Market Wrap-Up

• SET วันที่ 4 ธ.ค.66 ปิด +3.23 จุด อยู่ที่ 1,383.54 จุด มูลค่าการซื้อขาย 35,519 ลบ.ต่างชาติซื้อ 979 ลบ.สถาบันซื้อ 8 ลบ.พอร์ตโบรกขาย 383 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 739 ลบ. มียอดซื้อสุทธิในหุ้น PTT,SCB,BDMS,KBANK,PSL และมียอดขายสุทธิ CPALL,BANPU,JTS,HANA,BBL มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 3,535 ลบ. หุ้นที่มีปริมาณ Short สูงคือ HK01,BLA,AWC-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 3,542 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 316,706 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 3,701 ลบ.
• ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.22%, S&P500 -0.06%, Nasdaq +0.31% ยังได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี หลัง JOLTs เผยยอดเปิดรับสมัครงาน ต.ค. ลดลง 617,000 ราย อยู่ที่ 8.733 ล.ราย ขณะที่ ISM ดัชนีภาคบริการสหรัฐ พ.ย. ปรับขึ้นอยู่ที่ 52.7 & ต.ค. 51.8 ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.4% ได้แรงหนุนจาก DAX +0.78% เป็นระดับสูงสุด  

 Market View

• ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี, ธุรกิจบล็อคเชนที่ปรับขึ้นตามราคา Bitcoin กอปรกับตัวเลขเปิดรับสมัครงานสหรัฐ ต.ค. ลดลง บ่งชี้อุปสงค์ตลาดแรงงานเริ่มชะลอตัว ส่งผลให้ตลาดคาดเฟดมีโอกาสคงดอกเบี้ยในการประชุม 13 ธ.ค. และ CME Fed Watch ชี้มีโอกาส 55.2% เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 20 มี.ค. 67 โดยวันศุกร์นี้ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ พ.ย. คาด 180,000 & ต.ค. 150,000 ราย และอัตราว่างงานคาดทรงตัวที่ 3.9% จะบ่งดัชนีบ่งชี้ภาวะตลาดแรงงานสหรัฐ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ได้แรงหนุน DAX เยอรมันปิดทำจุดสูงสุดใหม่ หลังกรรมการบริหาร ECB ท่าน 1 ให้ความเห็นไม่จำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยต่อ หลังเงินเฟ้อยูโรโซนและ Euro Bond Yield ได้ปรับลดลงแล้ว กอปรตลาดคาด ECB มีโอกาสลดดอกเบี้ยในช่วง Q2/67 เนื่องจากเศรษฐกิจยูโรโซนมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะ Technical Recession ในช่วง Q4 นี้ ขณะที่รายงาน PPI ยูโรโซน ต.ค. -9.4% & ก.ย. -12.4% YoY และ PMI ภาคบริการยูโรโซน พ.ย. อยู่ที่ 48.7 & ต.ค. 47.8 ค่ำวันนี้ติดตามยอดค้าปลีกยูโรโซน ต.ค. คาด -0.9% & ก.ย. -2.9% YoY ฝั่งเอเชียวานนี้ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -1.67% หลัง Moody’s ปรับลดอันดับเครดิตจีนอยู่ที่ A1 Negative & เดิม Stable เนื่องจากคาดเศรษฐกิจจีนระยะกลางชะลอตัว กอปรกับปัญหาหนี้ภาคอสังหา ฯ โดย Moody’s คาด GDP จีนปี 67 – 68 คาดที่ 4% และปี 69 – 73 คาดเฉลี่ยที่ 3.8% ส่งผลให้ต่างชาติขายหุ้นจีน พ.ย. ทีผ่านมา $252 ขายต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 วันพรุ่งนี้ติดตามยอดส่งออก – นำเข้าจีน พ.ย. สำหรับดัชนี SET วันจันทร์ปิด +0.23% ปริมาณการซื้อขาย 3.5 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 979 ลบ. รายย่อยขาย 604 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 383 ลบ. ได้แรงหนุนจากหุ้น Big Cap. เช่น PTT, AOT, ADVANC, SCC และโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นกลุ่มอยู่ในข่ายกองทุน TESG จะเริ่มเข้าลงทุนในเดือนนี้ โดยเบื้องต้นตลาดคาดจะมีเม็ดเงินในกองทุนนี้ราว 1 หมื่น ลบ. กอปรกับต่างชาติชะลอแรงขาย หลังตลาดคาด FED & ECB มีโอกาสลดดอกเบี้ยในปีหน้า ส่วนปัจจัยในประเทศได้แรงหนุนจาก ม.ช่วยเหลือเกษตรกร, แก้ไขหนี้นอกระบบ และ ครม. อนุมัติโครงการ Easy E-Receipt ซื้อสินค้าตั้งแต่ 1 ม.ค. – 15 ก.พ. 67 สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 5 หมื่นบาท/คน จะช่วยกระตุ้นภาคบริโภค

Daily Strategy

• ประเมินดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,370 – 1,380 แนวต้าน 1,390 – 1,400 ได้แรงหนุนจากคาดเฟดจะลดดอกเบี้นในปีหน้า กอรปกับ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ แนะนำทยอยซื้อ PTT,AOT,ADVANC,SCC,GULF,TU เป็นมีแรงซื้อจากกองทุน TESG/ ค้าปลีก COM7, HMPRO,DOHOME,GLOBAL (+ ม. E-Receipt ) และเก็งกำไร XPG,JTS,BROOK ตามราคา Bitcoin เช้านี้อยู่ที่ 44,000
• PTT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 00 บาท) PTT 3Q63 มีกำไรสุทธิ 3.13 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น +56%QoQ, +253%YoY โดยกำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ หลักๆ มาจากผลการดำเนินงานกลุ่มธุรกิจการกลั่นที่ค่าการกลั่นที่ปรับตัวดีขึ้น รวมถึงมีการบันทึกกำไรสต๊อกน้ำมันเป็นจำนวนมาก ถ้าหักออกกำไรปกติอยู่ที่ 3.06 หมื่นล้านบาท +1%QoQ ขณะที่ EBITDA ทั้งกลุ่มอยู่ที่ 1.46 แสนล้านบาท +58%QoQ, +58%YoY สำหรับแนวโน้ม 4Q66 คาดกำไรปกติลดลง QoQ แต่ยังอยู่ในระดับราว 2.5 หมื่นล้านบาท เติบโตได้ YoY หนุนจากธุรกิจก๊าซฯ ของ PTT และธุรกิจ E&P ของ ปตท.สผ.ที่มีปริมาณขายมากขึ้น นอกจากนี้ยังมองว่า PTT เป็นตัวแทนของกลุ่มพลังงานที่แข็งกว่าตลาด และเข้าข่ายหุ้นที่เป็นเป้าหมายกองทุน TESG
• GFPT* (ซื้อเก็งกำไร/ ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 13.30 บาท) กำไรสุทธิ 3Q66 อ่อนตัว QoQ YoY จาก Volume ขายที่ลดลง ขณะที่ราคาเนื้อสัตว์ในประเทศอ่อนตัวแรง QoQ YoY อย่างไรก็ตาม คาดว่า ในช่วง 4Q66 ผลประกอบการมีโอกาสฟื้นตัวได้ดี QoQ จาก 1.ต้นทุนการเลี้ยงที่คาดว่าจะอ่อนตัวตามราคาข้าวโพด และ ถั่วเหลือง 2.ราคาไก่ที่เริ่มเห็นการปรับตัวขึ้นจาก Q3 เข้าสู่เทศกาลเฉลิมฉลอง และ อานิสงค์การปราบสุกรเถื่อนในไทยที่ต่อเนื่อง 3.ตัวเลขส่งออกไก่ของไทย เดือนต.ค.66 +1.1%MoM และในส่วนของ YoY แม้จะยัง -1.6%YoY แต่ gap ของการหดตัวแคบขึ้นมาก จากเดือน ก.ย.66 ที่ -10.8%YoY ทั้งนี้ตลาดคาดว่าในปี66 และ67 กำไรสุทธิของ GFPT* จะอยู่ที่ระดับ 1,309 ลบ.(-36%YoY) และ 1,438 ลบ.(+10%YoY) ตามลำดับ

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th