Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: PTGรายได้ปี 64 โต 28% มีปันผล0.25 บาท /ซุ่มศึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล

4,957

 

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(28 กุมภาพันธ์ 2565)-------"PTG" ประกาศรายได้ปี 64 กว่า 133,759 ล้านบาท โตเพิ่มขึ้น 28% คาดปีนี้ EBITDA โต 15-20% ทุ่มงบลงทุน 3.5-4 พันล้านบาท รุกขยาย Non-Oil อย่างเต็มกำลัง มติบอร์ดอนุมัติปันผล 0.25 บาทต่อหุ้น พร้อมแย้มแผนซุ่มศึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล วางงบลงทุนพัฒนาแพลตฟอร์ม 200-300ลบ. คาดชัดเจนปีนี้

 

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีจีเอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 133,759 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,934 ล้านบาท หรือ 28.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 1,017 ล้านบาท

สำหรับรายได้จากการขายและการให้บริการที่ปรับเพิ่มขึ้นยังคงมาจากรายได้ธุรกิจน้ำมันเป็นหลัก คิดเป็นสัดส่วน 95.2% ของรายได้รวม จากปริมาณการจำหน่ายน้ำมันรวมทุกช่องทาง ทั้งผ่านสถานีบริการและค้าส่งผ่านอุตสาหกรรมรวมทั้งปี อยู่ที่ 5,020 ล้านลิตร ปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 1.2% เป็นไปตามเป้าที่บริษัทฯ ได้คาดการณ์ไว้ระหว่าง 1-4%

ขณะที่รายได้จากธุรกิจ Non-Oil ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 4.8% ของรายได้รวม โดยรายได้จาก Non-Oil เติบโต 42.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และเติบโต 37.4% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากธุรกิจแก๊ส LPG ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีปริมาณการจำหน่ายแก๊สอยู่ที่ 300 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 72.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งในปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ในธุรกิจ LPG สำหรับรถยนต์เป็นอันดับ 2 ด้วยส่วนแบ่งอยู่ที่ 17.7% ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 5.5% ในปี 2563 นอกเหนือจากนี้ ยังมีรายได้จากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มพันธุ์ไทย รวมถึงธุรกิจร้านสะดวกซื้อ Max Mart ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

"บริษัทฯ เชื่อว่าในปีนี้ เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันซึ่งน่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ให้ราคาขายปลีกให้มีค่าการตลาดที่เหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการควบคุมราคาน้ำมันดีเซลที่ภาครัฐกำหนด และคาดว่าจะยังคงสามารถรักษามาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับ 2 เอาไว้ได้" นายพิทักษ์ กล่าว

นายพิทักษ์ กล่าวต่อว่า ในปีนี้ บริษัทฯ ประมาณการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันในปีนี้ไว้ที่ 6-10% และประเมินกำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อม (EBITDA) อยู่ที่ 15-20% และจากการเติบโตของธุรกิจแก๊ส LPG ทั้งในภาคอุตสาหกรรมในครัวเรือน ทำให้บริษัทฯ คาดว่าปริมาณการการจำหน่ายแก๊ส LPG เติบโตได้ 50-60% นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ตั้งงบลงทุนไว้ที่ประมาณ 3,500 – 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการลงทุนในการขยายและปรับปรุงธุรกิจน้ำมันและแก๊ส LPG ประมาณ 1,500 – 2,000 ล้านบาท ธุรกิจ Non-Oil 1,000 – 1,500 ล้านบาท และธุรกิจใหม่ 500 ล้านบาท ซึ่งมีแผนจะขยายสาขาสถานีบริการน้ำมันและแก๊ส LPG ประมาณ 80-100 สาขา เพิ่มร้านกาแฟพันธุ์ไทย 150-200 สาขา รวมถึงจุดบริการทัชพ้อยต์ 350-400 สาขา

รวมถึง สถานีบริการน้ำมันคอมมูนิตี้มอลล์สุดทันสมัยแห่งแรก "PT Max Park Salaya" บนเนื้อที่ 9 ไร่ ริมถนนบรมราชชนนี ฝั่งขาเข้า อำเภอศาลายา จังหวัดนครปฐม ซึ่งแบ่งพื้นที่บริการเป็น 2 ส่วน คือ สถานีบริการน้ำมันและคอมมูนิตี้มอลล์ สูงชั้นครึ่ง 1 อาคาร และสูง 2 ชั้น 1 อาคาร ซึ่งมีทั้งร้านค้าชั้นนำในเครือบริษัท PTG และพันธมิตรทางธุรกิจรวมกว่า 30 ร้านค้า มาเปิดให้บริการ อีกทั้งยังมีพื้นที่สำหรับ Co-Working Space พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไว้บริการสำหรับสมาชิก PT Max Card อีกด้วย โดยได้เปิดให้บริการเฟสแรกไปแล้ว เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 และเตรียมดำเนินการเปิดให้บริการเต็มรูปแบบประมาณเดือนพฤษภาคม 2565

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายปันผลประจำปี 2564 ในอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้น เป็นเงิน 417.5 ล้านบาท โดยกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 2565

 


ด้านนายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ กำลังอยู่ระหว่างยื่นขอใบประกอบธุรกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัล (โทเคน) ในลักษณะผู้ค้า โดยเป็นแพลตฟอร์มผู้ค้าโทเคนในปัจจุบัน เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนในการพัฒนาแพลตฟอร์ม ราว 200-300 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในประเทศ และต่างประเทศ คาดชัดเจนปีนี้ และในอนาคตอาจจะมีการเชื่อมบริการภายในสถานีบริการน้ำมัน

โดยปัจจุบัน บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจจากธนาคารแห่งประเทศไทยแล้วจำนวน 4 ไลน์เซ่น ประกอบด้วย e-Money, รับชำระแทน, โอนเงินทางอิเล็กทรอนิค และตัวแทนผู้ออกบัตร อย่างไรก็ตามจะมีการเปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนในวันประกาศแผนธุรกิจปี 2565 ในวันที่ 8 มี.ค.นี้ ซึ่งหลักๆจะเป็นการเผยแผนขยายการลงทุน 8 แนวทาง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยื่นให้กับบริษัท และการขยายธุรกิจ Non-Oil ให้มีสัดส่วนมากขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าดำเนินงานในปี2565 ซึ่งจะขยายสถานีบริการชาร์จรถไฟฟ้า 35 แห่ง จากเดิม 17 แห่ง รวมถึงมีแนวทางเปลี่ยนแบตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในอนาคตอีกด้วย และยังมีแผนขยายสถานีบริการน้ำมันคาดจะขยายเพิ่มอีก 80-120 สาขา รวมถึงมีแผนขยายสาขากาแฟพันธุ์ ไทยเพิ่มราว 300 สาขา เพื่อผลักดันสัดส่วนกำไรธุรกิจนอนออยส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากล่าสุดอยู่ ราว 15% ของกำไรรวม

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมีแผนขยายสถานีบริการทั้งน้ำมัน LPG และธุรกิจนอนออยส์ไปยังต่างประเทศ เบื้องต้นอยู่ระหว่างศึกษาที่สปป.ลาว และกัมพูชา เบื้องต้นหากประเมินจากสถานการณ์ปัจจุบันคาดชัดเจนปีนี้

ด้านราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นส่งผลทำให้บริษัทต้องใช้กระแสเงินสดในการดำเนินธุรกิจเพิ่มมากขึ้น แต่ยืนยันว่ายังสามารถบริหารจัดการได้ เพราะบริษัทมีวงเงินในการดำเนินธุรกิจ และสามารถชะลอการลงทุน ของบริษัทบางส่วนได้ทันที

ปัจจุบัน มาร์จิ้นราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 0.90 บาท ส่วนเบนซิลอยู่ที่ 3.50 บาท ซึ่งบริษัทมีสัดส่วนการขายน้ำมันดีเซลราว 76% เนื่องลูกค้าเป็นผู้ประกอบการรถใหญ่

ทั้งนี้บริษัทฯ ได้เปิดเผยในงานกิจกรรม “PT ทำจริงไม่ทิ้งกัน” ที่ จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งเผยว่ายังคงดำเนินงานช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง และจะขยายโครงการดังกล่าวทั่วทั้งประเทศ โดยตั้งเป้ามี่จะไปจัดกิจกรรมแบบนี้อย่างน้อยไตรมาสละ1แห่ง/ภาค ซึ่งบริษัทได้เตรียมงบลงทุนในกิจกรรมช่วยเหลือสังคม 20-30 ล้านบาทต่อปี เพื่อพัฒนาชุมชน และให้โอกาสทางด้านการศึกษากับเด็กที่ขาดแคลน รวมถึงครอบครัวชุมชนที่อยู่ในเขตที่ตั้งสถานีบริการน้ำมันของ PT ให้ได้รับการช่วยเหลือเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

 



บล.ดีบีเอส วิคเคอร์สแนะนำซื้อ PTG
ราคาพื้นฐาน 17 บาท

*ราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยลบไปแล้ว
  ขาดทุนสุทธิใน 4Q21 จานวน 86 ล้านบาท จากมาร์จิ้นแคบลงเพราะตรึงราคาน้ำมันดีเซลค้าปลีกไว้ไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ทำให้ค่าการตลาดลด 35%YoY, 33%QoQ เป็น 1.26 บาท/ลิตร (4Q20 กำไรสุทธิ 672 ล้านบาท, 3Q21 กำไรสุทธิ 63 ล้านบาท) สำหรับปี 21 มีกำไรสุทธิ 1.0 พันล้านบาท ลดลง 46%YoY จากปริมาณขายและค่าการตลาดน้ำมันค้าปลีกลดลง

*ประกาศจ่ายปันผลปี 21 เท่ากับ 0.25 บาท/หุ้น ขึ้น XD 10 มี.ค.21

  ช่วง 1Q22F ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลยังลดลงต่อ ส่วนน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอลล์กระเตื้องขึ้นเล็กน้อย ส่วนทั้งปี 22F คาดว่าจะได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น เมื่อมีการเปิดเมือง เปิดประเทศ รวมถึงเศรษฐกิจเติบโตในอัตราสูงขึ้น

  ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 22F-23F ลง -26%/-28% สะท้อนสมมติฐานค่าการตลาดน้ำมันค้าปลีกที่อนุรักษ์นิยมยิ่งขึ้น

*คงคำแนะนำซื้อ โดยเฉพาะเมื่อราคาอ่อนตัว เราปรับลดราคาพื้นฐานเป็น 17 บาท (เดิม 20 บาท) อิงวิธี DCF (WACC 7.23%, TG 1%)

นักวิเคราะห์ : ดุลเดช บิค : duladethb@th.dbs.com : Tel. 02 857 7833


---จบ---

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

FTI จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 ผถห.อนุมัติจ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 ผถห.อนุมัติจ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

ได้เวลาซื้อหุ้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็นหุ้นตก หุ้นร่วง ณ จุด นี้ ด้วยข่าวอิสราเอลได้เปิดปฏิบัติการโจมตีอิหร่าน.. ขอมองต่าง

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้