มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
SETไปไหนไม่ไกล : หลัง World Bank ออกมาปรับลดคาดการณ์ GDP ไทย ปี 67เหลือ 3.2% จากคาดการณ์เดิมอยู่ที่ 3.5% ในเดือนต.ค.โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากการหดตัวของภาคการส่ งออกและการชะงักของการใช้จ่ายภาครัฐ นอกจากนี้ยังปรับลดGDP ไทยในปี นี้ลงเหลือโตเพียง 2.5% ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 3.4% พร้อมชี้ในปีหน้า เงินดิจิทัลจะกระตุ้นการเติบโตของ GDP ได้ราว0.5-1% แต่จะต้องแลกมาด้วยการขาดดุลทางการคลังที่อาจเพิ่มขึ้น4-5% ของ GDP ในอนาคต สร้าง Sentiment เชิงลบกดดันความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย อย่างไรก็ตามธนาคารกลางในหลายๆประเทศเริ่มส่งสัญญาณเดียวกันคือตรึง/ลดอัตราดอกเบี้ยหลังเฟดเริ่มส่งสัญญาณในเชิง Dovishผ่าน Projectionและการตรึงอัตราดอกเบี้ย ด้าน BoEและ ECBเดินหน้าตรึงอัตราดอกเบี้ยเช่นกันที่ 5.25%และ 4.50%ตามล าดับซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันให้ภาพรวมการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางการกลับเข้ามาซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติทั้งในตลาด TFEXและ SETอีกครั้ง ทิศทางอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวเป็นบวกต่อหุ้นที่อิงกับทิศทางดอกเบี้ย เช่นโรงไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ การเงิน คาดจะกลับมาน่าสนใจปัจจัยที่ตลาดยังให้น้ำหนักต่อคือ 1)การประกาศดัชนี SET50และSET100รวมถึง SET50FF/SET100FFที่จะนำค่า Freefloatเข้ามาร่วมคำนวณ และ 2)มติจากที่ประชุม ครม.ซึ่งรอพิจารณาหลายหัวข้อเช่น ก)มาตรการลดค่าไฟ ช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย. คาดจะเคาะลดค่าไฟเหลือ 3.99 หน่วยสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย และให้คิด 4.20 หน่วยสำหรับผู้ที่ใช้เกินข)เคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำซึ่งต้องจับตาว่าจะมีการเปลี่ยนสูตรคำนวณค่าแรงใหม่หรือไม่ หลังค่าแรงเดิมผลักดันกำลังซื้อภายในได้จำกัด ค)เคาะแก้หนี้ SME ซึ่งช่วยหนุนกำลังซื้อของประชาชนคาดจะเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนจีดีพีต่อไป

กลยุทธ์การลงทุน:1)ดอกเบี้ยขาขึ้นยุติ:BGRIM, GPSC, DELTA, HANA, EA, SAWAD, TIDLOR, KTC 2)Dividend :TISCO, TTW, LH,AP 4) TESG: KTB, AMATA, PTT, HMPRO, BDMS, TTB, OR 5) SET50FF/SET100FF: ITC, KCE 6) Selective: STEC, CK, EPG

แนวรับ-ต้าน
1,370–1,385

ปัจจัยบวก
+ ก.อุตสาหกรรม พร้อมดันไทยเป็ นฐานผลิตรถ EVครบวงจร ผ่าน EVConversionและ System Integrator หลังยอดขายในไทยพุ่งอันดับ 1ของอาเซียน
+ กระทรวงพาณิชย์ ของจีนเผยว่า ได้ อนุมัติใบอนุญาตจำนวนมากสำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์แกรไฟต์ นับตั้งแต่มี การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. เป็นบวกต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ EVเพราะเป็นหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญของแบตเตอรี่
+รมช.คลัง เตรียมชงครม.สัปดาห์หน้าคลอดมาตรการแก้หนี้ SME คาดเป็นบวกต่อลูกหนี้ ในระบบกว่า 6 หมื่นราย
+ กระทรวงพาณิชย์เผยการใช้สิทธิประโยชน์ FTA ของไทยช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2566 มีมูลค่ารวม 62,190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยใช้สิทธิฯ ส่งออกสูงสุดเป็ นอันดับ 1

ปัจจัยลบ
- UN เผยสงครามในกาซากระทบเศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้าน เช่นเลบานอน อียิปต์ และจอร์แดน คาดกดดัน GDP กว่า 2.3%หรือคิดเป็ นเงิน 1.03 หมื่นล้านดอลลาร์และอาจเพิ่มเป็นสองเท่าหากสงครามยืดเยื้อออกไปอีก 6 เดือน
- เวิลด์แบงก์หั่น GDP ไทยปี 67 เหลือโต 3.2% พร้อมชี้เงินดิจิทัลกระตุ้นGDPได้เพียง 0.5-1% และจะทำให้ขาดดุลคลังเพิ่ม-หนี้ สาธารณะพุ่งมองเงินเฟ้อทั่วไปของไทยจะชะลอลงสู่ 1.1% ในปี 67

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธีรดา ชาญยิ่งยงค์- นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
กิตติ บัวบึง – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #038313
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ภัทรดนัย จตุรพร – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์