Selective Plays

KCS Daily Strategy : คาดตลาด "แกว่งตัว" ต้าน 1392/1397จุด รับ 1375/1371จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยรวมพักตัว โดยวานนี้มีเพียง NASDAQ ที่ขยับขึ้นได้ +0.31% แรงหนุนจาก US Bond Yield 10 ปี ลง -6 bps สู่ 4.16% สะท้อนการจ้างงานยอดตำแหน่งงานเปิดรับใหม่ ต.ค. 23 ต่ำกว่าคาด -8%m-m แต่ยังมี PMI ภาคบริการ (ISM) ที่ขยายตัวได้ หนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯยังเป็นภาพ "Soft Landing" ส่วนจีนภาคบริการ PMI ธุรกิจขนาดกลาง-เล็กเริ่มฟื้นเช่นเดียวกับภาคผลิต อย่างไรก็ตาม การที่ Moody's ปรับลดมุมมอง จีนจาก เสถียรภาพสู่ Negative กดดันตลาดหุ้นจีน ฮ่องกงวานนี้ แต่ค่าประกันความเสี่ยง CDS ทั้ง 2 ประเทศแกว่งตัวขึ้นชั่วคราวและเริ่มลดลงต่อเช้านี้ น่าจะจิตวิทยาลบเพียงระยะสั้นต่อตลาดเอเชียเหนือ และ SET ที่วานนี้ปิดทำการ ภายในภาพบวกจากมาตรการกระตุ้นบริโภค Easy E-Reciept (มีผล 1 ม.ค.) ผสาน เม็ดเงิน TESG ที่เข้าสู่ตลาดตั้งแต่ 8 ธ.ค. ประเมิน 1.0-1.5 หมื่นล้านบาท จะประคอง SET หุ้นนำวันนี้ คือ กลุ่มได้ประโยชน์ Yield ลดลง หุ้นโยงจีน และอิงภายใน แนะนำ AOT, SCGP, KCE

Daily outlook : "แกว่งตัว" ต้าน 1392/1397จุด รับ 1375/1371จุด

What happened around the world ?

• (*) US Stocks: ตลาดหุ้นสหรัฐฯแกว่งตัว DJIA -0.22%, S&P -0.06% NASDAQ +0.31% กลุ่มนำตลาดในส่วน S&P500 คือ Technology, Consumer และ Communication

• (*/+)US Labor : ตัวเลขตำแหน่งงานว่างใหม่สหรัฐฯ (JOLTS Job Openings) ต.ค. 23 ที่ 8.733 ล้านตำแหน่ง ต่ำกว่าตลาดคาด และชะลอจาก prev. 9.5 ล้านตำแหน่ง ตัวเลขดังกล่าวเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ Fed ใช้ในการประเมินภาพตลาดแรงงาน ภาพที่ชะลอลงสะท้อนถึงสถานการณ์ตลาดแรงงานสหรัฐที่อ่อนแอลง หนุนมุมมองวงจรดอกเบี้ยสิ้นสุด ช่วงที่เหลือสัปดาห์นี้ติดตามตัวเลขการจ้างงาน ADP (6 ธ.ค.) และยอดจ้างงานนอกภาคเกษตร (8 ธ.ค.)

• (*/+) US Econ : วานนี้มีรายงาน 1) PMI ภาคบริการ พ.ย. อยู่ที่ระดับ 50.8 จุด ตามคาด และทรงตัว m-m 2) PMI ภาคบริการ (ISM) พ.ย. อยู่ที่ 52.7 จุด ดีกว่าคาดและเดือนก่อน (51.8) สะท้อนภาพรวมภาคการบริการฟื้นตัว โดยบ่งชี้ภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯค่อยๆชะลอลง

• (*) Moody's Cuts : วานนี้สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Moody's ปรับลดมุมมอง Credit ของพันธบัตรรัฐบาลจีนจาก ระดับมีเสถียรภาพ ลงสู่ ระดับมีมุมมองเชิงลบ โดยอันดับความน่าเชื่อถือยังคงเป็น A1 และให้เหตุผลว่าระดับหนี้ที่เริ่มสูงขึ้นอาจมีผลกระทบต่อความสามารถในการจ่ายชำระหนี้ในอนาคต รมว คลังจีนแถลงหลังการปรับลดดังกล่าวว่าผิดหวังกับการปรับลดอันดับเครดิตครั้งนี้และมองว่าหนี้ที่เพิ่มจะไม่มีผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ และมองว่าปัญหาในภาคอสังหายังสามารถควบคุมได้

•(*/+) China Econ : Caixin PMI ภาคบริการ เดือน พ.ย. อยู่ที่ 51.5 จุด สูงกว่าตลาดคาดและเพิ่มขึ้นจาก prev. 50.4 จุด สะท้อนภาพการขยายตัวเช่นเดียวกับภาคผลิต KCS คาดเศรษฐกิจจีนค่อยๆฟื้นตัว โดยคาดหวังแรงกระตุ้นเศรษฐกิจมจากมาตรการรัฐบาลจีนในการประชุม Politburo เป็นปัจจัยหนุนเพิ่ม บวกหุ้นโยงจีน อาทิ SCGP, IVL, PTTGC, KCE, HANA ทั้งนี้ ให้เน้นตั้งรับจากจิตวิทยากรณี Moody's ปรับลดมุมมองจีนจากเสถียรภาพสู่ Negative

•(*) Monitor : วันนี้-12 ธ.ค.23 1) ตัวเลขการจ้างงาน ADP ตลาดคาด 1.3 แสนตำแหน่ง vs prev. 1.13 แสนตำแหน่ง 2) ติดตามประชุม COP28 KCS ประเมิน จะเป็นตัวเร่งให้ตลาดให้ความสนใจกับการลงทุนกับกระแส ESG มากขึ้น แนะนำลงทุนในหุ้นที่เป็นสมาชิกของดัชนี TESG และมีแนวโน้มที่จะได้รับเม็ดเงินจากกองทุน TESG สูง ได้แก่ AOT, CPALL, GULF, SCGP, GPSC รวมถึงกลุ่มพร้อมเติบโตไปกับการผลักดันพลังงานสะอาด EV อาทิ KCE 3) 8ธ.ค. ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตร ตลาดคาด 1.8 แสนตำแหน่ง vs prev. 1.5 แสน

• (*) US Bond & Dollar : ปรับลงต่อ อายุ 10 ปี ปรับลง -9 bps ปิดที่ 4.16% เช่นเดียวกับ 2 ปีปรับลง -6 bps อยู่ที่ 4.57% ส่วน Dollar Index ปรับแข็งค่าสู่ 104+/- จุด มองเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นเช่าซื้อ, High Growth

•(*/-)Oil : ราคาน้ำมันดิบ BRENT ปรับลง -1.29% และ WTI ปรับลง -1% จากตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐที่อ่อนแอกว่าคาด จิตวิทยาลบต่อหุ้นพลังงาน อาทิ PTT, PTTEP, TOP ในวันนี้ แต่ตรงข้ามเป็นจิตวิทยาบวกต่อกลุ่ม Anticommodity อาทิ TASCO, ICHI, GULF, GPSC

What happened in Thailand?

• (*/-) SET: SET แกว่งตัวขึ้นปิดบวก +0.23% กลุ่มหนุน คือ กลุ่มขนส่ง (AOT, RCL, PSL) AOT ฟื้นตัวจากโซนลงทุน กลุ่มเรือตามจิตวิทยาบวกจากกลุ่มเรือเทกอง ค่าระวาง BDI สัปดาห์ก่อนปรับขึ้น +51.8% กลุ่มการแพทย์ (BDMS, THG) กลุ่มถ่วง คือ กลุ่มชิ้นส่วน (DELTA) จิตวิทยาลบเงินบาทแข็งค่าเร็ว กลุ่มอสังหาฯ (CPN, LH)

• (*) Flow: เงินทุนต่างชาติไหลออก ซื้อหุ้น +28.1 ล้านเหรียญฯ ขณะที่ขายพันธบัตร -106.0 ล้านเหรียญฯ TFEX เปิด Net Long ที่ 3,542 สัญญา เงินบาทอ่อนค่าสู่ 35.2 +/- บาท

• (*/+) Cabinet: ครม.สัญจรอนุมัติ Easy E-Receipt (เดิมชื่อโครงการเบื้องต้น คือ E-Refund) ซื้อสินค้าตั้งแต่ 1 ม.ค. - 15 ก.พ. ขอใบรับกำกับภาษีออนไลน์ ลดหย่อนสูงสุด 5 หมื่นบาทต่อคน สำหรับคนที่ไม่ได้สิทธิ์ตามมาตรการ Digital Wallet มองจิตวิทยาบวกต่อกลุ่มค้าปลีก เน้น CPALL, CPAXT CRC

• (*/+) TESG: ก.ล.ต. เปิดเผยได้รับคำขออนุมัติจัดตั้งกองทุนรวม Thai ESG ชุดแรก จำนวน 22 กองทุน จาก บลจ. 16 แห่ง โดยสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) และสมาชิกประสงค์จะเสนอขายพร้อมกันในวันแถลงข่าวเปิดตัวกองทุนรวม Thai ESG อย่างเป็นทางการที่ กรมสรรพากร ก.ล.ต. สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) AIMC และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะร่วมกันจัดขึ้น ในวันที่ 8 ธ.ค. 23 ประเมินเป็นบวกต่อตลาด เราคาดเม็ดเงิน Long Term Fund ใหม่จากกองทุน TESG ราว 1.0-1.5 หมื่นล้านบาทจะทยอยเข้าหนุนตลาด มองหุ้นน่าสนใจ คือ

1) หุ้นที่อยู่ในธีมได้ประโยชน์วงจรดอกเบี้ยปลายทาง หุ้นที่เป็นกลุ่มขับเคลื่อนเศรษฐกิจระยะถัดไป (อิงภายใน+จีน)

2) หุ้นที่ปรับฐานลึกกว่าภาพรวมดัชนี SETESG

3) หุ้นถูก Short Sales vs ยอดสูงล่าสุด (30 ส.ค.) ในสัดส่วนสูง

เน้น AOT, CPALL, PTTGC, SCGP, IVL, GPSC, BGRIM, SAWAD, CENTEL

• (*) Utilities: แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน ระบุว่า กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางการปรับลดค่าไฟฟ้าให้เหลือ ต่ำกว่า 4.20 บาทต่อหน่วย ตามนโยบาย นายพีระพันธุ์ฯ โดยเบื้องต้นอาจให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แบกรับภาระค่าไฟฟ้าแทนประชาชนที่ประมาณ 25 สตางค์ต่อหน่วยไปก่อน เช่นเดียวกับที่ผ่านมา กฟผ. แบกรับภาระค่าไฟฟ้าไว้ และให้ประชาชนมาทยอยจ่ายคืนในรูปของค่าเอฟทีในภายหลัง นอกจากนี้ ก็จะให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ลดราคาค่าก๊าซธรรมชาติสำหรับโรงไฟฟ้าลง โดยให้ ปตท.รับภาระไปก่อน หลังจากนั้นจึงให้ประชาชนจ่ายคืนภายหลังเช่นกัน อย่างไรก็ดี อาจจะเป็นการกำหนดให้ราคาขายก๊าซธรรมชาติที่ขายก๊าซฯให้โรงไฟฟ้า และขายให้ธุรกิจปิโตรเคมีเท่ากัน จากปัจจุบันราคาขายก๊าซฯให้ธุรกิจปิโตรเคมีราคาถูกกว่าโรงไฟฟ้า มองลบต่อกลุ่มปิโตรเคมี และ PTT แต่บวกต่อโรงไฟฟ้า จากค่าไฟ ม.ค. - เม.ย. 24 ที่จะเริ่มปรับตัวดีขึ้นจากรอบปลายปี 23 ที่ 3.99 บาท เน้น GPSC, BGRIM ที่มีโอกาสได้ประโยชน์สูง

• (*) TH Tourism: จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสัปดาห์ล่าสุด (27 พ.ย. – 3 ธ.ค.) อยู่ที่ 5.94 แสนคน -6.2%w-w หลังผ่านช่วงเทศกาลหยุดยาวญี่ปุ่น กัมพูชา ชาติที่เดินทางเข้ามามากสุด คือ มาเลเซีย จีน รัสเซีย ทั้งนี้ ปัจจุบันนักท่องเที่ยวสะสม YTD ถึง 3 ธ.ค. อยู่ที่ 25.08 ล้านคน ผสาน ธ.ค. ที่มักเป็นเดือนที่นักท่องเที่ยวมากสุดของปี (ปีปกติจะเพิ่มจากพ.ย. ราว 20% โดย พ.ย. 23 นักท่องเที่ยวอยู่ที่ 2.6 ล้านคน) มองนักท่องเที่ยวทั้งปียังอยู่ในกรอบที่ตลาดประเมิน 28 ล้านคนในปี 2023

• (*) To monitor: 7 ธ.ค. เงินเฟ้อ CPI พ.ย. ตลาดคาด -0.42%y-y vs prev. -0.31%y-y ส่วน 8 ธ.ค. ประชุมไตรภาคีสรุปการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ มองบวกต่อกลุ่มได้ประโยชน์ เช่าซื้อ+ติดตามหนี้ JMT SAWAD เครื่องดื่มชูกำลัง CBG Digital Tech BE8, BBIK ขณะที่จะลบต่อกลุ่มสถานีบริการน้ำมัน ร้านอาหาร รับเหมา โรงแรม

Daily Strategy : AOT, KCE, SCGP

ระยะสั้น วันนี้มองภาพตลาด "แกว่งตัว" วันนี้มองภาพ SET แกว่งตัว โดยรวมภาพบวก ลบ ผสานผสานกัน ภาพจิตวิทยาลบจะอยู่ที่จีนถูก Moody's ปรับลดมุมมองเป็น Negative ส่วนที่บวกคือ US Bond Yield แกว่งลงต่อ เศรษฐกิจจีนมีสัญญาณฟื้นผสาน ภายในที่มีมาตรการกระตุ้นบริโภคเข้ามา ผสาน เม็ดเงินกองทุน TESG เข้ามาหนุนตลาดตั้งแต่ 8 ธ.ค. มองหุ้นนำ 1) กลุ่มได้ประโยชน์ Yield ลง (ชิ้นส่วน เช่าซื้อ High Growth) 2) กลุ่มโยงจีน 3) กลุ่มอิงภายใน (บริโภค ท่องเที่ยว)

หุ้นได้รับประโยชน์มาตรการฟรี วีซ่าจีน รัสเซีย ไต้หวัน อินเดีย (CPALL, CPAXT, ERW, ADVANC, AOT, ERW, CRC)
หุ้นกลุ่มเก็งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลใหม่ Digiial Wallet+E-Refund, เร่ง FDI และ สร้าง S Curve จาก Soft Power (CPALL, CPAXT, CRC, DOHOME, GLOBAL, ADVANC, , WHA, AMATA, MAJOR)
หุ้น China Plays ที่เริ่มเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแรงขึ้นและเริ่มเห็นการฟื้นตัวภายใน (PTTGC, IVL, SCGP, DOHOME, GLOBAL, AOT, ERW)
หุ้นได้ประโยชน์ภาคผลิตโลกเริ่มฟื้น และพอประคองได้ (HANA, KCE, IVL)
กลุ่มได้ประโยชน์ที่วงจรดอกเบี้ยสิ้นสุด และ Bond Yield เป็นปลายทาง (GULF, GPSC, BE8, MTC, KCE, HANA)
กลุ่มที่ได้ประโยชน์น้ำมันแกว่ง 80 +/- เหรียญฯ ภายใต้ภาพความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มโตแผ่ว จีนค่อยๆฟื้นตัว ขณะที่การคุมซัพพลายต่อเนื่อง (CPALL, CPAXT, SCGP, GULF, IVL, TASCO)
• DEC23 Best Picks: AOT, CPALL, BGRIM, GPSC, IVL, SCGP, SAWAD

• 4Q23 Stock Picks : AOT, ERW, CPAXT, BCH, WHA, SCB, KCE, PTT, SCGP, IVL, JMT Mid-Small Cap Play : SPA, BE8, GLOBAL, TNP