News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

29 ม.ค. 2567 09:01:00 350

Market Wrap-Up

SET วันที่ 26 ม.ค.67 ปิด -7.94 จุด อยู่ที่ 1,368.15 จุด มูลค่าการซื้อขาย 48,277 ลบ.ต่างชาติขาย 2,766 ลบ.สถาบันซื้อ 416 ลบ.พอร์ตโบรกซื้อ 263 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 1,227 ลบ. มียอดซื้อสุทธิในหุ้น CPALL,BBL,CPF,BCH,CPN และมียอดขายสุทธิ PTTEP,KTB,AOT,KBANK,SCB มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 5,447 ลบ. หุ้นที่มีปริมาณ Short สูงคือ HK13,HKTECH13,JAPAN13 โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 7,385 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 77,230 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 1,756 ลบ.
ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.16%, S&P500 -0.07%, Nasdaq -0.36% ถูกแรงขายจากดัชนีเซมิคอนดักเตอร์ในตลาดฟิลลาเดลเฟีย -2.9% และ Intel -11.9% จากคาดการณ์รายได้ Q1/67 ต่ำกว่าคาด ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +1.11% สูงสุดในรอบ 2 ปี ได้แรงหนุนจากดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหรายุโรป +6.7%, เฮลธ์แคร์ +1.3%

Market View

DJIA +0.65%, S&P500 +1.06%, Nasdaq +0.94% WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มผู้ผลิตชิป AI เช่น Nvidia, Broadcom กอปรกับ US GDP Q4/66 +3.3% ดีกว่าคาด +2.0% QoQ ขณะที่รายงาน US Core PCE ธ.ค. ลดลงอยู่ที่ 9% & พ.ย. 3.2% YoY แต่ ธ.ค. 0.1%& พ.ย. 0.1% MoM บ่งชี้แม้ว่าเงินเฟ้อสหรัฐมีแนวโน้มลดลง แต่ยังลงไม่เร็วพอ ส่งผลให้ CME Fed Watch ชี้มีโอกาส 90% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยใน พ.ค. สัปดาห์นี้ติดตามประชุมเฟดวันที่ 31 ม.ค. / วันศุกร์ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ม.ค. คาด 162,000 & ธ.ค. 216,000 ราย และอัตราว่างงานสหรัฐทรงตัวที่ 3.7%
Stoxx600 +3.1% WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี, สินค้าหรูหรา ขณะที่การประชุม ECB มีมติคงดอกเบี้ยที่ 4% หลัง CPI ยูโรโซน ธ.ค. ยังอยู่ระดับสูงที่ 9% YoY แต่ตลาดคาด ECB มีโอกาสลดดอกเบี้ยปีนี้ลงราว 1.30 % หลังเศรษฐกิจยูโรโซนมีสัญญาณชะลอตัว วันอังคารติดตาม GDP ยูโรโซน Q4/66, พฤหัส การประชุม BOE และ CPI ยูโรโซน ม.ค.
MSCI Asia Pacific Index +0.79% WoW ได้แรงหนุนจากดัชนีหุ้นจีนปรับขึ้น หลัง ธ.กลางจีนเตรียมลดอัตรา RRR ของ ธ.พาณิชย์ลง 5% ในวันที่ 5 ก.พ. ซึ่งช่วยหนุนสภาพคล่องได้ราว 1.39 แสน ล.ดอลลาร์ ขณะที่ดัชนีนิเกอิถูกแรงขายทำกำไร หลัง ปธ.BOJ มีความเห็นต่อ ม.การเงินที่ตึงตัวมากขึ้น ส่งผลให้อาจเริ่มยุติ ม.ผ่อนคลายในช่วง 2H/67
สัปดาห์ที่ผ่านมา SET -1.04% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย 4.86 หมื่น ลบ. +6.2% WoW ต่างชาติขาย 11,413 ลบ. รายย่อยซื้อ 9,143 ลบ. สถาบันซื้อ 2,601 ลบ. โดยกลุ่มอิเล็ก ฯ -2.3% จากความกังวลเฟดยังตรึงดอกเบี่ยสูงต่อและอุปสงค์เซมิคอนดักเตอร์ฟื้นตัวช้า ขณะที่กลุ่มไฟแนนท์ -2.2%,ค้าปลีก -2.1% หลัง สศค.ปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยปี 66 ลงอยู่ที่ 1.8% แต่ดัชนีได้ปัจจัยจากกลุ่มท่องเที่ยว, ปิโตรเคมี หลังจีนเริ่มออก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจ และการลงนามฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวไทย – จีน ส่วนรายงานงบ Q4/66 ของ SCC -1,130 ลบ. เป็นผลจากธุรกิจปิโตรเคมีฟื้นตัวช้าและการตั้งด้อยค่าโรงปูนในพม่า สัปดาห์นี้ติดตามกำไร Q4/66 PTTEP ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์คาดที่ 1.64 หมื่น ลบ. -9% QoQ, +5% YoY และวันพุธ ศาล รธน.จะวินิจฉัยพรรคก้าวไกลหาเสียงให้ยกเลิก ม.112 นั้นผิด รธน.หรือไม่

Daily Strategy

ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,355 – 1,360 แนวต้าน 1,380 รอผลการประชุมเฟดค่ำวันพุธ และรายงานกำไร บจ. แนะนำทยอยซื้อ AOT,AAV,CPALL,MINT,CENTEL,ERW,SPA (+ ม.ฟรีวีซ่าไทย – จีน)/ เก็งกำไร PTTEP,RCL,PRM จากความไม่สงบในตะวันออกกลาง
AAV (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 60 บาท) แนวโน้ม 4Q66 คาดผลการดำเนินงานปกติจะฟื้นตัวดีขึ้น QoQ, YoY โดยมีปัจจัยหนุนจากจำนวนผู้โดยสารเส้นทางระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นในช่วง High season การท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังได้รับอานิสงส์จากการมาตรการฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีน อินเดีย ไต้หวัน นอกจากนี้คาดว่าจะมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามาช่วยจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าระหว่างไตรมาส แนวโน้ม 1Q67 ภาพยังเป็นบวกต่อเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวเดือน ม.ค.โดยเฉพาะชาวจีนที่ฟื้นตัว และน่าจะเพิ่มมากขึ้นในช่วงเทศกาศตรุษจีน
STA* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 90 บาท) ผู้บริหารวางเป้า Volume ขายยางธรรมชาติ(NR) ในช่วง 4Q66 ที่ 2.8-3 แสนตัน และ ปี67 ที่ 1.5 ล้านตัน(จาก 9M66 ที่ 9.9 แสนตัน) ขณะที่ในด้าน Demand-Supply NR ในช่วงถัดไป แม้ว่าจะยังไม่มีสัญญาณการเพิ่มของ Demand ที่ชัดเจนแต่ Supply อยู่ในภาวะที่เริ่มไม่ล้นตลาดแล้วจาก Supply ฝั่งอินโดนีเซียลดลง และสภาพภูมิอากาศในปีเอลณีโญ ทั้งนี้ ทางฝ่ายวิเคราะห์คิงส์ฟอร์ดคาดว่า STA* ยังมี Sentiment บวกจาก 1.ม.กระตุ้นเศรษฐกิจของจีน 2.ตัวเลขส่งออกยางแท่งต.ค.66 +16.6%YoY/พ.ย.66 +36.0%YoY/ต.ค.66 +23.7%YoY 3.SICOM TSR20 Rubber Spot ปัจจุบันที่ปรับสูงขึ้นโดยเฉลี่ยจาก 4Q66

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI มี.ค. +$0.65 อยู่ที่ $78.01/บาร์เรล Brent มี.ค. +$1.12 อยู่ที่ $83.55/บาร์เรล สัปดาห์ที่ผ่านมา WTI +6.5%, Brent +6.4% WoW ได้แรงหนุนจากอุปสงค์การใช้น้ำมันสหรับเพิ่มขึ้น กอปรจีนออก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่กลุ่มกบฏฮูตีโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันในอ่าวเอเดน

Gold Update(-) Comex Gold ก.พ.-$0.50 อยู่ที่ $2,017.30 /ออนซ์ สัปดาห์ที่ผ่านมา -0.67 % WoW ระหว่างรอการประชุมเฟดวันที่ 31 ม.ค. ซึ่งตลาดคาดเฟดยังคงดอกเบี้ย

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมา ขายสุทธิ
-340.20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -320.32 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโด ฯ +14.08 ขายหุ้นฟิลิปปินส์ -33.96 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 35.57 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.13 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +19 จุด อยู่ที่ 1,518

(-) BitCoin เช้านี้ -0.10% อยู่ที่ 42,070 ดอลลาร์สหรัฐ

Economic Calendar

ในประเทศ

29 ม.ค. ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์

31 ม.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที5 สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

(ม.ค.67)

สัปดาห์ที2 ดัชนีความเชื่อมันผู้บริโภค

(ก.พ.67)

ต่างประเทศ

30 ม.ค. US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (ม.ค.)

US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTs (ธ.ค.)

31 ม.ค. CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน (ม.ค.)

US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP)(ม.ค.)

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

01 ก.พ. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (ม.ค.)

US การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย

US การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ FOMC

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (ม.ค.)

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

02 ก.พ. US อัตราการว่างงาน (ม.ค.)

US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) (ม.ค.)

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตัวรับความหวังเศรษฐกิจจีนเริ่มดีขึ้น ลุ้น Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย

(1)กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT, HMPRO, ILM, CPN, CRC, MC, KAMART, CBG, ICHI, RBF

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัวจากฐานต่ำปี66 AAI, ITC, TU, COCOCO, SAPPE, DELTA, KCE, EPG, NYT, SJWD

(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT, CENTEL, ERW, SPA, SISB, WPH

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC, TIDLOR

(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ เริ่มลดลง BGRIM, GPSC

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA, SUSCO

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio January 2024: MENA*, TU*, MEGA*, SPA*, SNNP*, INTUCH*

Analysts

Apichai Raomanachai