***Headwind risk still on the table***

กำไรสุทธิ 3Q23 หนุนโดยธุรกิจค้าน้ำมัน และกำไร FX โดย OR รายงานกำไรสุทธิไตรมาสนี้ 5.17 พันล้านบาท เติบโต +638%YoY, +88%QoQ ดีกว่า Bloomberg consensus 87% เพราะค่าการตลาดดีขึ้นเป็น 1.26 บาท/ลิตร (+85%YoY, +31%QoQ) จากมีกำไรสต็อกก้อนใหญ่หลังราคาปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น , ค่าใช้จ่ายในธุรกิจค้าน้ำมันลดลง(ปริมาณค้าปลีกลดลง แต่ปริมาณค้าส่งเพิ่มขึ้นตามอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในน้ำมันเครื่องบินและดีเซล) และมีกำไร FX ส่วนผลดำเนินงานธุรกิจ lifestyle อ่อนลง (ยอดขายร้านกาแฟอะเมซอน 3Q23 ลดลง -1%YoY และ QoQ เป็น 92 ล้านแก้ว แม้ว่าสาขาจะเพิ่มขึ้น 279 แห่ง YoY และเพิ่ม 58 แห่ง QoQ)

EBITDA margin งวด 3Q23 อยู่ที่ 25.1% ดีขึ้นจาก 22.9% ใน 3Q22 แต่ลดลงจาก 26.6% ใน 2Q23 ซึ่งการดีขึ้น YoY เป็นผลจากการประหยัดต้นทุน และค่าใช้จ่ายประชาสัมพันธ์น้อย ส่วนการลดลง QoQ เป็นเพราะรายได้จากค้าน้ำมันลดลง

แนวโน้ม 4Q23F คาดว่าผลประกอบการจะอ่อนลง QoQ เพราะเป็นช่วงค่าใช้จ่ายดำเนินงานสูง รวมถึงคาดว่ากำไรสต็อกจะน้อยลง อย่างไรก็ตาม คาดว่าปริมาณขายน้ำมันค้าปลีกและค่าส่งจะเพิ่มขึ้น และธุรกิจ lifestyle ดีขึ้นเพราะเป็นฤดูเดินทางท่องเที่ยว ส่วนค่าการตลาด ประเมินว่าจะดีขึ้น YoY จากฐานที่ต่ำมากปีก่อน แต่อ่อนลง QoQ

ได้รับผลกระทบจากนโยบายลดราคาน้ำมันดีเซลภาคขนส่งและน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอลล์ 91 จำกัด เพราะรัฐบาลทา ผ่านการลดภาษีสรรพสามิต และอุดหนุนโดยกองทุนน้ำมัน แต่ก็มีความไม่แน่นอนในอนาคตว่ารัฐบาลจะออกมาตรการที่กระทบต่อค่าการตลาดหรือไม่

คงคำแนะนำถือ ให้ราคาพื้นฐาน 20 บาท (DCF) เนื่องจากหุ้นยังไม่มีปัจจัยกระตุ้นในระยะสั้น และมี Valuation แพงกว่ากลุ่มทั้ง P/E และ P/BV ขณะเดียวกันยังไม่ค่อยเห็น Synergies จากการซื้อกิจการ เช่น KNEX–Otteri Wash & Dry, Frshket, KAMU, Traveloka, Gowabi เป็นต้น

นักวิเคราะห์ : ดุลเดช บิค : duladethb@th.dbs.com : Tel. 02 857 7833