***แนวโน้มดีขึ้นแต่ยังแฝงไว้ด้วยความท้าทาย***
TU รายงานกำไรสุทธิ 3Q23 เป็นไปตามที่เราและตลาดคาดไว้ที่ 1.2 พันล้านบาท ลดลง -52%YoY แต่เพิ่มขึ้น+17%QoQ ด้าน Core Profit 3Q23 ดีกว่าคาดจาก GPM ที่เพิ่มขึ้นหากไม่รวมผลขาดทุนจาก FX ที่ 268 ล้านบาท บริษัทมี Core Profit 1.4 พันล้านบาท ลด -27%YoY แต่เพิ่ม +16%QoQ ดีกว่าที่เราคาดไว้ 14%
รายได้ 3Q23 ลดลง -17%YoY จากฐานสูง และปริมาณขายลดลง YoY (แต่ทรงตัว QoQ) ทั้งนี้รายได้ลดลง YoY ในทุกธุรกิจ ยกเว้นรายได้จากอาหารสัตว์เลี้ยงและสินค้า value-added ที่เพิ่มขึ้นได้ QoQ
อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) สูงขึ้นเป็น 18.4% ใน 3Q23 (จาก 16.9% ใน 2Q23 และ 18.2% ใน 3Q22) โดย GPM ของธุรกิจแช่แข็งฟื้นตัวดีขึ้นมาก
ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร 3Q23 ลดลง -20%YoY เป็นผลจากอัตราค่าขนส่งตํ่าลง
ยังคงมีส่วนแบ่งผลขาดทุนจากบ.ร่วม โดย 3Q23 บันทึกเข้ามา -234 ล้านบาท (เป็นส่วนแบ่งผลขาดทุนของ Red Lobster 395 ล้านบาท ซึ่งขาดทุนมากขึ้น YoY เพราะราคาวัตถุดิบและค่าแรงสูงขึ้น และมากขึ้น QoQ จากปัจจัยฤดูกาล)
ดอกเบี้ยจ่ายใน 3Q23 เพิ่ม +14%YoY และ +7%QoQ เป็น 589 ล้านบาท จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
แนวโน้ม - บริษัทปรับลดเป้ารายได้ปี 23 เป็นครั้งที่ 2 โดยปรับเป็น -10% ถึง -12% YoY (จากเดิม -5% ถึง -6%) แต่ยังคงเป้า GPM และ SGA/รายได้ ไว้เท่าเดิม ซึ่งในประมาณการเราให้รายได้ปีนี้ -10%YoY อยู่แล้ว สำหรับแนวโน้มธุรกิจ 4Q23 ดีขึ้น QoQ จากอุปสงค์ที่คาดว่าจะฟื้นตัวในช่วงเทศกาลจับจ่ายใช้สอยใน 4Q และต้นปี รวมถึงราคาวัตถุดิบทูน่าลดลง แต่รายได้น่าจะทรงตัวหรือลดลง YoY จากฐานสูง อย่างไรก็ดีคาด GPM สูงขึ้น YoY
คงคำแนะนำถือ ให้ราคาพื้นฐาน 14.40 บาท เราเชื่อว่าผลประกอบการผ่านจุดตํ่าสุดแล้ว และคาดว่าจะเติบโตได้ในปี 24F แต่ระยะสั้นยังมีความท้าทายจากการฟื้นตัวที่ล่าช้า
นักวิเคราะห์ : ลีนา แพรรักขกิจ : leenap@th.dbs.com : Tel. 02 857 7826