Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

249

 

ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook

แนวโน้มสินทรัพย์ต่างประเทศ
อัปเดตแนวโน้มค่าเงิน
นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐกว่า 6% แล้ว นับเป็นการอ่อนค่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศเศรษฐกิจหลักอื่นๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม โดยประเทศเหล่านี้มีค่าเงินอ่อนค่าลงราว 2%-3% YTD เมื่อเทียบกับ USD เนื่องจากได้ดุลการค้าในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. ในขณะที่ไทยขาดดุล (trade deficit) สองเดือนรวมกันราว 3,300 ล้านเหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้การประชุม กนง. ล่าสุดแม้จะมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.5% แต่เสียง 2 ใน 5 เห็นว่าควรลดดอกเบี้ยลง 0.25% ซึ่งเป็นการสะท้อนว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) มีโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน เม.ย. ที่จะถีงนี้ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงก็จะเป็นการปรับลดดอกเบี้ยก่อนเฟด อย่างไรก็ตาม เรามองว่าปัจจัยเหล่านี้ได้ price in เข้าไปในค่าเงินมากในระดับหนึ่งแล้ว สังเกตได้จากการที่ค่าเงินบาทอ่อนค่ามากกว่า regional peers


สำหรับแนวโน้มเงินบาทในปี 2024 เรามีมุมมองดังต่อไปนี้

1 ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวหลัก (base case) จะอยู่ที่ 33.8 - 36.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่วนกรณีที่มีปัจจัยลบหรือบวกเข้ามากระตุ้น กรอบการสวิงอาจกว้างขึ้นโดยระดับการอ่อนค่ากรณี worst case คาดว่าจะอยู่ที่ 37.8 บาท/USD ส่วน best case ของการแข็งค่าน่าจะอยู่ที่ 32.8 บาท/USD

2 การเคลื่อนไหวของสกุลเงินโดยส่วนใหญ่ในปีนี้อยู่ในลักษณะ range bound ซึ่ง in line กับมุมมองของเรา โดยแม้หลายๆสกุลจะอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับ USD แต่ก็ไม่มากนัก และไม่ได้รุนแรงเหมือนกับปี 2022 ซึ่งเป็นช่วงที่เฟดใช้นโยบาย aggressive policy tightening
เรามองว่าความเสี่ยงที่ค่าเงินสกุลต่างๆของภูมิภาคจะอ่อนค่ามากๆในทิศทางเดียวเหมือนกับปี 2022 มีความเป็นไปได้น้อย เนื่องจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดได้ผ่าน peak cycle มาแล้ว

3 สำหรับแนวโน้มในระยะสั้น หาก กนง. ลดดอกเบี้ยในการประชุมอีกสองสัปดาห์ข้างหน้านี้ก็อาจทำให้เงินบาทอ่อนค่าต่อไปทดสอบตำแหน่ง worst case ที่ระดับ 37.8 บาท/USD แต่น่าจะเป็นเพียงแค่ชั่วคราว เนื่องจากหลังจากนั้นอีกราว 2 เดือนเฟดก็น่าจะลดดอกเบี้ยลงเช่นเดียวกัน จึงทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยจะถ่างขึ้นเพียงชั่วคราว ก่อนวิ่งกลับเข้าหากันอีกครั้ง จากสมมติฐานของ consensus ที่ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยลงในปีนี้ 3 ครั้ง และ กนง. 2 ครั้ง

4 นอกจากนี้ตามปกติดุลการค้าของเดือน พ.ค.-มิ.ย. มักจะมีโมเมนตัมฟื้นตัว จึงทำให้เงินบาทมีโอกาสสวิงกลับมาแข็งค่าขึ้นในช่วงดังกล่าวต่อเนื่องไปในไตรมาส 3


สรุป เรามองว่าค่าเงินบาทอาจอ่อนค่าได้ถึง 37.8 บาท/USD หาก BOT ลดดอกเบี้ยในเดือน เม.ย. แต่ถ้าลดดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นช่วงใกล้เคียงกับเฟด ค่าเงินบาทก็ไม่น่าจะอ่อนจนหลุดโซน 36.8 บาท/USD ส่วนภาพที่ไกลออกไปในเดือน พ.ค.-มิ.ย. และ 3Q24 เงินบาทมีโอกาสเปลี่ยนทิศกลับมาแข็งค่าขึ้น

สรุปภาพตลาดวานนี้ ดัชนีค่อยๆ บวกต่อวานนี้ นำโดยหุ้นบลูชิป AOT TRUE SCC ADVANC CPN CPAXT MINT HMPRO PTT บวกคนละนิดละหน่อย แต่หุ้น Alpha หลายตัวบวกขึ้นมาแรง KAMART ALPHAX W PROUD PLUS RML PANEL ขณะที่แรงขายอยู่ที่หุ้นอิเล็กทรอนิกส์ (ขายทำกำไร) โรงไฟฟ้า ธนาคาร


แนวโน้มตลาดวันนี้
ปัจจัยหนุนบวกหุ้นรายตัว
ตามคาด...หุ้นไทยรายตัวเลือกบวกตามกระแสของปัจจัยหนุนการลงทุนรายตัว หุ้นบวกเด่นเมื่อวาน เช่น อสังหา (รอลุ้นมาตรการกระตุ้นยาแรง) หุ้นอุปโภคบริโภค GFPT COCOCO SNNP MINT ส่วนใหญ่เป็นหุ้นกลาง-เล็ก ที่บวกดีกว่าตลาดตามที่เราประเมิน
ดังนั้นวันนี้เรายังคง เลือกเก็งกำไรหุ้นรายตัวต่อเนื่องตามกลยุทธ์ประจำสัปดาห์ โดยอิงกับปัจจัยหนุนที่อยู่ในกระแสซึ่งคาดจะมีนัยยะต่อพื้นฐานกำไร ของหุ้นรายตัว
โดยเรายังคงรอจังหวะสะสมหุ้นตามกระแสการลงทุนใหม่ ตลอดทั้งปลายเดือนนี้ต่อเนื่อง เมย. คือ
1. แรงซื้อคืน (covered short) หุ้นที่ลงแรงหรือตามปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงไปในเชิงบวก เช่น การปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในประเทศจะมาเร็วขึ้นกว่าที่คาด, การพลิกฟื้นของเศรษฐกิจฐานราก ตามทิศทางราคาสินค้าเกษตร และมาตรการอุดหนุนจากภาครัฐ

2. หุ้นตามกระแสการปรับเพิ่มประมาณการณ์กำไร จากสถานการณ์พิเศษ หรือ ปัจจัยฤดูกาล เช่น วันหยุดยาวฤดูร้อน เทศกาลสงกรานต์ หนุนการบริโภค และ กลุ่มเครื่องดื่ม, เตรียมทัพโปรโมชั่น อาหารและเครื่องดื่มรับ ฟุตบอลยูโร 24 (มิย.-กค.) และ โอลิมปิค 24 (กค.-สค.), กระแสเศรษฐกิจโลกใหม่ AI, ไบโอเทคโนโลยี, หุ้นเติบโตสูง เป็นต้น

3. ปัจจัยมหภาคหนุนความเชื่อมั่น เช่น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จีน (มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลกลาง) ญี่ปุ่น (การขึ้นค่าแรง, เศรษฐกิจฟื้นตัวในรอบหลายสิบปี)

สำหรับกรอบดัชนีฯสัปดาห์นี้คาด ยกฐานใหม่สูงขึ้น แต่จะยังไม่ทะลุผ่านแนวต้าน ดังนั้นกลุ่มหุ้นเด่นคาดว่าจะหมุนลงมาเล่นหุ้นกลางเล็ก, หุ้นเติบโตสูง มากกว่าหุ้นบูลชิพใหญ่

กลยุทธ์การลงทุน
เลือกเล่นหุ้นตาม ธีมลงทุน Earnings play / หุ้นปันผล / ธีมการลงทุนจากปัจจัยหนุนการปรับเพิ่มประมาณการณ์กำไร

วิเคราะห์ทางเทคนิค
SET ดีดเด้ง แต่ยังคงอยู่ในกรอบสามเหลี่ยม sideway ออกข้าง...รอความหวังทะลุเส้นกด (โซนต้าน) เพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเป็นขาขึ้นรอบใหม่! โดยเรายังคงให้น้ำหนักในแบบ sideway & triple bottom ซึ่งชี้ว่าดัชนีมีโอกาสผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โซนรับ 1,350 จุด สู้ได้ รอทะลุกรอบบนที่ 1,390 จุด ส่วนไฮไลท์สัปดาห์นี้แนะติดตามตัวเลขเศรษฐกิจประจำเดือนก.พ. ประกาศโดย BOT วันที่ 29 มี.ค. ศุกร์นี้...หากตัวเลขออกมาดีจะช่วยสบับสนุนมุมมองตลาดมีลุ้นทะลุโซนต้านนั่นเอง

Note: ฝากติดตามบทวิเคราะห์ “World Asset Class” นำเสนอหัวข้อ “น้ำตาล....ส่งสัญญาณกลับตัว ขาขึ้น & ดัชนีค่าระวางเรือ...signal alert!

 


What to watch
เริ่ม 9 เมย.นี้ ตลท.เพิ่มรายงาน รายชื่อหุ้นยืม ชอร์ตเซล ที่ยังไม่ได้ซื้อคืน ส่วนมาตรการหลักที่จะใช้เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ให้กับนักลงทุน ทั้งการคุมบอทเทรด และชอร์ตเซล จะรับฟังจนถึงวันที่ 21 เมย.นี้ (อาจจะเริ่มใช้เร็วกว่าคาดการณ์เดิม...)
10 เมย.นี้ จะทราบถึงความคืบหน้าโครงการ แจกเงินหมื่น ดิจิตอลวอลเล็ต เช่น แหล่งเงินที่ใช้จะมาจากแหล่งไหน, การแจกเงินจะดำเนินการในครั้งเดียวหรือไม่...
เงินเฟ้อสหรัฐฯ PCE สัปดาห์นี้: ซึ่งจะมีผลต่อ คาดการณ์นโยบายการเงิน และการเดินหน้านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น (ลด QT)
ตรึงค่าไฟงวดใหม่ ถึง สค.67 ค่า FT 39.72 สต.ส่งผลค่าไฟคงที่ 4.18 บาท

หุ้นแนะนำวันนี้
สัญญาณการบริโภคกลับมาดูดี แข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง
GFPT(S 12 R 13 SL 11.5)
GLOBAL (S 16.8 R 17.7 SL 16.5)


รายงานพื้นฐานวันนี้

Retail Sector
กลุ่มค้าปลีก
สารสำคัญจาก BLS Retail Day
งาน BLS Retail Day วันจันทร์ที่ผ่านมา สรุปประเด็นสำคัญจากการสัมภาษณ์ผู้บริหารที่เข้ามาร่วมงานได้ดังนี้
1) การท่องเที่ยว และ E-Receipt ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อจริง โดยภาพรวมยอดขาย ม.ค. (ก่อนมาตรการ) ยังอ่อนแอ แต่พอเข้า ก.พ. กลับมาแข็งแกร่ง และต่อเนื่องใน มี.ค. ปัจจัยหนุนจากมาตรการฯ และนักท่องเที่ยวจีน ส่วนความหวังข้างหน้า หวังการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังผ่านงบฯ และการเข้าเทศกาลฟุตบอลยูโร และโอลิมปิก 2024 ซึ่งจะบวกต่อกลุ่มใน 2H24
2) อัตรากำไรขยายตัวในปีนี้ จากต้นทุนลดลง ทั้งจากต้นทุนการผลิตและการบริหารประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีอัตรากำไรของธุรกิจใหม่อย่างออนไลน์-Delivery ที่ขยายตัวหากได้ขนาดที่เหมาะสมในช่วง 2H24
3) การแข่งขันที่มากขึ้น ไม่ได้น่าตกใจอะไร เพราะปกติการแข่งขันก็มีตลอดอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าปรับเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบต่างๆ เช่น การปรับปรุงสาขาใหม่ ช่องทางการจำหน่าย และเทคโนโลยีใหม่ เป็นต้น ทำให้คาดว่าปีนี้จะยังเห็นการใช้เงินลงทุน (CAPEX) ในระดับหนึ่งเพื่อปรับปรุงด้านต่างๆ และขยายสาขา
(รายละเอียดรายบริษัท ติดตามในรายงานเต็มวันนี้ฉบับภาษาอังกฤษ)

ITEL (Idea)
อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม
เตรียมระเบิดฟอร์ม เก็บ Backlog เพิ่ม
วันนี้เราออก Idea call ITEL โดยมีประเด็นน่าสนใจ 3 เรื่อง
1) ราคาหุ้น laggard เมื่อเทียบกับกลุ่มรับเหมางานวางระบบ (SI) ที่จะได้ประโยชน์จากงบประมาณภาครัฐ ที่เตรียมจะออกมาอีกไม่นานนี้ โดยผลตอบแทน YTD ของ AIT และ SAMART ขึ้นมา 31% และ 55% ตามลำดับ แต่ ITEL ขึ้นมา 18.5% (ยังช้ากว่า) ขณะที่ Backlog ของ ITEL ก็ครอบคลุมประมาณการรายได้ปีนี้ไปแล้ว 57%
2) แนวโน้มกำไร 1Q24 เฟี้ยวฟ้าว เราคาดที่ 69 ล้านบาท เติบโตขึ้น 19% YoY (แต่ลดลง 15% QoQ ตามฤดูกาลปกติ) และดีกว่าที่เราคาดไว้เดิม 10%
3) ประมาณการกำไรทั้งปีมี Upside ถึง 15% ถ้าบริษัทบรรลุเป้าหมายรายได้ 3,500 ล้านบาทได้ (เพราะปัจจุบันเรายังคาดการณ์ไว้ต่ำกว่า) โดยในกรณีนี้ มีโอกาสทำให้เห็นการ Re-rating กลับไปค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 22 เท่า บนฐานกำไรที่สูงขึ้น (จากปัจจุบัน 15.2 เท่า)
Fundamental View: เราแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปัจจุบัน 3.00 บาท


วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

หุ้นใหญ่ฟื้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองเห็นหุ้นใหญ่หลายตัว ฟื้นตัว เนื้อตัวเต็มไปด้วยแสง สีเขียว ตามตลาดสหรัฐบวก ....

หุ้นขึ้นยาก By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง มองตลาดหุ้นไทย ดูท่า แลทาง น่าจะขึ้นยาก หุ้นขึ้นยาก ถ้าใช้เวลานาน คงไม่พ้นทางลง....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้