AT THE OPEN (#ATO)
SET Index แกว่งในกรอบ 1385-1400 จุด
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ

Market Strategy
คาด SET Index วันนี้แกว่งตามกรอบ 1385-1400 จุด การประชุม ครม. วานนี้มีมติรับทราบการปรับวันพิจารณา พ.ร.บ. ร่างงบประมาณปี 67 ให้เร็วขึ้น 2 สัปดาห์ (ทำให้การทูลเกล้าฯ วันที่ 3 เม.ย. จากเดิมคาดที่ 17 เม.ย.) สะท้อนภาพความต้องการเร่งเบิกจ่ายภาครัฐฯ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นแรงหนุนต่อ การเติบโตของเศรษฐกิจในช่วง 2Q67 เป็นต้นไป ส่วนในแง่ตลาดหุ้นเชื่อว่าจะเป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มรับเหมาฯ (CK) กลุ่มการเงิน (KTB) และกลุ่มค้าปลีก (CPALL)

ปัจจัยต่างประเทศวานนี้ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 1.36% จากความคาดหวังต่อการขยายการตัดลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+ ต่อไปในช่วง 2Q67 รวมถึงการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาสยังไม่ได้ข้อสรุปร่วมกัน มองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้แกว่งบวกลบในกรอบแคบช่วง -0.25% ถึง 0.37% จากการให้น้ำหนักไปที่การรายงาน Core PCE เดือน ม.ค. ที่จะรายงาน ในวันพรุ่งนี้ (29 ก.พ.)

สภาพแวดล้อมโดยรวมยังไม่มีปัจจัยกดดัน ทำให้ SET Index มีโอกาสรีบาวน์แต่พื้นที่ขึ้นยังคงจำกัดจากFund Flow ที่ยังเป็นภาพซื้อสลับขาย กลยุทธ์การลงทุนยังเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

Market Summary
SET Index ปรับลง 4.44 จุด นักลงทุนต่างชาติขายต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีก 2.3 พันล้านบาท โดยกลุ่มที่กดดันมาจากกลุ่มพลังงานและปิโตรฯ นำโดย IVL -6% จากผลประกอบการ 4Q66 แย่กว่าคาด TOP -5% จากการขึ้นเครื่องหมาย XD ส่วนกลุ่มที่ปรับขึ้นสวนตลาด CPALL +2.2% SISB +16% SPA +4.4% จากการรายงานงบ 4Q66 ดีกว่าคาด

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ CPALL CK

CPALL กำไรปีนี้คาดเติบโตแกร่ง
กำไร 4Q66 ขยายตัว 75%YoY และ 24%QoQ ดีกว่าเราและตลาดคาด 21% ในระยะสั้นจึงมีโอกาสได้แรงหนุนจากการปรับประมาณการขึ้นของ Consensus
ด้านทิศทางผลประกอบการ 1Q67เดินหน้าเติบโตดีต่อโดยมีสัญญาณบวกจาก SSSG 1Q67TD อยู่ที่ 3.5% (ซึ่งถือว่าเด่นสุดในกลุ่มค้าปลีก) หนุนจากภาคการท่องเที่ยว การบริโภคในประเทศฟื้นตัว นอกจากนี้ในด้านราคายังได้อานิสงส์บวกจาก CPAXT ที่ราคาปรับขึ้นหลังมีการปรับโครงสร้าง
กำไรปี 2567 คาดเติบโตสูง 19%YoY ด้าน PER67 อยู่ที่ 25.4x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีเกือบ 2 S.D. ถือว่าไม่แพง
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 75.00 บาท

CK การเร่งเบิกจ่ายงบฯปี 67 จะหนุน
การประชุม ครม. วานนี้มีความคืบหน้าการปรับวันพิจารณา พ.ร.บ. ร่างงบประมาณปี 67 ซึ่งคาดทูลเกล้าฯ วันที่ 3 เม.ย. จากเดิมคาดที่ 17 เม.ย. หรือเร็วขึ้น 2 สัปดาห์ สะท้อนภาพความต้องการเร่งการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐฯ ซึ่งเชื่อว่าจะเห็นการเร่งผลักดันโครงการประมูลต่างๆออกมา ซึ่งจะเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มรับเหมาฯ
เราเลือก CK เป็น Top Pick กลุ่มเพราะเป็นรับเหมาฯใหญ่ที่มีโอกาสที่จะเข้าร่วมประมูลงาน ด้านปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งสุดโดยคาดกำไร 2567 +30%YoY หนุนจากส่วนแบ่งกำไรที่ดีกว่าคาด ของ CKP ปริมาณน้ำและ BEM จากจำนวนผู้โดยสาร โดยเฉพาะนักท่องเที่ยว
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 26.00 บาท

KEY FACTOR
ตลาดหุ้นไทยที่ปรับฐานตามตลาดต่างประเทศ ก่อนเข้าสู่ช่วงการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ นำโดย 1) ตัวเลข PCE สหรัฐฯ เดือน ม.ค. 2) PMI ของทั้งสหรัฐฯและจีน ซึ่งประเมินว่าน่าจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อตลาดหุ้นไทยไม่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลาดสะท้อนการปรับมุมมองการลดดอกเบี้ยปีนี้เหลือเพียงประมาณ 3 ครั้ง ใกล้เคียงกับ Dot Plot ของ Fed บวกกับมีปัจจัยภายในประเทศ พัฒนาการเชิงบวกโอกาสการกลับมาฟื้นตัวของการใช้จ่ายภาครัฐที่เร็วขึ้น หลัง ครม. ปรับกรอบระยะเวลา พ.ร.บ. งบประมาณปี 2567 เร็วขึ้น 1) สภาผู้แทนฯ พิจารณา วาระ 2-3 วันที่ 20-21 มี.ค. จากเดิม 3-4 เม.ย. 2) วุฒิสภาพิจารณา วันที่ 25-26 มี.ค. จากเดิม 9-10 เม.ย. 3) ทูลเกล้าฯ ขยับเป็นวันที่ 2 เม.ย. จากเดิมวันที่ 17 เม.ย. ถือเป็นสัญญาณบวกที่จะนำไปสู่การขับเคลื่อนโครงการลงทุนและการใช้จ่ายภาครัฐได้เร็วขึ้นกว่าเดิมประมาณ 2 สัปดาห์

EYES ON
27 ก.พ. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ
29 ก.พ. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, PCE สหรัฐฯ
1 มี.ค. PMI ภาคการผลิตและบริการ, Caixin PMI ภาคการผลิตของจีน, ISM ภาคการผลิตสหรัฐฯ

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ