ภาวะตลาด : SET Index วานนี้ -3.02 จุด ปิดที่ 1410.43 โดยมี แรงซื้อกองทุน RMF/SSF/TESG ช่วยพยุงแต่ไม่คึกคักเหมือน LTF ในอดีต ตั้งแต่ ต้นปี-27ธ.ค.66 ดัชนีตลาดหุ้นไทยลดลง -15.5% แย่กว่าตลาดหุ้นโลกจากหลายปัจจัย เช่น ดอกเบี้ยเฟดขึ้นเร็วทําให้เงินไหลออกไปลงทุนในเงินดอลลาร์และตราสารหนี้ระยะสั้นสหรัฐ เศรษฐกิจไทยเติบโตตํ่ากว่าที่เคยคาดไว้ วิกฤตเชื่อมั่นตลาดหุ้นกู้หลังมีกรณี ALL, MORE, STARK, CHO ฯลฯ มีช่วงเวลาที่การเมืองไม่ชัดเจน การตั้งรัฐบาลและงบประมาณปี 67 ล่าช้า โครงการดิจิตอลวอลเล็ตยังไม่แน่นอน รวมถึงเรื่องโปรแกรมเทรด & ชอร์ตเซลทําให้รายย่อยชะลอการลงทุน ฯลฯ โดยรวม นลท.ต่างชาติขายสุทธิ 1.96 แสนลบ. ใน YTD
ปัจจัยต่างประเทศ
+ จีน : กําไร บ.ภาคอุตสาหกรรมพ.ย.พุ่ง +29.5%YoY โดยปรับขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ...นวค.คาดศก.จีนจะโต +5% ปีนี้จากมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล
ปัจจัยในประเทศ
+ คาดว่าภาคท่องเที่ยว & medical tourism จะดีขึ้นในปี 67 หนุนโดยนทท.ต่างชาติที่เข้ามามากขึ้น, กลุ่มดิจิตอล ความปลอดภัยไซเบอร์ก็ไปได้ดี
+ การจับจ่ายใช้สอยในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.67 คึกคักขึ้น เป็นผลจากมาตรการกระตุ้น Easy E-Receipt หุ้นกลุ่มค้าปลีกและโรงแรมได้ประโยชน์ เช่น BJC, CPALL, CPAXT, COM7, HMPRO, GLOBAL, DOHOME, MC, CPN, CRC ฯลฯ
ปัจจัยติดตาม : ตัวเลขภาคแรงงานธ.ค.ของสหรัฐ, ดัชนี PMI ภาคผลิต/บริการเดือนธ.ค.ของประเทศต่างๆ, ผลมาตรการ EasyE-receive ใน 1Q67F
กลุยทธ์ : เล่นรอบ – เลือกซื้อเมื่อ SET เหนือ 1400 สําหรับปัจจัยภายนอกมี Sentiment บวกจากที่คาดว่าเฟดมีโอกาสลดดบ.เร็วขึ้นเพื่อหลีก ศก.ถดถอย ค่าเงิน US$อ่อน หวัง Fund Flow กลับมาในปี 67F ส่วนภายใน มีแรงซื้อหุ้นจากกองทุน RMF/SSF/TESG และสะสมหุ้นเติบโต/ฟื้นตัวในปี 67F ในทางเทคนิค ระยะสั้นมากสัญญาณเลบเล็กๆ ให้แนวต้านระยะสั้น 1420, 1430 Stoplossถ้าหลุด 1400 แนวเด้งสั้น 1390-1380, 1370 หุ้นเด่นวันนี้เป็น TISCO, DOHOME
Update อุตสาหกรรม & หลักทรัพย์ : 1) ตลาดหุ้นไทยเริ่มปรับหลักทรัพย์คํานวณ SET50/SET100 วันนี้ (28 ธ.ค.) ซึ่งจะมีผลในช่วง 1 ม.ค.-30 มิ.ย.67 , 2) เริ่มเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว BTS ส่วนต่อขยายอัตรา 15 บาท มีผล 2 ม.ค.67 เป็นต้นไป
Stock Pick Today : ERW ผู้บริหารคาด RevPar ใน 4Q66F เพิ่มขึ้นต่อ QoQ โดยอัตราเข้าพักสูงกว่า 80% นําโดยนักท่องเที่ยวรัสเซียที่เข้าพักในภูเก็ตเพิ่มขึ้น แต่คชจ.สูงเพราะมี Pre-opening โรงแรมใหม่เข้ามาทําให้กําไรสุทธิบรรทัดสุดท้ายจะไม่ดีนักแต่...กําไรปี 64F จะเติบโตราว 20% จาก 1) การปรับขึ้นค่าห้องพัก, 2 ) จํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเพิ่ม, 3) มีโรงแรมใหม่เข้ามา 15 แห่ง โดยเปิด 4 โรงแรมในญี่ปุ่นใน 1Q67F, เปิด Hop Inn ในไทย 8 แห่ง และในฟิลิปปินส์ 3 แห่ง, 4) ไม่มีคชจ.พิเศษก้อนใหญ่ แนะนําซื้อ ราคาเป้าหมาย 6 บาท ความเสี่ยง คือ ภาคท่องเที่ยวฟื้นช้ากว่าคาด
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@th.dbs.com : Tel 02 587 7829