AT THE OPEN (#ATO)
SET คาดแกว่ง Sideways-Sideway Up
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ

Market Strategy
SET Index คาดฟื้นตัวตามกรอบ 1370-1385 จุด ความกังวลเรื่องดอกเบี้ยสหรัฐฯ ผ่อนคลายช้ากว่าคาดมีอยู่ แต่ผลต่อตลาดหุ้นลดลงจากการรายงานตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐฯ เดือน มี.ค.ที่เพิ่มขึ้น 3.03 แสนตำแหน่งมากกว่าคาด 2.14 แสนตำแหน่ง และอัตราการว่างงาน 3.8% ดีกว่าเดือนก่อนที่ 3.9% ทำให้ตลาดปรับความคาดหวังว่า FED จะลดดอกเบี้ยฯ ในปีนี้เหลือ 2 ครั้งมาที่ 5% โดยการลดดอกเบี้ยจะเกิดในเดือน ก.ค. จากเดิม มิ.ย. แต่อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันศุกร์ที่ผ่านมากลับปรับขึ้นเฉลี่ย 1% จากแรง Buy on Fact หลังจากปรับฐานไปช่วงต้นสัปดาห์ ส่วนสัปดาห์นี้ติดตามรายงานเงินเฟ้อเดือน มี.ค. ตลาดคาดขยายตัว 3.4%YoY หากออกมาตามคาดเชื่อว่าตลาดจะเริ่มเคลื่อนย้ายความสนใจไปที่การรายงานงบ 1Q67

รายงานเงินเฟ้อบ้านเราเดือน มี.ค. หดตัว -0.47%YoY ใกล้เคียงคาดและดีกว่าเดือนก่อนที่ -0.77%YoY แรงกดดันจากมาตรการช่วยค่าครองชีพภาครัฐฯ และราคาอาหารสดที่ลดลง ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัว 0.37% ต่ำกว่าเดือนก่อน 0.43%YoY เราเชื่อว่าเงินเฟ้อในระยะถัดไปมีโอกาสขยับขึ้นตามราคาพลังงานที่ปรับขึ้นและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่จะทยอยฟื้นตัวตามการเบิกจ่ายงบภาครัฐฯ จึงไม่ได้มองมีความเสี่ยงเรื่องเงินฝืด

ส่วนประเด็นที่ติดตามวันนี้คือการประชุม ครม. คาดพิจารณากรอบงบประมาณปี 68 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ กลยุทธ์การลงทุนเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ SPALI TASCO

Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 1.69 จุด สวนทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค ได้แรงหนุนจากกลุ่ม ICT ที่ TRUE +2.6% จากคาดหวังผลประกอบการ 1Q67 ขาดทุนปกติลดลง กลุ่ม ธ.พ. ปรับขึ้น 0.3% จากทิศทางเงินเฟ้อที่ติดลบน้อยลงกลุ่ม ร.พ.ที่ได้ประโยชน์จาก WEALTH Effect นักท่องเที่ยวตะวันออกกลางหนุน BH +1.3% โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 509 ล้านบาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง 2.7 หมื่นล้านบาท

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ SPALI TASCO

TASCO การเบิกจ่ายภาครัฐฯ ผลักดันกำไร
ยอดขายในปี 2567 จะได้แรงหนุนสำคัญจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ในไตรมาส 2Q67 - 3Q67 และ 4Q67 จะได้แรงหนุนจากเริ่มงบประมาณปี 2568 ส่งผลดีต่อกำไร TASCO ที่เชื่อว่าจะเร่งตัวได้ตั้งแต่ 2Q67 เป็นต้นไป โดยเราคาดกำไรปกติ 2,630 ล้านบาท เติบโต 8% YoY
ด้าน Valuation ปี 2567 ยังถือว่าถูกมากเพราะ P/E 9.5 เท่า (-0.75 SD) , P/BV 1.5 เท่า (-0.75 SD) และ มีเงิน ปันผลตอบแทนที่สูง 8% เป็นตัวช่วยจำกัด Downside ของราคาหุ้น
นอกจากนี้ยังมี Upside ส่วนเพิ่มจากการขยายตลาดในประเทศที่ปัจจุบันกำลังเจรจาสัญญาจัดหายางมะตอยกับโรงกลั่นในประเทศคาดรู้ผลในเดือนนี้
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 20 บาท

SPALI การเติบโตเด่นที่สุดในกลุ่ม
ทิศทางผลประกอบการของ SPALI ปี 2567 จะเติบโตโดดเด่นสุดในกลุ่ม โดย Bloomberg Consensus คาดกำไรปกติ 67 โต 10%YoY ดีกว่าผู้ประกอบการรายอื่นๆที่ขยายตัวเพียงหลักเดียว ขณะที่แรงขับเคลื่อนในระยะสั้นให้น้ำหนัก
1) แนวโน้ม Presales ในช่วง 1Q67-2Q67 ที่ยังมีโอกาสขยายตัว QoQ ตามการเปิดโครงการแนวราบใหม่ที่ทำระดับ All time high ในช่วง 1Q24 หนุนต่อผลประกอบการต่อไป
2) ความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้น ภาคอสังหาฯ ที่ผู้ประกอบการเสนอ เช่น การเพิ่มเพดานราคาที่อยู่อาศัยที่ได้สิทธิลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองจากปัจจุบันไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 7 ล้านบาท ที่คาดว่า ครม.พิจารณาในวันนี้ และยังได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยฯ ที่เชื่อว่าจะปรับลงช่วง 1H67
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 22 บาท

KEY FACTOR
ในสัปดาห์นี้เป็นช่วงที่ตลาดหุ้นไทยใกล้เข้าสู่วันหยุดยาวสงกรานต์และเปิดทำการเพียง 3 วัน น่าจะทำให้ปริมาณการซื้อขายอาจจะยังเบาบางต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม และคาดว่าโทนโดยรวมน่าจะเป็นบวกต่อ Risk sentiment ประกอบด้วย 1) รายงานการประชุม FOMC เดือน มี.ค. (วันที่ 10 เม.ย.) 2) เงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน มี.ค. (10 เม.ย.) ซึ่งแนวโน้มน่าจะใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้า (Consensus คาด +3.4% YoY และ +0.3% MoM) 3) เงินเฟ้อจีน โดย Consensus คาดว่าจะบวกเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน +0.4% YoY (11 เม.ย.) และ 4) ส่งออกจีน Consensus คาดว่าจะติดลบ -1.8% YoY ในขณะที่นำเข้าคาด +1.0% YoY (12 เม.ย.)

Eyes on
10 เม.ย. ประชุม กนง., แถลงความคืบหน้า Digital Wallet, เงินเฟ้อสหรัฐฯ, รายงานการประชุม Fed
11 เม.ย. ประชุม ECB, เงินเฟ้อจีน
12 เม.ย. การค้าระหว่างประเทศจีน

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ