Minor International (MINT TB)
เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมราคาที่น่าสนใจ
ราคาหุ้นปัจจุบันให้ผลตอบแทนต่อความเสี่ยงที่น่าสนใจ
เราเริ่มต้นบทวิเคราะห์หุ้น MINT ด้วยคำแนะนำ ซื้อ เนื่องจากคาดว่ากำไรจะเติบโตแข็งแกร่งในขณะที่ราคาหุ้นถูกที่สุดในกลุ่ม เราคาดการณ์กำไรสุทธิปี 67-69 ที่ 10% CAGR เนื่องจากทั้งโรงแรมและร้านอาหารและเครื่องดื่มกลับมาขยายตัวอีกครั้งพร้อมอัพไซด์จากการเข้าซื้อกิจการ ราคาเป้าหมายอิงวิธี DCF ของเราอยู่ที่ 35.25 บาท (6.8% WACC, 2% Terminal Growth) หุ้นเทรดที่ PE ล่วงหน้าปี 67E ที่ 20 เท่านั้น ถือว่าต่ำกว่าโรงแรมอื่นๆ ในไทยมากโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 23 เท่า
คาดรับอานิสงส์จากการเติบโตของการเดินทางเพื่อธุรกิจ
เราคาดการณ์ EBITDA สำหรับธุรกิจโรงแรมในปี 67E เติบโต 8% YoY โดยได้แรงหนุนจากนักเดินทางเพื่อธุรกิจ เราเชื่อว่าการเดินทางเพื่อธุรกิจในปี 67 น่าจะสูงเกินกว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาด ส่งผลให้อัตราค่าห้องพักและการเติบโตของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มยังคงดำเนินต่อไป รวมถึงอัตรากำไรจากการดำเนินงานที่สูงขึ้น ทั้งนี้ การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพและธุรกิจการบินที่กลับสู่ภาวะปกติจะหนุนการเดินทางเพื่อธุรกิจให้ฟื้นตัวมากขึ้น ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้มีสัดส่วนครึ่งหนึ่งของรายได้จากโรงแรมในยุโรปของ MINT และมากกว่าหนึ่งในสี่ของรายได้จากโรงแรมในประเทศไทย และน่าจะช่วยลดผลกระทบจากความต้องการพักผ่อนในช่วงหลังโควิดที่ลดลง นอกจากนี้ เรายังคาดว่าการดำเนินงานของโรงแรมในยุโรปจะฟื้นตัวได้ (แม้จะเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยในยุโรป) เทียบกับผลกระทบที่จำกัดในช่วงวิกฤตหนี้ยุโรปในปี 2555 และวิกฤตการเงินโลกในปี 2551/52
คาดรายได้ธุรกิจร้านอาหารเติบโตต่อเนื่อง
เราคาดว่ารายได้จากธุรกิจอาหารจะขยายตัว 4.6% CAGR ในปี 66-69E โดยได้แรงหนุนจากการขยายเครือข่ายร้านอาหารที่บริษัทเป็นเจ้าของและแฟรนไชส์สู่ระดับ 2,711 สาขาในปี 69 (+8 สาขาทุกไตรมาสตั้งแต่ไตรมาส 4/66 เป็นต้นไป เทียบกับค่าเฉลี่ย +13 สาขาต่อไตรมาสในปี 63-65) อัตรากำไร EBITDA ก็จะดีขึ้นเช่นกันเนื่องจากต้นทุนราคาอาหารและค่าสาธารณูปโภคลดลง
ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งรองรับการขยายธุรกิจต่อไป
เราคาดการณ์ EBITDA ในปี 67-68E จะสูงกว่า 4.0 หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งสามารถรองรับการระดมทุนเพื่อควบรวมกิจการ M&A ในอนาคตหรือชำระหนี้ได้ นอกจากนี้ บริษัทยังมีวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้เบิกใช้ 3.6 หมื่นล้านบาท (4.9 พันล้านบาทจาก MINT-W7 และ W9) และเงินสดในมือ 2.0 หมื่นล้านบาท ซึ่งสามารถรองรับการขยายโรงแรมเป็น 600 แห่ง (จาก 536 แห่งในปัจจุบัน) และร้านอาหารเป็น 3,400 แห่ง (จาก 2,607 แห่ง ณ ไตรมาส 3/66) เรามองว่าโครงการเหล่านี้เป็นอัพไซด์
Boonyakorn Amornsank
boonyakorn.amornsak@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1394