"Global Manufacturing Recovery Plays"

KCS Daily Strategy : คาด SET วันนี้ "Sidways Up" ต้าน 1396/1400 จุด รับ 1378/1373 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯ All Time High ต่อเนื่อง จากภาวะ "US Goldilocks" โดยเศรษฐกิจสหรัฐ ดัชนีภาคบริการ (65-70% GDP สหรัฐ) PMI มี.ค. 24 (เบื้องต้น) ต่ำคาด+อ่อนลง m-m ขณะที่ PMI ภาคผลิตกลับมาขยายตัวต่อเป็นเดือนที่ 2 บ่งชี้ภาคผลิตโลกฟื้นตัว หนุนทิศทางเศรษฐกิจเติบโตอย่างเหมาะสม ผสานความตึงเครียดตะวันออกกลางคลายลง (จีน+รัสเซียบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มฮูตี ให้เรือแล่นผ่านทะเลแดงได้ ลดแรงกดดันของเงินเฟ้อ) หนุนการ "Search For Yield" โดยเฉพาะ EM-Asia ที่เศรษฐกิจเร่งขึ้น ภายในสินเชื่อธนาคาร ก.พ. 24 บวก m-m ครั้งแรกใน 2 เดือน สะท้อนเศรษฐกิจเริ่มฟื้น วันนี้กลุ่มหุ้นวัฎจักรเด่นสุด รับภาคผลิตโลกฟื้น(PMI ภาคการผลิตสหรัฐฯ-อินเดียเด่น) หุ้นอิงกระแสบอลไทยฟีเวอร์(WARRIX) หลังบุกเสมอเกาหลีใต้ 1-1 เพิ่มโอกาสเข้ารอบบอลโลก และกลุ่มอิงดอกเบี้ยขาลง วันนี้แนะ IVL, SCGP, WARRIX เด่น

Daily outlook: "Sideways Up" ต้าน 1396/1400 จุด รับ 1378/1373 จุด

What happened around the world ?

• (*/+)US Stocks : ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นต่อ โดย Dow Jones +0.68%d-d, S&P500 +0.32% Nasdaq +0.2% โดย Sector ในดัชนี S&P500 ปรับขึ้นเกือบทุก Sectoe กลุ่มที่ปรับลงมีเพียง Utilities, ICT กลุ่มที่ Outperform คือ Industrials, Financial, Energy, ฯลฯ โดยหุ้นที่เคลื่อนไหวเด่น อาทิ Apple -4.1% ปัจจัยกดดันมาจากข่าวกระทรวงยุติธรรมสหรัฐประกาศฟ้องบริษัทในข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดตลาด, ส่วนกลุ่มที่ขึ้นในทางเดียวกันคือ Semiconductor อาทิ NVDIA+1.2%, QUALCOMM + 2%

•(*/+)US Econ : ตัวเลขยังออกมาผสมผสานมีทั้งบวกและอ่อนตัว คือ 1.) ตลาดบ้านตัวเลขยังออกมาดี สะท้อนผ่าน ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐ ก.พ. ปรับเพิ่มขึ้น 3 เดือนติด +9.5%m-m คาด -1.3%m-m 2.)ฝั่งตลาดแรงงาน ยอดขอรับสวัสดิการว่างงาน(Initial Jobless Claims) +2.1 แสนรายใกล้เคียงจากสัปดาห์ก่อนและต่ำ(ประเมินยังไม่น่ากังวลเพราะ MUFG ทำการศึกษา initial jobless claims ที่เพิ่มขึ้นเกิน 5 หมื่นรายต่อสัปดาห์ มักเป็นสัญญาณเริ่มเตือนเศรษกิจถดถอย และจากการศึกษาความเสี่ยง Hard Landing จะเกิดขึ้นผู้ขอรับสวัสดิการครั้งแรกเฉลี่ยจะสูงกว่าระดับ 4.0 แสนตำแหน่ง) 3.)PMI ภาคบริการ เดือน มี.ค. ปรับลง 2 เดือนติดอยู่ที่ 51.7 จุด และต่ำกว่าคาดที่ 52.0 จุด

•(*/+) S. Korea export : ยอดส่งออกของเกาหลีใต้พุ่งในช่วง 20 วันแรก เดือนมี.ค. 24 +11.2%y-y พลิกจาก 20 วันแรกของ ก.พ. 24 ที่ -7.8%y-y โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายเซมิคอนดักเตอร์ที่เพิ่มขึ้น เป็นสัญญาณบ่งชี้ภาพโอกาสเห็นการฟื้นตัวกลุ่มชิ้นส่วนฯ ระยะถัดไป มองบวกต่อหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วน เน้น HANA KCE

•(*/+)SNB meeting: ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) ประกาศลดดอกเบี้ยลง 25 bps สู่ระดับ 1.50% เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาส Surprise ที่ตลาดคาดว่าจะคงดอกเบี้ย โดยสกุลเงิน CHF มีสัดส่วนราวๆ 3.6% ในตระกร้า Dollar Index ระยะสั้นเรามองการดีดขึ้นของ USDCHF (CHF อ่อนค่า) จะเป็นกด Sentiment ให้สกุลเงินหลักในตะกร้าผันผวนด้านอ่อนตัวได้ในวัน ผิดจากตลาดคาด กระทบ Sentiment ค่าเงินและทองคำ ผันผวนอ่อนตัว

•(*/+)India PMI : ตัวเลขดัชนี PMI ภาคผลิตของอินเดีย เดือน มี.ค. (เบื้องต้น) เพิ่มขึ้น 3 เดือนติด อยู่ที่ 59.2 จุด และทำระดับ All time high บ่งชี้เศรษฐกิจภาคการผลิตอินเดียมีทิศทางทางที่ดีต่อเนื่อง ขณะที่ PMI ภาคบริการ ในเดือนเดียวกัน อยู่ที่ 60.3 จุด ลดลงจากเดือนก่อนเล็กน้อยแต่ยังอยู่ระดับสูง KCS ประเมินศรษฐกิจอินเดียที่มีสัญญาณเติบโตต่อ บวกต่อหุ้นที่มีธุรกิจเชื่อมโยงกับอินเดีย อาทิ 1.) กลุ่มโรงฟ้า หนุนโอกาสที่รัฐบาลจะเปิดประมูลกำลังผลิตไฟฟ้าต่อเนื่อง KCS มอง GPSC(TP@65) เป็นผู้มีโอกาสได้ประโยชน์โดยตรงจากมีฐานธุรกิจไฟฟ้าในอินเดียอยู่แล้ว 2.) กลุ่มท่องเที่ยวและบริการ อาทิ สายการบิน, สนามบิน, โรงแรม อาทิ AOT, AAV, SPA, MINT ฯลฯ จะได้ประโยชน์ โดยนักท่องเที่ยวอินเดียมีศักยภาพและคิดราวอันดับ 4 ของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ 3.)กลุ่มส่งออกอาหาร อาทิ CPF, TU สัดส่วนรายได้จากอินเดียราว 5% ของรายได้รวม

•(*/+)War : สงครามมีสัญญาณที่ดีขึ้น 1.)จีนและรัสเซียบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มฮูตีในเยเมนเพื่ออนุญาตให้เรือแล่นผ่านทะเลแดงและอ่าวเอเดนโดยไม่ถูกโจมตี 2.) ร่างมติของสหประชาชาติที่เรียกร้องให้หยุดยิงในฉนวนกาซา KCS ประเมินเป็นจิตวิทยาบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง และประเมินกดค่าระวางเรือ World Container Index มีแนวโน้มปรับลง ล่าสุด ลงต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ ประเมินจิตวิทยาบวกต่อหุ้นที่มีต้นทุนค่าขนส่งอาทิ SCGP (5% ของต้นทุน) TU, GFPT, STA ,NER STGT, KCE, DELTA, HANA, SVI (3-5% ของต้นทุน) ที่ระยะหลัง Underperform ตั้งแต่มีประเด็นความเสี่ยงค่าระวางเรือ ช่วยจำกัด Downside ที่อาจเกิดขึ้นต่อประมาณการ ในทางตรงข้ามจะลบต่อหุ้นเรือ Container อาทิ RCL แนะนำชะลอลงทุน

• (*) To monitor : วันนี้การกล่าวสุนทรพจน์ของประธาน Fed Powell หัวข้อ Post – pandamic economy และคุณ Michale Bar คณะกรรมการ Fed

• (*) US Bond & Dollar : แนวโน้มยังเป็นขาลง อายุ 10 ปีปรับลง -1 bps และปิดที่ 4.26% ส่วนอายุ 2 ปี ปรับขึ้น +4 bps อยู่ที่ 4.64% ขณะที่ Dollar Index พลิกแข็งค่าแรงมา 104.0+/- จุด

•(*/-) Oil : ราคาน้ำมันดิบยังอ่อนตัวลงต่อ Brent -0.20%d-d ปิดที่ US$ 85.78/barrel และ West Texas -0.25%d-d ปิดที่ US$ 81.07/barrel แรงกดดันจาก 1.)รายงานตัวเลขที่บ่งชี้ Demand การบริโภคน้ำมันสหรัฐฯลดลง แล 2.)รายงานร่างมติของสหประชาชาติที่เรียกร้องให้หยุดยิงในฉนวนกาซา โดยรวมเป็นจิตวิทยาลบต่อหุ้นพลังงาน อาทิ PTT, PTTEP, TOP

What happened in Thailand ?

• (*) SET: SET Index ปรับตัวขึ้น +1.05% ปิดที่ 1387.62 จุด ตอบรับผลประชุม Fed ที่ Dot Plot ยังบ่งชี้แนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยในปี 2024F ที่ 3 ครั้ง กลุ่มหนุน คือ กลุ่มชิ้นส่วนฯ (DELTA, KCE, HANA) ตอบรับจิตวิทยาบวก US Bond Yield อ่อนลงต่อ และยอดส่งออกเกาหลีใต้ที่ชี้นำทิศทางเอเชีย 20 วันแรก มี.ค. 24 ฟื้นขึ้น +11.2%y-y vs prev. -7.8%y-y กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP) กลุ่มถ่วง คือ กลุ่มค้าปลีก (CPALL, CRC) ตอบรับความกังวลการแข่งขันธุรกิจมินิ มาร์ทเสี่ยงรุนแรงขึ้น หลัง Top Daily เปิดเผยแผนการขายแฟรนไชส์ กลุ่มเหล็ก มองถูกขายทำกำไร หลังเก็งภาพความคืบหน้างบประมาณช่วงก่อนหน้า ขณะที่ราคาเหล็กยังทรงตัว

• (+) Flow : เงินทุนต่างชาติไหลเข้า ซื้อหุ้น +56.6 ล้านเหรียญฯ ซื้อพันธบัตร +12.2 ล้านเหรียญฯ TFEX สถานะ Net Long 39,687 สัญญา เงินบาทอ่อนค่าสู่ 36.3 +/-บาท

• (+) Bank: สินเชื่อเดือน ก.พ. 24 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้นเล็กน้อย +0.2% m-m คาดจากสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ และสินเชื่อภาครัฐ จากเบิกจ่ายสินเชื่อเพิ่มขึ้น โดยธนาคารส่วนใหญ่รายงานสินเชื่อเพิ่มขึ้น KTB/SCB /TISCO +0.4% และ BBL +0.3% m-m บ่งชี้สัญญาณการฟื้นตัวเศรษฐกิจภายในที่ดูดีขึ้น

• (+) TH Tourism: ในระหว่างวันที่ 20-22 มี.ค. ททท. จัดกิจกรรม Amazing Thailand Unbounded Experiences Media Fam Trip ชวน Key Opinion Leaders (KOLs) บนแอพพลิเคชั่น Tiktok จำนวน27 ราย จากมาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม อินเดีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ บรูไน สัมผัสเสน่ห์ Soft Power of Thailand สร้างแรงบันดาลใจนักท่องเที่ยวอาเซียนและเอเชียใต้ โดยตั้งเป้าหมายนักท่องเที่ยวชาติที่กลับไปประชาสัมพันธ์ 13.4 ล้านคนเที่ยวไทย (vs ปี 2023 ที่ 9.5 ล้านคน) เรามองบวก ประเมินเป็นการสร้างรับรู้สอดรับพฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบัน ในกลุ่มประเทศดังกล่าวมีผู้ใช้บริการ Tiktok ทั้งสิ้นราว 450 +/- ล้านคน และสร้างโมเมนตัมทางบวกต่อการท่องเที่ยวไทยปี 2024 หนุนหุ้นภาคบริการ เน้น AOT, MINT, CPALL, CPAXT, BJC

• (*/+) Thailand Football Fever: ผลฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกวานนี้ ทีมชาติไทยทำผลงานน่าประทับใจ บุกไปเสมอกับเกาหลีใต้ได้ 1-1 ขณะที่จีนที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันสะดุดเสมอสิงคโปร์ ทำให้ไทยมีลุ้นเข้ารอบคัดเลือกในลำดับถัดไปเพื่อเข้าสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย มองจะปลุกกระแสฟุตบอลไทย ฟีเวอร์ หลัง #บอลไทย ขึ้นอันดับ 1 ใน Twitter ไทยค่ำวานนี้ คาดนัดถัดไปที่จะแข่งขันในบ้านที่มชาติไทย 27 มี.ค. จะเต็มไปด้วยภาพความคึกคัก มองบวกต่อหุ้นที่มีสินค้า+บริการเชื่อมโยงกับทีมชาติไทยหรือฟุตบอลไทยที่จะมียอดขาย/ใช้บริการพุ่งสูงระยะนี้ WARRIX (15-17% ของรายได้) PLANB (5% ของรายได้) เน้น WARRIX

• (*) Siam Piwat IPO: Bloomberg รายงาน บ.สยามพิวรรธน์ ซึ่งเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าดัง อาทิ สยามพารากอน ไอคอนสยาม พื้นที่ค้าปลีก+Lifestyle กว่า 2.0 ล้านตารางเมตร เตรียมเข้าจดทะเบียน IPO ตั้งเป้าหมายระดมทุนสูง 1.7-2.6 หมื่นล้านบาท (หากตั้งสมมติฐานขายหุ้น IPO สัดส่วนราว 25% มูลค่าตลาดบริษัทสูงราว 6.8 หมื่น – 1 แสนล้านบาท) เพื่อขยายธุรกิจในประเทศไทยและประเทศอื่นๆในเอเชีย เรามองเป็นจิตวิทยาลบต่อหุ้นประกอบธุรกิจคล้ายกัน ในส่วน CPN ขณะที่บวกต่อบริษัทในตลาดที่ถือหุ้น บ. สยามพิวรรธน์ อาทิ MBK (ถือหุ้น 48.7%) และ PRG กับ TCAP ที่ถือหุ้นใน MBK ราว 28.4% และ 20.9% ตามลำดับ เชิงกลยุทธ์ เรามองการเก็งกำไร MBK ระมัดระวัง โดยอิงกรอบมูลค่าที่เราประเมิน (รวมผลบวกการ Unlock มูลค่า บ. สยามพิวรรธน์ + มูลค่าทางบัญชี MBK) 18.3-28 บาท(อิงมูลค่าตลาด สยามพิวรรธน์ 3 กรณี คือ ตามกรอบ IPO 1.7-2.6 หมื่นล้านบาท ที่ปรากฏในหน้าข่าวและตั้งสมมติฐาน IPO 25% +ประเมินอิง Valuation ตาม CPN) โดยราคาปัจจุบันอยู่ในกรอบล่างหากอิงมูลค่าตาม CPN แล้ว ประกอบกับ แผน IPO ของ บ.สยามพิวรรธน์ ยังไม่ชัดเจนและไม่มีการยืนยันจากทางบริษัท เชิงกลยุทธ์ให้วางจุด Stop Loss เพื่อบริหารความเสี่ยงบริเวณ 17.5 บาท

Daily Strategy : IVL, SCGP, WARRIX

ระยะสั้น วันนี้มองภาพตลาด "Sideways/Up" มอง SET มีโอกาสแกว่งขึ้นได้ต่อ จากจิตวิทยาบวกตามต่างประเทศ และมีภาพ Search For Yield ที่คาดเริ่มเห็น Flow สลับเข้ามา SET ต่อเนื่อง หลังจากภาคบริการสหรัฐฯเริ่มอ่อนตัว ทำให้เศรษฐกิจน่าจะเริ่มโตแผ่ว โดยหุ้นเด่นวันนี้มอง 1) หุ้นวัฏจักร หลังภาคผลิตโลกฟื้นชัดเจนขึ้น (PMI ผลิตสหรัฐฯ อินเดียเร่ง) ผสาน แรงกดดันสถานการณ์ทะเลแดงมีสัญญาณดี อาทิ ปิโตรเคมี แพ็คเกจจิ้ง เน้น IVL, PTTGC, SCGP 2) หุ้นเกาะกระแสฟุตบอลไทย ฟีเวอร์ เน้น WARRIC 3) หุ้นอิงดอกเบี้ยขาลง 4) หุ้นภาคบริการ เน้น AOT, MINT, CPAXT, BJC

หุ้นได้ประโยชน์ภาคผลิตโลกผ่านจุดต่ำสุด (IVL, PTTGC, HANA, SJWD, MENA, WICE)
หุ้นภาคบริการได้ประโยชน์มาตรการภาครัฐฯ บริโภค ท่องเที่ยว (CPALL, CPAXT, BJC, AOT, AAV, MINT, TKN)
กลุ่มได้ประโยชน์ที่วงจรดอกเบี้ยพลิกเป็นขาลงนับจากปี 2024 (GULF, GPSC, CPALL, TRUE, MINT, BBIK, BE8, PLANB)
กลุ่ม Dividend Plays (AP, MC, SC, SIRI)
กลุ่มได้ประโยชน์จากการเข้าสู่ฤดูร้อน (ICHI, CPALL, CPAXT, AOT, AAV, MINT)
กลุ่มได้ประโยชน์ค่าระวางเรือ Container เริ่มปรับตัวลดลง (TU, GFPT, STA ,NER STGT, HANA)
หุ้นอิงกระแสจีนแถลงเป้าหมาย GDP > ตลาดคาด และลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ (IVL, PTTGC, DOHOME, GLOBAL)

• MAR24 Best Picks: CPALL, BJC, IVL, ICHI, MINT, MTC, OSP

• 1Q24/2024 Stock Picks : GPSC, IVL, PTTGC, CPALL, AOT, AMATA, SCGP, SCC, MINT Mid-Small Cap Play : SJWD, DOHOME, BE8, SPA, PLANB