Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.กรุงศรี พัฒนสิน : KCS Daily Strategy

369

 

"TESG Plays"

 

KCS Daily Strategy : คาดตลาด "Sideways/Up" ต้าน 1415/1423จุด รับ 1401/1397จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดทำการ ทั้งนี้ เราเชื่อว่า SET มีโอกาสเป็นภาพ Santa Claus Rally ได้ต่อ หนุนหลักจากยอดส่งออก -นำเข้า พ.ย. 23 บ่งชี้ภาพบวกการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ส่งออก +4.9%y-y เติบโต y-y ต่อเนื่อง 3 เดือน ขณะที่การนำเข้าสินค้าทุนเร่งขึ้น y-y ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 บ่งชี้ภาพภาคผลิตฟื้นตัว ผสาน FDI ทยอยเข้ามาต่อเนื่อง ล่าสุดคือ ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น 4 เจ้าหลักประกาศลงทุน 1.5 แสนล้านบาทใน 5ปีข้างหน้า จะดีต่อทิศทาง GDP 2024 เติบโต > ศักยภาพ 3.0% ขณะที่หุ้นไทยอยู่ในโซนลงทุน Bond Yield ไทย 10ปี แกว่งลงต่อเนื่องจากจุดสูงสุด -66 bps Equity Risk Premium 2023 ล่าสุดพุ่งสู่ 3.21% > avg 3.06% จูงในเม็ดเงินเข้าสู่ตลาดหุ้น ผสาน เม็ดเงินใหม่ TESG NAV กองหุ้นเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มองหุ้นนำ คือ กลุ่มได้ประโยชน์ Yield พีค (โรงไฟฟ้า เช่าซื้อ Growth) กลุ่มหนุนเศรษฐกิจไทยฟื้นปี 2024+ได้เม็ดเงิน TESG เพิ่มน้ำหนัก แนะนำ AOT, GPSC, MTC

Daily outlook : "Sideways/Up" ต้าน 1415/1423 จุด รับ 1401/1397 จุด

What happened around the world ?

•(*/+) US Stocks : ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการจากเทศกาลคริสมาสต์

•(*) China : จีนออกใบอนุญาตให้กับรายการเกมส์ท้องถิ่น 105 เกมส์วานนี้ โดยรายการเกมส์ที่ได้รับอนุญาตมีเกมส์ของ Tencent และ Netease ด้วย สะท้อนถึงการควบคุมอุตสาหกรรมเกมส์ที่ได้มีมาตรการออกมาช่วงปลายสัปดาห์ก่อนอาจจะไม่ได้เข้มงวดเท่าที่ตลาดคาด เรามองเป็น Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นอิงจีน KCS มองแนวโน้มหุ้นจีนที่เริ่มดีขึ้นดังกล่าวสะท้อนภาพบวกเชิงจิตวิทยาของหุ้นกลุ่ม China Plays ที่ปรับลงแรงเมื่อทางการจีนประกาศใช้ข้อบังคับดังกล่าวเมิ่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เราแนะนำ SCGP, PTTGC, IVL , DOHOME, GLOBAL

•(*) BOJ : ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่ (BOJ) เผยมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่ BOJ จะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% (ล่าสุด เงินเฟ้ออยู่ที่ 2.8%y-y) และ BOJ จะพิจารณาเรื่องการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน MUFG คาด จะเริ่มขึ้นดอกเบี้ยนโยบายใน 1Q24 (หรืออย่างช้าไม่เกินเดือน เม.ย.2024) เรามองตลาดหุ้นญี่ปุ่นระยะสั้นเป็นพักตัว และ Upside ทางขึ้นเริ่มจำกัด เรายังให้น้ำหนักในตลาดญี่ปุ่นเป็น Slightly Overweight แต่มีแนวโน้มที่จะปรับลงมาเป็น Neutral ช่วงถัดไป

• (*) To monitors : ฝั่งจีน 27 ธ.ค. รายงานกำไรภาคอุตสาหกรรมจีน พ.ย.23 ยังไม่มีคาด vs prev. +2.7%y-y และโค้งสุดท้ายของปีติดตาม ธนาคารกลางจีนมีโอกาสดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในช่วงปี 2024 (คาดอย่างเร็วคือ ต้น 1Q24) คาดหมายจะเห็นมาตรการ QE ฝั่งสหรัฐ 28 ธ.ค. ยอดสินค้าปลีกคงคลัง พ.ย. ตลาดคาด -0.2%m-m vs prev. -0.4%m-m และรายงานยอดขายที่อยู่อาศัยรอการปิดการขาย พ.ย. ตลาดคาด +1.0%m-m vs prev -1.5%m-m

• (*) US Bond & Dollar : Bond yield และ Dollar ไม่มีการเทรดจากเทศกาลคริสมาสต์

• (*) Oil : น้ำมันดิบไม่มีการเทรดจากเทศกาลคริสมาสต์

 

What happened in Thailand?

• (*/+) SET: SET ซื้อขายเบาบาง เนื่องจากวันหยุดในต่างประเทศ ก่อนปิด +0.27% และยืนเหนือ 1400 จุดเป็นวันที่ 4 กลุ่มหนุน คือ กล่มชิ้นส่วนฯ (DELTA) ภาพบวกยอดส่งออกไทย พ.ย. 23 ขยายตัว y-y เป็นเดือนที่ 3 หนุน กลุ่มการแพทย์ (BDMS) มองรีบาวน์หลัง Underperform ช่วงก่อนหน้า กลุ่มถ่วง คือ กลุ่มธนาคาร (BBL, BAY, SCB) จิตวิทยาลบภาพวงจรดอกเบี้ยใกล้สู่ขาลงชัดขึ้น หลังเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯออกมาต่ำกว่าตลาดคาด กลุ่มปิเตรเคมี (IVL, PTTGC) จิตวิทยาลบฝั่งจีนที่ยังคงมีประเด็นการควบคุมธุรกิจเกมส์

• (*) Flow : เงินทุนต่างชาติไหลออก ขายหุ้น -8.6 ล้านเหรียญฯ ขายพันธบัตร -4.1 ล้านเหรียญฯ TFEX Net Longที่ +15,089 สัญญา เงินบาทแข็งค่า 34.5 +/- บาท

• (*/+) TH Export: ยอดส่งออกไทย พ.ย. 23 +4.9%y-y ใกล้เคียงคาด และบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 สินค้าเด่น ได้แก่ ยางพารา +14.5%y-y (vs 11M23 -31.5%y-y) อาหารทะเล +2.5%y-y (vs 11 M23 -9.2%y-y) อาหารสัตว์เลี้ยง +3.3%y-y (vs 11M23 -15.2%y-y) อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ ไดโอด +40.5%y-y (vs 11M23 +61.6%y-y) จิตวิทยาบวกต่อ STA, NER, TU, ITC, KCE, DELTA เน้น KCE(TP-63), TU(TP-15.8)

ขณะที่ยอดนำเข้า +10.1%y-y ใกล้เคียงคาด และ prev. ที่ +10.5%y-y องค์ประกอบกลุ่มหนุนหลัก คือ สินค้าทุน +23.9%y-y(vs 11M23 +4.5%y-y) เร่งต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 มองบ่งชี้สัญญาณสำคัญต่อภาพภาคผลิตฟื้นตัว ดังนั้น แม้ขาดดุลการค้าจะสูง -2.4 พันล้านเหรียญฯ และอาจมีผลกระทบดุลบัญชีเดินสะพัด พ.ย. 23 เสี่ยงพลิกขาดดุล แต่เรามองไม่น่ากังวล

• (*/+) TH Bond: TH Bond Yield 10 ปีแกว่งตัวลงต่อเนื่อง วานนี้มีจังหวะแตะระดับ 2.7% ก่อนฟื้นปิดตัวที่ 2.72% (vs.กลางสัปดาห์ที่แล้วที่ 2.81% VS. ต้นเดือน ธ.ค. 2.98% และเทียบ Peak สุดของปีช่วงกลางเดือน ต.ค.23 ที่ 3.38%) KCS มอง SET อยู่ในโซน Equity Risk Premium 2023 ที่ 3.21%-3.23% กลับมาสูงกว่าค่าเฉลี่ย 3.06% ลุ้นเม็ดเงินทยอยสลับสู่ SET Index ระยะถัดไปเน้นหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า BGRIM, GPSC และกลุ่มการเงิน SAWAD, JMT

• (*/+) TESG: นับถึงวานนี้ (25 ธ.ค.) ยอดกองทุน TESG มียอด NAV กองทุนหุ้นทั้งสิ้น 2.67 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันศุกร์ (22 ธ.ค.) พฤ. (21 ธ.ค.) และพุธ (20 ธ.ค.) ซึ่งอยู่ที่ 2.38 , 1.5 และ 1.36 พันล้านบาท ตามลำดับ

กลยุทธ์เน้นหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง อยู่ในโซนลงทุน และปรับลง > ตลาดที่ลงรอบนี้ (vs 30 ส.ค.) ได้แก่ AOT(คาดเม็ดเงินเข้า 519-779 ล้านบาท) CPALL (453-680 ล้านบาท) DELTA(403-604 ล้านบาท) SCC (316-474 ล้านบาท SCGP(143-214 ล้านบาท) GPSC(110-166 ล้านบาท) MTC (79-119 ล้านบาท) SAWAD (55-83 ล้านบาท) BGRIM (55-83 ล้านบาท)

• (*/+) FDI: หลังจากนายกฯหารือผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น 7 รายระหว่างเดินทางเยือนญี่ปุ่น ได้ข้อสรุปว่าใน 5 ปี จะมีผู้ผลิตรถยนต์ 4 ราย ขยายการลงทุนสำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย มูลค่าลงทุน 1.5 แสนล้านบาท (TOYOTA HONDA 5 หมื่นล้านบาท ISUZU 3.0 หมื่นล้านบาทและ Mitsubishi 2.0 หมื่นล้านบาท) มองบวกต่อกลุ่มนิคม AMATA, WHA และจิตวิทยาบวกต่อกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่มีผู้ผลิตรถยนต์ดังกล่าวเป็นฐานลูกค้า SAT, STANLY, AH อย่างไรก็ตาม ในทางพื้นฐานต้องติดตามความสามารถการแข่งขันค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นในช่วงการเปลี่ยนผ่านรถยนต์สันดาปสู่รถยนต์ EV รวมถึงแนวทางผู้ประกอบการกลุ่มยานยนต์รับงานค่ายรถใหม่ๆ ในช่วงรอยต่อ

• (*/+) To Monitor: วันนี้ติดตามประชุม ครม. คาด 1) มีการนำเสนอมติ การปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 2-16 บาท (+2.4%) โดยกระทรวงแรงงาน เรามองระดับการปรับขึ้นดังกล่าวเป็นกลาง คือ กระทบกำไรตลาดจำกัด (ทุกๆค่าแรง 10% ที่ปรับขึ้นจะกระทบกำไรตลาด 4.3 พันล้านบาท โดยไม่รวมผลบวกอำนาจซื้อ) ทั้งนี้ มองช่วยเพิ่มกำลังซื้อกลุ่มอิงบริโภคได้ระดับหนึ่ง เน้น CPALL, JMT, SAWAD 2) กระทรวงการคลังเสนอพิจารณาต่ออายุมาตรลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย ซึ่งจะหมดอายุ 31 ธ.ค. 23 ส่วนการกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯ โดยนำมาตรการลด LTV กลับมา BOT ยังยืนยันให้คงเกณฑ์ไว้ตามเดิมก่อน 3) เตรียมพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ก่อนชงรัฐสภา พิจารณาวาระ 1 วันที่ 3 ม.ค. 24

 

Daily Strategy : AOT, GPSC, MTC

ระยะสั้น วันนี้มองภาพตลาด "Sideway/Up" มอง SET วันนี้แกว่งตัวขึ้นต่อได้ แรงหนุนหลักมาจากความเชื่อมั่นวงจรดอกเบี้ยขาลง TH Bond Yield อายุ10ปี ปรับตัวลงต่อเนื่องจากจุดสูงสุด -66 bps ทำให้ Equity Risk Premium สูงกว่าค่าเฉลี่ย จะเริ่มดึงเม็ดเงินเข้าตลาดหุ้น ขณะที่เศรษฐกิจไทยมีสัญญาณดีจากยอดส่งออก -นำเข้าล่าสุด ลุ้นเติบโตเกินศักยภาพ 3.0% ในปี 2024 มองหุ้นนำ 1) กลุ่มได้ประโยชน์ Yield ลง อาทิ โรงไฟฟ้า เช่าซื้อ Growth 2) กลุ่มหลักหนุนเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวที่เชื่อเม็ดเงิน TESG จะเร่งขึ้น 3 วันทำการที่เหลือพร้อมเพิ่มน้ำหนัก เช่น ค้าปลีก ท่องเที่ยว กลุ่มอิงภาคผลิต

 

หุ้นได้รับประโยชน์มาตรการฟรี วีซ่าจีน รัสเซีย ไต้หวัน อินเดีย (CPALL, CPAXT, ERW, ADVANC, ERW, CRC)
หุ้นกลุ่มเก็งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลใหม่ Digiial Wallet+E-Refund, เร่ง FDI และ สร้าง S Curve จาก Soft Power (CPALL, CPAXT, CRC, DOHOME, GLOBAL, ADVANC, WHA, AMATA, MAJOR)
หุ้น China Plays ที่เริ่มเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแรงขึ้นและเริ่มเห็นการฟื้นตัวภายใน (PTTGC, IVL, SCGP, DOHOME, GLOBAL, AOT, ERW)
หุ้นได้ประโยชน์ภาคผลิตโลกเริ่มฟื้น และพอประคองได้ (KCE, IVL, SCGP, PTTGC, SJWD, MENA, WICE)
กลุ่มได้ประโยชน์ที่วงจรดอกเบี้ยพลิกเป็นขาลงนับจากปี 2024 (GULF, GPSC ,SAWAD, JMT, CPALL, TRUE, MINT, ERW, CK, BGRIM)
กลุ่มที่ได้ประโยชน์น้ำมันแกว่ง 75-80 เหรียญฯ ภายใต้ภาพความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มโตแผ่ว จีนค่อยๆฟื้นตัว ขณะที่การคุมซัพพลายต่อเนื่อง (CPALL, CPAXT, SCGP, GULF, IVL)

• DEC23 Best Picks: AOT, CPALL, BGRIM, GPSC, IVL, SCGP, SAWAD

• 4Q23 Stock Picks : AOT, ERW, CPAXT, BCH, WHA, SCB, KCE, PTT, SCGP, IVL, JMT Mid-Small Cap Play : SPA, BE8, GLOBAL,

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ไต่เส้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองดูหุ้นไทยไต่เส้น แถว 1370 +/- แบบพยาบามฝ่าด่าน 1380 จุด โดยเช้านี้ พี่ DELTA..

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้