Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

301

 

AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ยังแกว่งในกรอบแต่หากย่อก็รอรับ
กลยุทธ์เลือกหุ้นปันผลสูง/ESG สูง

Market Strategy
คาด SET Index แกว่งในกรอบ 1380-1400 จุด ราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงราว 4% กดดันจากการรายงานสต๊อคน้ำมันเบนซินโดย EIA สหรัฐฯเพิ่มขึ้น 5.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าตลาดคาด 1.03 ล้านบาร์เรล , ความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนหลัง Moody’s ปรับ Outlook ต่อพันธบัตรรัฐบาลจีนเป็น Negative จาก Stable มองเป็นปัจจัยที่กดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงานต้นน้ำในวันนี้ แต่เชื่อว่าหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากน้ำมันปรับลงช่วยประคอง อาทิ กลุ่มโรงไฟฟ้า กลุ่มค้าปลีกเป็นต้น
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ปรับลง -0.2% ถึง -0.6% กดดันจากกลุ่มพลังงาน แต่อย่างไรก็ตามเห็นสัญญาณที่ผ่อนคลายในเงินเฟ้อและดอกเบี้ยสหรัฐฯมากขึ้น หลังการรายงานตัวเลขการจ้างงาน ADP Employment เพิ่ม 1 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าคาด 1.3 แสนตำแหน่ง
ด้านทิศทาง Fund Flow นักลงทุนต่างชาติยังเป็นซื้อสลับขาย แต่เริ่มเห็นแรงขายที่ลดลงใม่ถึง 1 พันล้านบาทต่อวันในเดือนนี้ ขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิต่อเนื่อง 6 วันติดต่อกันและมีโอกาสซื้อต่อเนื่องจาก TESG ที่จะเริ่มเข้ามาในเดือนนี้ ซึ่งเป็นปัจจัย Downside ของตลาด กลยุทธ์เลือกหุ้นปันผลสูง/ESG สูง

Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 6.01 จุดหรือ 0.4% กลุ่มที่ Outperform ตลาดนำโดยกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ +2.2% หลักมาจาก DELTA ที่ปรับขึ้น 2.3%% ตามด้วยกลุ่ม Domestic Consumption ที่ตอบรับเชิงบวกต่อมาตรการ Easy e-Receipt หนุนต่อกลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มสื่อฯและกลุ่มค้าปลีกปรับขึ้นในช่วง 1.26% - 1.87% แรงซื้อวานนี้มาจากสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 606 ล้านบาท


ATO Daily Stock Picks
แนะนำ SABINA , SCGP

SCGP กำไรจะฟื้นดีและมี ESG สูง
คาดกำไร 4Q66 โต QoQ และ ปี 2567 คาดกำไรฟื้นตัว 24% YoY แรงสนับสนุนจากรัฐบาลจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงต้นทุนเชื้อเพลิงที่ลดลงหนุนต่อประสิทธิภาพการทำกำไร โดยราคาหุ้นปัจจุบันมี P/BV 1.4 เท่า (-1.8 SD)
ได้รับ ESG Rating ระดับ AA มี market cap. สภาพคล่องสูงแถมปัจจัยทางพื้นฐานสนับสนุน เราจึงให้น้ำหนักเป็นหนึ่งในเป้าหมายของกองทุน TESG ที่คาดว่าเม็ดเงินจะทยอยเข้ามาในเดือนนี้
ขณะที่ Catalyst ระยะสั้นลุ้นตัวเลขการส่งออกจีนเดือน พ.ย. ล่าสุดตลาดคาดว่าทรงตัว หากออกมาดีกว่าคาดจะเป็นบวกต่อราคาหุ้น
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 45.00 บาท


SABINA ปันผลหนักแน่น
กำไรปี 66 และ 67 จะยังคงเดินหน้าทำสถิติใหม่ จากยอดขายสินค้าในประเทศคาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากความสำเร็จในการเปิดตัวสินค้า 'Braless' และการบริโภคในประเทศฟื้นตัว ผสานอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นจากต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลง จากการเพิ่มการใช้เครื่องจักรอัตโนมัติ
ฐานะทางการเงินแข็งแกร่งโดยมี เงินสดสุทธิ งบลงทุนต่อปีน้อยกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้สามารถรักษาอัตราการจ่ายเงิน ปันผลที่ 100% โดยคาดเงินปันผล ปี 66/67 ที่ 5% และ 5.7% ต่อปี โดยมี ESG Rating ที่ AAA
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 32.50 บาท


KEY FACTOR
ส่งออกและนำเข้าจีนที่จะรายงานวันนี้ น่าจะฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง

ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน ADP ของสหรัฐฯ เดือน พ.ย. เพิ่มขึ้นเพียง +1.03 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ Consensus คาด +1.30 แสนตำแหน่ง และลอลงจาก 1.06 แสนตำแหน่ง ในเดือนก่อน ตอกย้ำมุมมองตลาดที่ให้น้ำหนักสูงประมาณ 50-55% ที่ Fed ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในการประชุมเดือน มี.ค. 67

ทิศทางตลาดหุ้นไทยน่าจะยังคงลุ้นอยู่ในรอบการฟื้นตัวจากแรงหนุนปัจจัยต่างประเทศที่น่าจะมีเพิ่มเติมในวันนี้ สัญญาณบวกจากตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของจีน Consensus คาดส่งออกน่าจะกลับมาทรงตัว 0% YoY สูงสุดในรอบ 7 เดือน จาก -6.4% YoY ในเดือนก่อน ส่วนนำเข้าน่าจะเร่งตัวขึ้นเป็น +3.9% YoY จาก 3.0% YoY ในเดือนก่อน ซึ่งเป็นดัชนีชี้นำที่สะท้อนภาพเชิงบวกต่อการส่งออกของไทยที่จะเป็นตัวแปรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยช่วง 4Q66 และต่อเนื่องในปี 2567


EYES ON
7 ธ.ค. นำเข้าส่งออกจีน
8 ธ.ค. เริ่มขายกองทุน TESG, การจ้างงานนอกภาคเกษตร

 

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ดีดกลับ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เช้านี้หุ้นไทย รีบาวน์ ดีดกลับ ใกล้ 1300 จุด ขานรับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้