*ฝั่งต้นน้ำ (น้ำมันดิบ) +1-4% w-w ปัจจัยบวกมาจากความกังวล supply น้ำมันตึงตัวจากเหตุโจมตีเรือขนส่งในบริเวณทะเลแดงส่งให้การยกเลิกเดินเรือในบริเวณดังกล่าวต่อเนื่อง (ปริมาณน้ำมันผ่านบริเวณดังกล่าวราว 2mbd หรือราว 2% ของ supply โลก) คงมุมมอง ธ.ค. 23 น้ำมันดิบลด m-m การลดกำลังการผลิตของ OPEC+ ไม่ได้มากอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่กังวล demand น้ำมันดิบโลกมีแนวโน้มชะลอ ทั้งการนำเข้าของจีน และ EU

* ฝั่งโรงกลั่น ค่าการกลั่นสิงคโปร์ +3% w-w ตาม spread gasoline, jet, gasoil +3-4% w-w ความต้องการใช้ในภูมิภาคเอเชีย และความกังวล supply ตึงตัวจากเหตุโจมตีเรือขนส่งในทะเลแดง คงมุมมอง ธ.ค. 23 ค่าการกลั่นฟื้น m-m จาก demand ช่วงฤดูหนาว และ demand น้ำมันจีนฟื้น

*ฝั่งปิโตรเคมี มีทั้งบวกและลบ i) สายโอเลฟินส์ HDPE/PP spread -1%/ +2% w-w ตามลำดับ ทรงตัวได้ในขณะที่ราคา feedstock ปรับขึ้นเยอะ จากความต้องการ re-stock จีน และการปิดซ่อมของบางโรงผลิต เข้ามาหนุน ii) สายอะโรเมติกส์ PX spread +1% w-w ได้ supply ในจีนที่ตึงตัวหนุน ส่วน BZ spread -2% w-w ความต้องการของ downstream ชะลอ และ iii) สายโพลีเอสเตอร์ (PET) -9% w-w ถูกราคา MEG ที่เพิ่มจาก supply ตึงตัว ฉุด มองเดือน ธ.ค. 23 spread ปิโตเคมี สายโพลีเอสเตอร์ ยังเด่นสุด ฟื้น m-m (ฐานต่ำ) ได้ราคา feedstock ลดลง เป็นหลัก

* ภาพสัปดาห์ PTTEP และ โรงกลั่นเด่น คงมุมมอง ธ.ค. 23 กลุ่มพลังงานขาด catalyst ฝั่งต้นน้ำราคาน้ำมันดิบลดลง ฝั่งโรงกลั่น ถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงจาก ก.ย. 23 (เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 13 $/bbl Vs. 3Q23 ที่เพิ่มขึ้นจาก มิ.ย. 23 เฉลี่ย 18 $/bbl) ส่งให้มี stock loss ก้อนใหญ่ ซึ่งกลบปัจจัยบวกค่าการกลั่น ฝั่งปิโตรเคมี มีเพียงสายโพลีเอสเตอร์ที่ spread ฟื้นตัวจากฐานต่ำ แต่มีความเสี่ยง stock ก้อนใหญ่ (ราคา feedstock ลดลงตามน้ำมันดิบ) เช่นเดียวกับกลุ่มโรงกลั่น