AT THE OPEN (#ATO)
SET Index เม็ดเงินสถาบันในประเทศหนุน
เลือกหุ้นได้ประโยชน์ TESG/Window Dressing

Market Strategy
SET Index วานนี้ปิดลบไป 3 จุด หยุดสถิติการบวกติดต่อกันของรอบนี้ไว้ที่ 9 วัน โดยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นขึ้นมาในระดับ 3.9 หมื่นล้านบาท ความผันผวนเกิดขึ้นมาในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายซึ่งเราเชื่อว่าปัจจัยหลักมาจากการเร่งปิดสถานะ/Rollover ในตลาด TFEX ในส่วนของ Series Z จึงมองเป็นปัจจัยชั่วคราว

สำหรับสภาพแวดล้อมต่างประเทศยังอยู่ในภาวะ Risk On สะท้อนจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ยังยืนในแดนบวกในช่วง 0.14% ถึง 0.3% , Bond Yield 10 ปีลดลงมาที่ 6.9 bps มาที่ 3.81% จะมีเพียงแต่ราคาน้ำมันดิบ Brent ที่วานนี้ปรับลง 1.8% จากรายงานบริษัทขนส่งสินค้ายังกลับมาเดินเรือทางช่องทางทะเลแดง ทั้งๆ ที่วานนี้กองกำลังฮูติจะมีการโจมตีเรือขนส่งสินค้าก็ตาม ซึ่งอาจกลับมาสร้างแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงานและโรงกลั่นได้ในระยะสั้น แต่อย่างไรก็ตามเรามองว่าหากประเด็นนี้คลี่คลายจะลดความเสี่ยงต่อภาคการส่งออก ซึ่งจะเป็นบวกต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นมากกว่า

ด้านทิศทาง Fund Flow ต่างชาติแม้วานนี้ขายสุทธิ 791 ล้านบาท แต่หากประเมินจาก Dollar Index อ่อนค่าทำจุดต่ำสุดในรอบ 5 เดือน สวนทางเงินบาทที่แข็งค่ามาที่ 34.26 บาท/USD จึงยังมีโอกาสไหลกลับเข้ามาสู่ตลาดหุ้นอีกครั้ง ส่วนแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันในประเทศเราเชื่อว่าจะยังมีต่อเนื่องจากเม็ดเงินโค้งสุดท้ายจากกองทุน TESG/SSF และ RMF ที่เข้ามา ภายใต้สภาพแวดล้อมข้างต้นจึงคาด SET Index แกว่งขึ้นตามกรอบ 1400-1420 จุด กลยุทธ์เลือกหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก TESG/Window Dressing

Market Summary
SET Index วานนี้ปรับลง 3.02 จุดหรือคิดเป็น -0.21% โดยแรงกดดันส่วนหนึ่งมาจากแรงขายทำกำไร จากการปิดสถานะ/Roll over TFEX ในส่วนของ Series Z โดยกลุ่มที่กดดันตลาดมาจากกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ลดลง -2.92% กลุ่มไฟแนนซ์ -1.13% สวนทางกับกลุ่มที่อิงภาคท่องเที่ยวฟื้นตัวที่ Outperform ตลาด เช่นกลุ่มโรงแรม +0.73% กลุ่ม ร.พ. +0.73% และกลุ่มขนส่ง +0.53%

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ CPN, COM7

COM7 หนึ่งในผู้ได้ประโยชน์สูงสุดจาก Easy E-Receipt
คาดการณ์การเติบโตของ EPS ที่ 14% และ 20% ในปี 67-68E โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดอย่างต่อเนื่อง (เป้าหมายของผู้บริหารที่ 35% ภายในปี 68E) นอกจากนี้เรายังเชื่อว่า COM7 คือผู้ได้รับประโยชน์หลักจากมาตรการ Easy E-Receipt
ราคาหุ้นเทรดที่ Forward PER67E ที่ 15.8 เท่าต่ำกว่าเฉลี่ยย้อนหลังกว่า -1 S.D. เมื่อเทียบการเติบโตกำไรที่ดีและ ROE ที่สูง 37% นอกจากนี้ยังเชื่อว่า COM7 มีโอกาสได้แรงหนุนจาก Window Dressing ในวันนี้อีกด้วย
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 32.50 บาท

CPN กำไรโตดี ลุ้น TESG หนุน
กำไร 4Q66F คาดขยายตัว 34%YoY ตามทิศทางรายได้ แต่ชะลอลง -11%QoQ จากค่าใช้จ่ายทำการตลาดที่สูง แต่กำไรปี 2567 คาดขยายตัว 5%YoY ปัจจัยหนุนจากการเปิดตัวโครงการใหม่ มาตรการ Easy E-Receipt และต้นทุนค่าไฟที่ลดลง ขณะที่ Valuation ซื้อขายอยู่บน Forward PER67E ที่ 20 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 25 เท่า
CPN มี ESG Rating ที่ระดับ AA และถูกคำนวณในดัชนี SETESG จึงเชื่อว่ามีโอกาสได้แรงหนุนจากกองทุน TESG โค้งสุดท้ายวันนี้สนับสนุน
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 75.00 บาท

KEY FACTOR
เข้าสู่วันซื้อขายวันสุดท้ายก่อนหยุดยาวปีใหม่ บทสรุป SET Index ในปีที่ผ่านมา ให้ผลตอบแทน -15.48% YTD ถือเป็นหนึ่งในตลาดที่ Underperform ภูมิภาค กระแสเงินลงทุนต่างชาติขายสุทธิ -1.96 แสนล้านบาท และหากพิจารณาเทียบจากต้นปี Consensus ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2566 ลงจาก +3.7% ลงสู่ระดับ +2.5% (-1.2%) ถือเป็นการปรับลดมุมมองการเติบโตทางเศรษฐกิจลงมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 รองจากเวียดนาม จากความไม่แน่นอนมาตรการด้านเศรษฐกิจต่างๆ งบประมาณที่ล่าช้ารวมถึงภาคการส่งออกที่น่าจะปิดปีหดตัวลงจากปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามหากมองข้ามไปยังปีหน้า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยน่าจะเปิดปีด้วยความคาดหวังเชิงบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นำโดย Easye-Receipt ให้สิทธิ์แก่ผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีบุคคลธรรมดา ที่ซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษี ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 15 ก.พ. 67 มาใช้หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับปีภาษี 2567 ได้ไม่เกิน 50,000 บาท รวมถึงมาตรการอื่นๆที่จะชัดเจนมากขึ้น 2) การกำหนดค่าไฟฟ้า สำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 300 หน่วยต่อเดือน ซึ่งจะพิจารณาตามต้นทุนก๊าซช่วงต้น ม.ค. 67 รวมทั้งประเด็น พ.ร.บ. เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ที่กฤษฎีกาจะให้ความเห็นช่วงต้นปี

Eyes on
28 ธ.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ