรับโครงสร้างราคาก๊าซฯ รวมถึง earning momentum ที่น่าจะดีต่อเนื่องใน 2Q67 เพราะเป็น high season ความต้องการใช้ไฟฟ้า ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 67 อยู่ที่ 5.17 พันล้านบาท +40%YoY
  • TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 19.50 บาท) ประเมินกำไรปกติ 1Q67 ที่ 979 ลบ.(+21%YoY, -17%QoQ) สามารถกลับมาฟื้นตัวได้เด่น YoY ในส่วนของ operation หลักทั้งรายได้ฝั่ง Petcare และ Ambient Seafood แม้จะมีปัจจัยกดดันจาก 1.1Q66 มีส่วนแบ่งกำไรจาก Red Lobster ราว +134 ลบ. (1Q67 ไม่รับรู้แล้วหลังถอนทุน RL ใน 4Q66) และ GPM ที่โดนกดดัน QoQ จากฝั่ง Ambient และ Frozen ส่วน 2Q67 เบื้องต้นคาด +YoY จากฐานต่ำปีก่อน(2Q66 คู่ค้ายังมี Inventory สูง)/ ไม่ต้องรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากRL(-193 ลบ. ใน 2Q66) และ +QoQ จากออเดอร์ปรับขึ้นตามฤดูกาล รวมถึงจะได้ประโยชน์เต็มที่จากต้นทุนปลาทูน่าอยู่ในโซนต่ำมากกว่าในช่วง 1Q67 ที่ต้นทุนปรับลงตามราคาขายทูน่ากระป๋อง OEM ที่ปรับลงก่อนไม่ทัน

 

Daily Key Factors

 

Oil Update(-) WTI พ.ค. -$1.20 อยู่ที่ $85.23/บาร์เรล Brent มิ.ย. -$0.96อยู่ที่ $89.42/บาร์เรล หลังกองทัพอิสราเอลได้ลดจำนวนทหารในตอนใต้ของฉนวนกาซา และเริ่มเจรจาหยุดยิงรอบใหม่กับกลุ่มฮามาส ช่วยลดความกังวลต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก ขณะที่ API เผยสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 3.03 ล.บาร์เรล

 

Gold Update(+) Comex Gold มิ.ย.+$11.40 อยู่ที่ $2,362.40 /ออนซ์ รับข่าวธนาคารกลางหลายแห่งเข้าซื้อทองคำ และเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงปัจจัยเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์สูงขึ้น 

 

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติวานนี้ซื้อสุทธิ +$166.03 ล. โดยซื้อหุ้นไทย +166.03 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นอินโด ฯ, ฟิลิปปินส์ปิดทำการ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 36.32 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.362 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -24 จุด อยู่ที่ 1,570

(-) BitCoin เช้านี้ -3.52% อยู่ที่ 68,902 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

09 เม.ย.    ตลท. แถลงสรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์

10 เม.ย.    ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 2/2567

สัปดาห์ที2  ม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

                สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและ

อัพเดตสถานการณ์ลงทุน

สัปดาห์ที3  ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

 

 

ต่างประเทศ

10 เม.ย.    US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (มี.ค.)

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

11 เม.ย.    EU การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย (เม.ย.)

                EU การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของธนาคารกลางแห่งยุโรป 

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (มี.ค.)

US รายงานการประชุมของ FOMC 

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตัวรับความหวังเศรษฐกิจจีนเริ่มดีขึ้น ลุ้น Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย 

(1)กลุ่มการอุปโภคบริโภค  ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, HMPRO*, ILM*, CPN*, CRC, MC*, KAMART*, CBG*, ICHI*, RBF* 

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัวจากฐานต่ำปี66  AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, SAPPE*, DELTA, KCE*, EPG*, NYT*, SJWD* 

(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH* 

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR* 

(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ เริ่มลดลง BGRIM*, GPSC* 

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA, SUSCO*

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio April 2024: GFPT*, TCAP*, GPSC*, ITEL*, ITC*

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

เทรดแบบไร้เรี่ยวแรง By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม วันนี้ เป็นอีกวัน ที่นักลงทุน ยังคงซื้อขายหุ้น แบบไร้เรี่ยวแรง บรรยากาศไม่เอื้ออำนวย ไร้ปัจจัยบวก หลังจาก...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้