AT THE OPEN (#ATO)
SET Index รีบาวน์
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีโอกาสถูก Short Covering

Market Strategy
คาด SET Index รีบาวน์ตามกรอบ 1370-1390 จุด สภาพแวดล้อมต่างประเทศเป็นไปในทางที่ดีจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ยังยืนในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่(S&P500/NASDAQ ปรับขึ้น 0.08%/0.36% แต่ Dow Jones ปรับลง -0.25%) จากแรงหนุนของการผลประกอบการที่ช่วยหนุนหุ้นกลุ่ม Tech ปรับขึ้น (บวกต่อหุ้นกลุ่มอิเล็คฯ) ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ 0.6% จาก EIA รายงานการผลิตน้ำมันสหรัฐฯ ลดลง 1mbpdมาที่ 12.3 mbpd และสต๊อคน้ำมันดิบที่ปรับลง 9.23 mb ต่ำกว่าตลาดคาด 2.3 mb ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพอากาศหนาวในสหรัฐฯ (บวกต่อกลุ่มพลังงาน) ฝั่งจีนการประกาศปรับ RRR ลง 50 bps ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องสู่ระบบเศรษฐกิจราว 1 ล้านล้านหยวนผสานกับการออกมาตรการพยุงหุ้นเมื่อวันก่อน 2.3 ล้านล้านหยวน เป็นแรงหนุนต่อตลาดหุ้นจีนเป็นบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาค

ประเด็นทางการเมืองในระยะสั้นคลี่คลายชั่วคราวจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณพิธารอดกรณีถือหุ้น ITV แต่ยังต้องให้น้ำหนักไปที่วันที่ 31 ม.ค.ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีพรรคก้าวไกลเสนอแก้ ม.112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่ กลยุทธ์การลงทุนวันนี้เลือกหุ้นที่มีโอกาสถูก Short Covering

Market Summary
SET Index บวกกระชากใจ 24.65 จุดหรือคิดเป็น 1.82% จากจีนออกมาตการลด RRR และประเด็นการเมืองในประเทศที่ผ่อนคลายลง (ชั่วคราว) หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณพิธารอดกรณีถือหุ้น ITV กลุ่มที่ปรับขึ้นเด่น นำโดย กลุ่มไฟแนนซ์ที่ปรับขึ้น 3.52% กลุ่มค้าปลีก +3.36% และกลุ่มรับเหมาฯ +3.33% แต่นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิ 571 ล้านบาท

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ KTC OR

OR โอกาส
ผลประกอบการ 4Q66 มีแนวโน้มขยายตัว YoY เทียบกับ 4Q65 ที่ขาดทุน แต่จะหดตัว QoQ จากค่าการตลาดที่ลดลงรวมถึงค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่สูงตามช่วงฤดูกาลและอาจมีการบันทึก Stock Loss จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลง
ด้านความเสี่ยง Policy Risk จะเบาลงจากทิศทางราคาน้ำมันที่ขึ้นจำกัดและมาตรการช่วยตรึงราคาน้ำมันที่ผ่านมาใช้กลไกของกองทุนน้ำมันเป็นหลักจึงกระทบจำกัดต่อการผลดำเนินงาน
ในระยะสั้นมีโอกาสได้ผลบวกจากทำ Short Covering หลังช่วง 17-23 ม.ค. มีปริมาณการ Short Sales ที่ 25% ปริมาณการซื้อขายโดยรวม
ป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 19.50 บาท

KTC มีป้อมปราการที่แข็งแกร่ง
เชื่อว่าราคาหุ้นมีโอกาสลุ้น Rebound ตามตลาดโดยรวม จากแรงส่งของการ ทำ Short Covering หลังจากช่วง 5 วันก่อนหน้า (17-23 ม.ค.) มีปริมาณ Short Sales อยู่ในระดับ 27% ของปริมาณการซื้อขายโดยรวมสูงกว่าตลาดที่ค่าเฉลี่ยอยู่ราว 12.5%
ด้านกำไร 4Q66 ที่รายงานออกมาขยายตัว YoY แต่หดตัว QoQ ถือว่าเป็นไปตามคาด แต่จุดที่น่าสนใจคือคุณภาพสินทรัพย์ยังมีพัฒนาการที่ดีขึ้นจาก NPL 4Q66 อยู่ที่ 2.19% ลดลงจาก3Q66 ที่อยู่ 2.34% ขณะที่ Coverage Ratio ขึ้นมาที่ 400% เป็นป้อมปราการที่ช่วยลดความผันผวนของผลประกอบการในอนาคต
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 54.00 บาท

KEY FACTOR
ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวแรง +1.82% Outperform ตลาดหุ้นภูมิภาค จากแรง cover short หุ้นกลุ่มที่ปรับตัวลงไปมากในช่วงก่อนหน้า นำโดย COMM ENERG ETRON ผสานกับเป็นจังหวะเดียวกับที่มีปัจจัยบวกเข้ามาช่วยกระตุ้น 1) ความกังวลสถานการณ์การเมืองในประเทศผ่อนคลายลง หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการถือครองหุ้น ITV ของ คุณพิธา ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ 2) ทางการจีนส่งสัญญาณปรับลด RRR ลง 50 bps จาก 10.5% สู่ระดับ 10.0% ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องสู่ระบบเศรษฐกิจประมาณ 1 ล้านล้านหยวน เป็นปัจจัยบวกที่ช่วยฟื้นความเชื่อมั่นต่อตลาดหุ้นภูมิภาค
ทิศทางตลาดหุ้นไทยน่าจะมีโอกาสลุ้นค่อยๆ สร้างฐาน และมีโอกาสที่จะค่อยๆ ลดความผันผวนลงในช่วงถัดไป แต่อย่างไรก็ตามในช่วงการฟื้นตัวยังคงต้องระมัดระวัง ยังมีปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองในสัปดาห์หน้า ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยมีคดีพรรคก้าวไกล กรณีเสนอแก้ไข ม.112 เป็นนโยบายหาเสียงที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่

Eyes on
ในสัปดาห์ : การรายงานงบ 4Q66
25 ม.ค. GDP 4Q66 ของสหรัฐฯ, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ, ประชุม ECB

กลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ