วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีเร่งตัวบวกในช่วงเที่ยง จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และค้าปลีก ที่ได้ประโยชน์จากมาตรการ Easy E-Receipt (e-Refund เดิม) ส่วนแรงขายหลักมาจากหุ้นกลุ่มการแพทย์ โดยที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประเมิน GDP ไทยปี 67 โต 2.8-3.3% ส่งผลให้ดัชนี SETIndex ปิดตลาดที่ 1,389.55 จุด +6.01 จุด +0.43% มูลค่าการซื้อขาย 38,632 ลบ. Program Trading+303.89 ลบ. ต่างชาติ -454.20 ลบ. TFEX -11,852 สัญญา ตราสารหนี้+2,842.76 ลบ.

ปัจจัยบวก
+ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าในภาคสินค้าและบริการของสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.1% สู่ระดับ 6.43 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ6.42 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 6.12 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย.
+ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ประสิทธิภาพในการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐพุ่งขึ้น 5.2% ในไตรมาส3/2566 เมื่อเทียบรายไตรมาส ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3/2563
+ สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์พุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้วหลังอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำ นองปรับตัวลง ทั้งนี้ จำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์พุ่งขึ้น 14% ในสัปดาห์ที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 70.13 จุด หรือ -0.19% โดยตลาดถูกกดดันจากมุมมองที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจได้รับผลกระทบจากตลาดแรงงานที่ชะลอตัวลง แม้ปัจจัยดังกล่าวอาจจะสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นปีหน้าก็ตาม
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2.94 ดอลลาร์ หรือ 4.1% ปิดที่ 69.38ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเดินทางและกลุ่มสายการบินที่พุ่งขึ้น และยังได้แรงหนุนจากข้อมูลตลาดแรงงานของสหรัฐซึ่งทำให้เกิดความหวังว่า เฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีหน้า
- ADP เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 103,000ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ128,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 106,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.
- สมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐกำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบบริษัทชีอิน(Shein) ซึ่งเป็นแบรนด์สินค้าแฟชั่นออนไลน์รายใหญ่ของจีน ซึ่งเป็นการยื่นขอทำ IPO โดยไม่มีการประกาศให้สาธารณชนได้รับทราบ
- ททท. เปิดเผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย ตั้งแต่ 1 ม.ค.-3ธ.ค. ปี 66 มีจำนวน 25.08 ล้านคน สร้างรายได้ 1,067,513 ล้านบาทและในเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งเป็นเทศกาลท่องเที่ยวเชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาถึง 2 ล้านคน ทำให้ทั้งปี 66 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 27 ล้านคน สร้างรายได้ 1.2 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 25-28 ล้านคน สร้างรายได้ 1.6 ล้านล้านบาท
- กกร.ตั้งเป้าจีดีพีไทยปี 2567 โตได้ 2.8-3.3% ภายใต้สมมติฐานดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจ กังวลค่าไฟขึ้นดันราคาสินค้าขยับ 5-10%

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวน โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้ากระทบตลาด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงแรงต่อเนื่อง ยังเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดกรอบดัชนีในวันนี้ 1,380-1,395 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
• Easy E-Receipt : BJC CPALL CPAXT CRC CPN COM7 SPVI CPW JMART HMPRO DOHOME GLOBAL ZEN M AU TNP KK
• หุ้นที่มี ESG สูง และอยู่ใน SET50 : ADVANC CPALL CPF CRC OR PTTEP TOP
• ยอดส่งออกเดือน ต.ค. เติบโต : ITC AAI CH PDJ NRF XO