ผลประกอบการเริ่มดีขึ้นต่อเนื่องจากงานอีเว้นท์และคอนเสิร์ตคาดผ่านจุดต่ำใน 1Q23 แล้ว
เราเปลี่ยนคำแนะนำเป็น “ซื้อ” จาก “ถือ” จากราคาหุ้นปัจจุบันได้ปรับลดลง 50% ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันสะท้อนผลประกอบการปีนี้ทั้งที่คาดลดลงแล้วสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัวกระทบต่อกลุ่มบันเทิง อย่างไรก็ตาม เราคาดกำไรผ่านจุดต่ำที่สุดใน 1Q23 มาแล้ว โดยใน 3Q23F กำไรเติบโตต่อเนื่อง QoQ จากกลยุทธ์การทำการตลาดและการทำคอนเทนต์ตอบรับความนิยมผู้ชมส่งผลต่อการทำรายได้การขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ การบริหารศิลปิน และคอนเสริ์ตเพิ่มขึ้น และคาดจะดีต่อเนื่องถึงปีหน้าจากศิลปินคอนเทนต์เป็นที่นิยมตอบรับผู้ชม

คาดกำไรสุทธิ 3Q23 ลดลงเล็กน้อย YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ
เราคาด ONEE จะมีกำไรสุทธิ 3Q23F อยู่ที่ 156 ล้านบาท (-5%YoY, +28%QoQ) จากรายได้สื่อโฆษณาทีวีหดตัวเล็กน้อยทั้ง YoY และ QoQ ตามภาพรวมตลาดทีวีที่ลดลง แต่ 2) รายได้งานอีเว้นท์และคอนเสิร์ต และการบริหารศิลปินเติบโตแรง (37% ของรายได้รวม) จากคอนเสิร์ต “GeminiFourth” ดาราที่โด่งดังจากซีรีย์เรื่อง “แฟนผมเป็นประธานนักเรียน My School President” มียอดขายตั๋ว sould out 1 หมื่นที่นั่ง 2 รอบ และคอนเสิร์ต “The Golden Song” มียอดขายตั๋ว sould out 1.5 พันที่นั่ง 5 รอบ เช่นกัน สำหรับงานอีเว้นท์ในประเทศมี 8 งานและต่างประเทศ 31 งาน แสดงในกลุ่มเอเชียได้แก่ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ เป็นต้น ส่งผลให้รายได้บริหารศิลปินเพิ่มขึ้น และการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ให้กับกลุ่ม OTT platform เพิ่มขึ้นจากจำนวนคอนเทนต์ที่เพิ่มขึ้นและการปรับราคาขายเพิ่มขึ้น 30-35% จากวิธีการขายแบบ dynamic มากขึ้น คาดอัตรามาร์จิ้นและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารใกล้เคียงเดิมตามการผลิตคอนเทนท์และงานอีเว้นท์

ยังคงประมาณการเดิมคาดผลประกอบการปีนี้ลดลงและปีหน้าจะเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้น
เราคาดกำไรสุทธิ 9M23F คิดเป็น 70% ของกำไรทั้งปี และแนวโน้ม 4Q23F คาดทรงตัว จากคาดธุรกิจทีวีอ่อนตัวลงในช่วงเดือน ธ.ค. จากวันหยุดยาว แต่งานอีเว้นท์เพิ่มขึ้นในประเทศ 10 งานและต่างประเทศ 31 งาน รวม 41 งาน และมีงานคอนเสิร์ตใหญ่ “GMM Starlympic” 1 หมื่นที่นั่ง 1 รอบ ยอดขายบัตรปัจจุบัน 85% แล้ว สำหรับปีหน้าจะมีซีรีย์เรื่อง “เขียนรักด้วยยางลบ My Love Mix-UP” แสดงโดย “เจมีไนน์-โฟร์ท” ต่อยอดจากซีรีย์ดัง “My School President” ซึ่งคาดว่าจะทำรายได้ต่อยอดคอนเสิร์ตและงานบริหารศิลปินเหมือนในปี 2023 เรายังคงประมาณการเดิมปี 2023-24F คาดกำไรสุทธิปีนี้ลดลง -36.3% YoY และปีหน้าจะกลับมาเพิ่มขึ้นได้ +16.5% YoY จากคาดรายได้โฆษณาผ่านทีวีปีนี้ลดลงและปีหน้าจะกลับมาเพิ่มขึ้นได้จากคาดภาพรวมเศรษฐกิจจะค่อยๆฟื้นตัว คาดรายได้จากการขายลิขสิทธิ์ปีนี้ลดลงเนื่องจากบริษัทหันมาผลิต original content เองเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างรายได้หลายช่องทาง และคาดปีถัดไปเพิ่มขึ้นตามคอนเทนต์ใหม่ที่เพิ่มขึ้น

เราเปลี่ยนคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 5.90 บาท อ้างอิงวิธี DCF (WACC 8%,T-growth 1%) ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER24F อยู่ที่ 17.3X, คาด Dividend Yield 23F อยู่ที่ 2.3% ความเสี่ยง : ภาพรวมเศรษฐกิจส่งผลต่อการใช้จ่ายสื่อโฆษณา