Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: ECF โชว์กำไรปี64 โต23.54% พร้อมวางเป้าปีนี้รายได้เพิ่มไม่ต่ำกว่า 12-15 % /PIMOปี 65 วางเป้ารายได้แตะ 1.2 พันลบ. อวดกำไรปี64 เด้งสวย 28.51% /TQMตั้งเป้าปีนี้ โกยยอดเบี้ยประกันรวม 19,011 ลบ.

6,442

 


***ECF ตั้งเป้าปีนี้รายได้รวมเติบโตไม่ต่ำกว่า 12-15 %***


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(25กุมภาพันธ์ 2565)---------ECF เผยผลประกอบการปี 2564 รายได้ 1,600.80 ล้านบาท กำไรสุทธิ 50.85 ล้านบาท โต23.54% เล็งจ่ายปันผลหุ้นละ 0.0157 บาท กำหนดจ่ายวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 มองแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 1/65 สัญญาณดี ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ทั้งในประเทศ และส่งออก โตต่อเนื่อง ในประเทศขยายช่องทางจำหน่ายออนไลน์และโมเดิร์นเทรดปั๊มรายได้ ตั้งเป้ารายได้ปี 65 โต 12-15%

 


นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) ผู้ผลิตและจำหน่าย เฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานปี 2564 บริษัทมีรายได้รวมทุกกลุ่มธุรกิจ 1,600.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 185.18 ล้านบาท หรือ 13.08 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,415.63 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่เท่ากับ 50.85 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 23.54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 41.16 ล้านบาท


ขณะที่ ผลประกอบการไตรมาส 4/64 บริษัทมีรายได้รวม 445 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 422 ล้านบาท จำนวน 23 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 5.47 % และ มีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 15 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4 ล้านบาท เท่ากับเพิ่มขึ้นจำนวน 11 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 286.56 %

ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากมาจากรายได้การจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ทั้งในประเทศและการส่งออกในช่วงที่ผ่านมาเติบโต สำหรับการจำหน่ายภายในประเทศเติบโตอยู่ที่ 16.37% ในขณะที่การส่งออกเติบโตขึ้นจากกลุ่มลูกค้าประเทศสหรัฐอเมริกา 50.33% และอินเดีย 70.46% ส่งผลให้ภาพรวมของการส่งออกเติบโต 9.27% ในรอบปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายปันผลหุ้นละ 0.0157 บาท หรือคิดเป็นอัตราจ่ายปันผล 121.53 % ของกำไรสุทธิของบริษัท (งบเฉพาะกิจการ) หลังหักสำรองตามกฎหมาย โดยจะทำการกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 14 มีนาคม 2565 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 (ภายหลังวันที่ขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 21 เมษายน 2565 )


นายอารักษ์ กล่าวต่อว่า แนวโน้มธุรกิจช่วงไตรมาส 1/65 มีสัญญาณดี จากนโยบายการเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยว และมาตรการที่ผ่อนคลายของภาครัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและกำลังซื้อ ประกอบกับเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ตลาดในประเทศ มุ่งเน้นกระตุ้นยอดขายผ่านช่องทางจำหน่ายใหม่ สร้างความหลากหลายของช่องทางการจำหน่ายสินค้า ลดการพึ่งพิงเพียงช่องทางใดช่องทางหนึ่ง อาทิ จำหน่ายผ่านออนไลน์ ร้านโมเดิร์นเทรดชั้นนำที่มีสาขาทั่วประเทศ และเพิ่มตัวแทนจำหน่ายในต่างจังหวัดหัวเมืองใหญ่ อีกทั้ง การขยายตลาดต่างประเทศ มีสัญญาณการเติบโตที่ดีอย่างมีนัยสำคัญ จากกลุ่มลูกค้ารายใหม่ที่บริษัทขยายฐานการจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ส่งออกไปประเทศอินเดีย และสหรัฐอเมริกา ซึ่งมียอดคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี 2565 บริษัทมุ่งเน้นสร้างการเติบโต พร้อมเพิ่มความสามารถการทำกำไรจากธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ธุรกิจพลังงาน ซึ่งขณะนี้ทางโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เมียนมาร์ อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการก่อสร้างเฟส 2 ให้แล้วเสร็จคาดว่าภายในปีนี้ และจะเร่งการก่อสร้างเฟส 3 และ เฟส 4 สำหรับกำลังการผลิตรวม 220 เมกะวัตต์ ให้เริ่มการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์โดยเร็วต่อไป รวมถึงธุรกิจอื่น ๆ ที่อยู่ระหว่างเริ่มต้นการดำเนินธุรกิจ อาทิ ธุรกิจเหมืองขุดสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งที่ผ่านมาดำเนินการด้วยความรอบคอบระมัดระวัง รวมถึงธุรกิจการเพาะปลูกและจำหน่ายพืชผลทางการเกษตร อีกทั้งปีนี้คาดว่า จะสามารถพัฒนาแพลทฟอร์มออนไลน์และเริ่มการจำหน่ายสินค้าบนแพลทฟอร์มที่บริษัทเป็นผู้พัฒนาขึ้นได้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้

สำหรับปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมเติบโตไม่ต่ำกว่า 12-15 % และตั้งงบลงทุน 50 ล้านบาท สำหรับธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ เพื่อเพิ่มเครื่องจักรและปรับปรุงไลน์การผลิต รองรับปริมาณคำสั่งซื้อทั้งในและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

 


***PIMOปี 65 วางเป้ารายได้แตะ 1.2 พันลบ.***

“วสันต์ อิทธิโรจนกุล” หัวเรือใหญ่ PIMO-ไพโม่ โชว์งบปี 64 ทำได้ 1,030.58 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 102.09 ล้านบาท หลังออเดอร์มอเตอร์เครื่องปรับอากาศ มอเตอร์สำหรับสระว่ายน้ำและสปา มอเตอร์กำลังสำหรับภาคเกษตรกรรมไหลเข้าไม่ขาดสาย แจกปันผล 0.045 บ.ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 3 พ.ค.65 ส่วนปี 65 วางเป้ารายได้แตะ 1.2 พันล้านบาท รับอานิสงส์ตุนออเดอร์ล่วงหน้า 8 เดือน


นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIMO-ไพโม่ ประกอบธุรกิจหลัก ได้แก่ผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าเครื่องปรับอากาศ (Air Conditioning Motor) มอเตอร์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไป (Induction Motor) เครื่องสูบน้ำ ปั๊มหอยโข่ง มอเตอร์สำหรับสระว่ายน้ำ มอเตอร์สำหรับปั๊มบ้าน (Submersible Pump,Pool Spa Pump and Home Pump) เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2564 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,030.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 217.83 ล้านบาท หรือ 26.80% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 812.75 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 102.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.65 ล้านบาท หรือ 28.51% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 79.43 ล้านบาท เนื่องจากมอเตอร์เครื่องปรับอากาศ มอเตอร์สำหรับสระว่ายน้ำและสปา มอเตอร์กำลังสำหรับภาคเกษตรกรรม มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


“ผลประกอบการในปี 2564 เป็นไปตามที่บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายไว้ ดังนั้นทางคณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลงวดการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ก.ค. 2564 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564 โดยอัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.045 บาทต่อหุ้น วันที่ขึ้นเครื่องหมาย XD คือวันที่ 3 พ.ค.2565 ส่วนครึ่งปีแรกบริษัทฯ จ่ายเงินผลปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.018 บาทต่อหุ้น”นายวสันต์ กล่าว

นายวสันต์ กล่าวต่อไปว่าในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 1,200 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันมีคำสั่งซื้อล่วงหน้า (ออเดอร์) เข้ามาแล้ว 8 เดือน ประกอบกับบริษัทฯ จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาให้ทันภายในปีนี้ เพื่อที่จะเป็นปัจจัยช่วยผลักดันให้ยอดขายเติบโตเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงการพัฒนาด้านอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับมอเตอร์ BLDC เพื่อให้มีความทันสมัยขึ้นและต้นทุนการผลิตต่ำลง เพราะมอเตอร์ดังกล่าวสร้างอัตราการทำกำไรในระดับที่ดี

ส่วนความคืบหน้าโครงการพัฒนามอเตอร์แบบฮับสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (EV Hub Motor) ล่าสุดทางบริษัทฯ ได้ส่งมอเตอร์ต้นแบบที่ได้รับการพัฒนาจากทางสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ให้กับทางลูกค้าเรียบร้อยแล้ว โดยทางลูกค้าอยู่ระหว่างการทดสอบใช้มอเตอร์ดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะมีการตอบกลับมายังบริษัทฯ ในช่วงกลางมีนาคม 2565 และมีคำสั่งซื้อเข้ามาในช่วงไตรมาส 4/2565 ดังนั้นบริษัทฯ จึงคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนให้ผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต

 

 


***TQMตั้งเป้าปีนี้ โกยยอดเบี้ยประกันรวม 19,011 ลบ.***

TQM เปิดผลประกอบการประจำปี 2564 รับกำไรสุทธิ 891.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 27% สถานการณ์โอมิครอนส่งผลให้ผู้บริโภคซื้อประกันสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ประกันรถยนต์ที่เป็นยอดขายหลักลูกค้ามองเป็นเรื่องจำเป็นยังคงเติบโตดี หนุนเบี้ยประกันภัยทั้งปีทะลุเป้าที่ 17,505 ล้านบาท ชี้ในปีที่ผ่านมาหุ้น TQM โชว์ความโดดเด่นท่ามกลางมรสุมโควิด นับตั้งแต่ IPO ที่ไม่มีผู้ถือหุ้นที่เป็นกองทุนต่างชาติ จนปัจจุบัน มีสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติประมาณ 16% ของหุ้นทั้งหมด สะท้อนความเชื่อมั่นในสายตานักลงทุน เปิดแผนกลยุทธ์ปี 2565 ต่อยอดการเติบโตในทุกมิติ เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจใหม่ ‘TQC’ ที่ให้บริการด้านบริหารสินไหมประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุแก่บริษัทประกัน และ ‘อีซี่เลนดิ้ง’ ให้บริการด้านสินเชื่อส่วนบุคคลและการเงิน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและขยายฐานลูกค้า มุ่งลงทุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัลกับบริษัทในเครือเพื่อนำมาใช้พัฒนานวัตกรรมและการให้บริการด้านประกันภัย ส่งมอบประสบการณ์ใหม่และสร้างโอกาสการเข้าถึงลูกค้ามากยิ่งขึ้น เดินหน้าผนึกพันธมิตรบริษัทประกันภัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 15 ผลิตภัณฑ์ประกัน บุกชิงตลาดทุก segment พร้อมขยายช่องทางการขายเพิ่มทั้งออนไลน์-ออฟไลน์เต็มรูปแบบ ตั้งเป้ายอดเบี้ยประกันรวมปี 2565 ไว้ที่ 19,011 ล้านบาท ขณะที่ที่ประชุมบอร์ดฯ มีมติชงผู้ถือหุ้นจ่ายปันผล 0.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงขึ้น

 

 

ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธานบริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจ TQM ในปี 2564 ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโควิดแต่ TQM ก็ยังสามารถสร้างผลการดำเนินงานออกมาได้ดี ผู้บริโภคตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันความเสี่ยงภัยด้านปัญหาสุขภาพ จึงทำให้ยอดขายประกันสุขภาพของ TQM เติบโตขึ้น โดยเฉพาะการสั่งซื้อเข้ามาผ่านช่องทางออนไลน์ ขณะที่ยอดขายจากประกันภัยรถยนต์ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทยังคงเป็นไปตามเป้า ส่งผลให้ผลการดำเนินงานปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวม 3,427 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.3% โดยเป็นรายได้จากการให้บริการ เป็นจำนวน 3,273.6 ล้านบาท และรายได้อื่น 153.4 ล้านบาท ภายใต้การบริหารจัดการการทำงานและควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรเพิ่มสูงขึ้น โดยกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 1,729 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 164 ล้านบาท คิดเป็น 10.5 % ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 891.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 189.8 ล้านบาท คิดเป็น 27%

“ในปีที่ผ่านมาหุ้น TQM ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติเข้าถือหุ้นในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพและความโดดเด่นของ TQM ในมุมมองของนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงที่ผ่านมา TQM ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตของธุรกิจทั้งในด้านรายได้และกำไรสุทธิที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นแรงกระตุ้นให้เกิดความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ โดยการถือหุ้นของต่างชาติที่เพิ่มขึ้นนี้จะเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือของหุ้น และนำไปสู่การดึงดูดให้นักลงทุนไทยให้ความสนใจมาลงทุนในหุ้น TQM ต่อไป”

ทั้งนี้ จากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 มีมติจ่ายเงินปันผล 0.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นได้รับสิทธิ (RD) วันที่ 11 มีนาคม 2565 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 พฤษภาคม 2565

ด้านดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์ในการขยายการเติบโตของ TQM ในปี 2565 ได้วางแผนหลักไว้ดังนี้

• Insurance ecosystem enhancement ยกระดับและขับเคลื่อนงานบริการของ TQM ในธุรกิจใหม่ เช่น บริษัท ทีคิวซี จำกัด ที่ให้บริการด้านบริหารสินไหมประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ แก่บริษัทประกัน และบริษัท อีซี่เลนดิ้ง จำกัด ที่ให้บริการด้านสินเชื่อส่วนบุคคลและการเงิน เพื่อเพิ่มศักยภาพของ TQM และขยายฐานลูกค้า

• Digital strategy implementation เน้นลงทุนในธุรกิจที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีของบริษัทในกลุ่ม เช่น บริษัท ทีคิวดี จำกัด และบริษัท ชัวร์ครับ จำกัด เพื่อนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสร้างนวัตกรรมและส่งมอบประสบการณ์ใหม่ๆ เพิ่มความสะดวกสบายในการรับบริการด้านประกันภัยให้แก่ลูกค้า TQM

• Product line and channel expansion ร่วมกับพันธมิตรบริษัทประกันภัยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่กว่า 15 ผลิตภัณฑ์ เตรียมออกสู่ตลาดภายในปี 2565 อาทิ ประกันรถยนต์ ประกันสุขภาพ ประกันบ้าน ประกันอุบัติเหตุ ประกันชีวิต และอื่นๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่มครอบคลุมทุก เจนเนอร์เรชั่น พร้อมกับการขยายช่องทางการขายทั้งช่องทางออนไลน์ในทุกแพลตฟอร์ม และช่องทางออฟไลน์ที่ใช้กลยุทธ์ในการเพิ่มการมองเห็นเพื่อให้ลูกค้าเกิดการจดจำและทำให้ TQM กลายเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจ คนไทย ดร.นภัสนันท์กล่าว

 


---จบ---

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ไต่เส้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองดูหุ้นไทยไต่เส้น แถว 1370 +/- แบบพยาบามฝ่าด่าน 1380 จุด โดยเช้านี้ พี่ DELTA..

ต่างชาติ ลุยซื้อหุ้นไทย By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม เห็นนักลงทุนต่างชาติ กลับมาซื้อหุ้นไทย วานนี้ จัดไป เกือบ 3,600 ล้านบาท ส่วนในประเทศ พร้อมใจขายอย่าง...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้