Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : ECF ปิดดีลเทคฯ S-TREK มูลค่าลงทุน 510 ลบ. สยายปีก IT Solution ครบวงจร

2,506

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (3 ธันวาคม 2561)

บอร์ด ECF ไฟเขียวซื้อหุ้น S-TREK  สัดส่วน  51%   มูลค่า  510 ลบ.  ด้วยวิธี Share Swap - เพิ่มทุน PP  ที่ราคาหุ้นละ 7 บ. พร้อม อนุมัติออกหุ้นกู้วงเงิน  2 พันลบ. แตกไลน์ธุรกิจใหม่ด้าน IT Solution แบบครบวงจร  ระบุ S-TREK วางเป้าระยะยาวเพิ่มอัตราการเจริญเติบโตของยอดขายและกำไร จากการดำเนินงานในกลุ่มสินค้าไอทีและมือถือ พร้อมมุ่งสู่การเป็นผู้นำของธุรกิจไอทีและมือถือ ภายในระยะเวลา 3 ปี

 

นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) ECF เปิดเผยว่า ด้วยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่13/2561 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์โดยการเข้าซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท เอสเทรค (ประเทศไทย) จำกัด (“S-TREK”) จำนวนทั้งหมด 15,300,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาทต่อหุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 51 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ S-TREK (“หุ้นที่จะซื้อขาย”)จากผู้ถือหุ้นเดิม คือ นายจริศักดิ์ เปรมพจน์วัฒนา (ผู้ขาย) คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 510,000,000บาท
“บริษัทมีแผนขยายธุรกิจใหม่ ๆ ที่มีความน่าสนใจในการเข้าลงทุน เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าจะช่วยสร้างผลประกอบการที่ดีขึ้น สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ดังนั้นหากมีธุรกิจที่มีความน่าสนใจ บริษัทจะเข้าไปศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนกิจการนั้น ๆ ซึ่งไอทีและดิจิตอลถือเป็นเทรนด์ที่สำคัญของโลกยุคปัจจุบัน ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับระยะเวลาข้างหน้าจะได้รับปัจจัยหนุนจากนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลภาครัฐ กลุ่มธุรกิจสินค้าไอทีจึงเป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่มีความน่าสนใจ”นายอารักษ์ กล่าว

 


ทั้งนี้ แหล่งเงินทุนที่ใช้ในการซื้อสินทรัพย์และรายละเอียดในการออกหลักทรัพย์โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 51,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท เพื่อเตรียมไว้รองรับการเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) คือนายจริศักดิ์ เปรมพจน์วัฒนา เพื่อชำระราคาดว้ยวิธีการแลกหุ้น (ShareSwap) สำหรับการชำระราคาหุ้นและการรับโอนหุ้นส่วนที่ 1 และโดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนในมูลค่ารวมเท่ากับ 357,000,000 บาท คิดเป็นราคาหุ้นละ 7 บาท เพื่อเตรียมไว้รองรับการเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PrivatePlacement) คือ นายจริศักดิ์ เปรมพจน์วัฒนา เพื่อชำระราคาด้วยวิธีการแลกหุ้น (Share Swap)สำหรับการชำระราคาหุ้นและการรับโอนหุ้นส่วนที่ 2 โดยการกำหนดราคาหุ้นสามัญเพิ่มทุนชำระราคาค่าหุ้นที่จะซื้อขายส่วนที่ 2 ในมูลค่ารวมเท่ากับจำนวน 153,000,000 บาท ในราคาร้อยละ 110 ของราคาตลาด ณ ขณะที่เสนอขาย โดย “ราคาตลาด” จะเป็นไปตามกฎและระเบียบของตามกฎและระเบียบของสำนักงาน ก.ล.ต. ต่อไป

 

 

อย่างไรก็ตามในกรณีที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2562 ที่จะจัดให้มีขึ้นภายในไม่เกินเดือนมีนาคม 2562 อนุมัติการเข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ในครั้งนี้ แต่ไม่อนุมัติการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PrivatePlacement) คือ นายนายจริศักดิ์ เปรมพจน์วัฒนา หรือการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. สำหรับการชำระราคาหุ้นและการรับโอนหุ้นส่วนที่ 1 และ ส่วนที่ 2 บริษัทฯ อาจจะพิจารณาใช้แนวทางการขอรับการสนับสนุนทางเงินจากสถาบันการเงินแทน

 

 


ด้านประโยชน์ที่บริษัทฯ คาดว่าจะได้รับจากการทำรายการการเข้าลงทุนใน S-TREK ครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ไปยังธุรกิจประเภทใหม่ คือ ธุรกิจด้านไอทีและมือถือ ซึ่งเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ มีศักยภาพ และน่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อบริษัทฯและผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอนาคต ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้การขยายขอบเขตการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน อุปกรณ์ด้านไอทีและมือถือ นับเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างหนึ่งในการดำรงชีวิตประจำวันของเราทุกคนในยุคแห่งการเติบโตของเทคโนโลยี และข้อมูลข่าวสารที่มีการเปลี่ยนแปลง และเติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ดังนั้นอุปกรณ์ด้านไอที คอมพิวเตอร์ มือถือ และอุปกรณ์ด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้เข้ามามีบทบาทต่อการใช้ชีวิตประจำวันในทุก ๆ ด้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จากเหตุผลดังกล่าว บริษัทฯ จึงเล็งเห็นถึงศักยภาพและการเติบโตในธุรกิจประเภทนี้ดังนั้น การที่บริษัทฯ เข้าไปลงทุนใน S-TREK อันเป็นการขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ จะทำให้บริษัทฯมีโอกาสที่จะเติบโตไปพร้อมกับแนวโน้มการเติบโตที่ดีของธุรกิจด้านไอทีและมือถือได้

 

 

ทั้งนี้ แม้ว่าธุรกิจด้านไอทีและมือถือ จะเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ซึ่งบริษัทฯ เห็นว่าจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพและการเติบโตของบริษัทฯ ได้ในอนาคต แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะยังคงดำเนินธุรกิจหลักด้านการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ต่อไปภายใต้การบริหารจัดการโดยผู้บริหารชุดเดิม ในขณะที่การดำเนินธุรกิจด้านไอทีและมือถือ จะอยู่ภายใต้การบริหารจัดการโดยทีมผู้บริหารส่วนใหญ่ในปัจจุบันของ S-TREK ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจการเป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไอทีและมือถือ และพร้อมที่จะร่วม
ดำเนินการกับบริษัทฯ ต่อไป (อย่างไรก็ตามภายหลังจากการจ่ายชำระเงินส่วน ที่1 บริษัทฯ จะส่งกรรมการจำนวน 2 ท่าน ซึ่งโครงการคณะกรรมการของ S-TREK จะมีกรรมการจากบริษัทฯ เข้าร่วมเป็นกรรมการจำนวน 2 ท่าน จากทั้งหมด 3 ท่าน) ซึ่งจะไม่กระทบต่อการบริหารจัดการด้านธุรกิจการเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ของบริษัทฯในปัจจุบัน ดังนั้นนอกจากการเข้าลงทุนในหุ้นของ S-TREK ในครั้งนี้จะส่งผลดีต่อการบริหารจัดการและการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในระยะยาวแล้ว การดำเนินการดังกล่าวจะยังช่วยกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เพิ่มโอกาสการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทฯ โดยการลงทุนในธุรกิจที่คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตของรายได้และกำไรอีกด้วย

 

 

S-TREK ได้กำหนดเป้าหมายระยะยาวในการประกอบธุรกิจที่จะเพิ่มอัตราการเจริญเติบโตของยอดขายและกำไร จากการดำเนินงานในกลุ่มสินค้าไอทีและมือถือ เพื่อให้มีความเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมุ่งสู่การเป็นผู้นำของธุรกิจไอทีและมือถือ ภายในระยะเวลา 3 ปี โดย S-TREK มีอัตราการเติบโตของยอดขายอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ผ่านการจัดจำหน่ายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ซึ่งได้แก่ สินค้าชิ้นส่วนอุปกรณ์ไอทีมือถือ และกลุ่มโซลูชั่น โดยมีสินค้ารวมมากกว่า 5,000 รายการ และมีกลุ่มลูกค้าทั้งในกรุงเทพมหานคร และทั่วประเทศไทย มากกว่า 4,000 ร้านค้าทาง S-TREK ยังให้ความสำคัญโดยคำนึงถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่สามารถพัฒนาศักยภาพในด้านการเรียนรู้การศึกษาของประชากรไทย อาทิเช่น สินค้าอุปกรณ์ โต๊ะคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ (Smart Table) ที่สามารถตอบสนองและเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการเรียนการสอน และการพัฒนาในด้านธุรกิจที่ตอบสนองต่อโลกธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว

 

 

นอกจากนี้ยังขยายไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้าน อี-สปอร์ต หรือกีฬาอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งทาง S-TREK ได้ลงทุนในการสร้างอาคาร เพื่อรองรับและสนับสนุน การแข่งขันกีฬา “อีสปอร์ต” (e-Sports)” ของประเทศไทยนอกจากนี้ทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในการบริหารงานของ S-TREK ยังให้ความสำคัญต่อการบริหารงานที่คล่องตัว พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วทั้งในส่วนของ เทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค การให้บริการหลังการขาย รวมถึงการวิเคราะห์และบริหารความเสี่ยงในธุรกิจอย่างต่อเนื่อง อาทิ อายุของผลิตภัณฑ์ การรักษาฐานลูกค้า เป็นต้น
ดังนั้น คณะกรรมการบริษัทฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า การลงทุนครั้งนี้เป็นการลงทุนที่สมเหตุสมผล เนื่องจากเป็นการลงทุนที่เปิดโอกาสให้บริษัทฯ สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และมั่นคง และการลงทุนดังกล่าวจะช่วยเพิ่มเสถียรภาพให้กับรายได้และกำไรของบริษัทฯ สร้างมูลค่าเพิ่มและผลตอบแทนให้แก่บริษัทฯ ในระยะยาว อีกทั้ง เมื่อพิจารณาผลตอบแทนจากการลงทุน โดยการประเมินด้วยวิธีการคิดลดกระแสเงินสด (Discounted Cash Flow) บนสมมติฐานที่จัดทำขึ้น บริษัทฯ ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่เหมาะสม

 


อย่างไรก็ตามการลงทุนในธุรกิจด้านไอที และมือถืออาจมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและตลอดเวลาตามการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี อัตราแลกเปลี่ยนในการนำเข้าสินค้า การบริหารอายุของผลิตภัณฑ์ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทฯ มีความมั่นใจในศักยภาพ และประสบการณ์ด้านบริหารงานในธุรกิจด้านนี้ของกลุ่มผู้บริหารชุดเดิม ซึ่งมีประสบการณ์ในวงการมาไม่ต่ำกว่า 25 ปีรวมถึงศักยภาพของฐานลูกค้าทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดไม่ต่ำกว่า 4,000 ร้านค้าในปัจจุบัน

 

 

ทั้งนี้ ก่อนการพิจารณาอนุมัติการเข้าลงทุนใน S-TREK คณะกรรมการบริษัทฯ ได้กำหนดให้บริษัทฯ ว่าจ้างที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เพื่อเข้าตรวจสอบเอกสารและเงื่อนไขต่าง ๆ โดยละเอียดเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า ไม่มีความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญที่จะทำให้การเข้าลงทุนไม่ประสบความสำเร็จ โดยผลการตรวจสอบสถานะของกิจการได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งในประเด็นที่ยังไม่มีความชัดเจนหรือยังไม่ได้ข้อสรุป ก็ได้ดำเนินการกำหนดให้เป็นเงื่อนไขบังคับก่อน รวมถึงขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการการจ่ายชำระราคาสำหรับส่วนที่ 2ตามที่ได้มีการตกลงร่วมกันไว้กับผู้ขายดังนั้น ในการขออนุมัติรายการจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 ของบริษัทฯ ที่จะจัดให้มีขึ้นภายในไม่เกินเดือนมีนาคม 2562 นี้จึงขอให้ผู้ถือหุ้นทำการพิจารณาประโยชน์และความเสี่ยงในการทำรายการ ควบคู่กับความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อประกอบการตัดสินใจ

 

 


สำหรับ บริษัท เอสเทรค (ประเทศไทย) จำกัด (“S-TREK”) จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2535 เลขที่ทะเบียนนิติบุคคล 0105535160996 สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ เลขที่ 452 ถนนสุคนธสวัสดิ์ แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร มีทุนจดทะเบียนและทุนชำระ
แล้วจำนวน 300,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 30,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท กรรมการและกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของ S-TREK ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 คือนายจริศักดิ์ เปรมพจน์วัฒนา ปัจจุบันS-TREK ไม่มีบริษัทย่อย และ/หรือ บริษัทร่วมแต่อย่างใด

 

 

โดย S-TREK ดำเนินธุรกิจการเป็นผู้จัดจำหน่าย (Trading Company) ผลิตภัณฑ์ด้านไอที ซึ่งมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ไอทีและมือถือ รวมถึงมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายแบ่งออกได้ดังนี้


1. กลุ่มผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนประกอบคอมพิวเตอร์
2. กลุ่มผลิตภัณฑ์อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
3. กลุ่มผลิตภัณฑ์ต่อเชื่อมเนตเวิร์ค
4. กลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟแวร์
5. กลุ่มผลิตภัณฑ์กล้องวงจรปิด
6. กลุ่มผลิตภัณฑ์โซลูชั่นและการบริการ
7. กลุ่มผลิตภัณฑ์อินเตอร์เนทคาเฟ่
8. กลุ่มผลิตภัณฑ์มือถือ
9. กลุ่มผลิตภัณฑ์อี-สปอร์ต หรือกีฬาอิเลคทรอนิคส์

 


โดยมีผลิตภัณฑ์ที่พร้อมจำหน่ายมากกว่า 5,000 รายการ และมีกลุ่มลูกค้าทั้งในกรุงเทพมหานครและทั่วประเทศไทย มากกว่า 4,000 ร้านค้าทั้งนี้ กรรมการและผู้ถือหุ้นของ S-TREK เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ และมีประสบการณ์ในธุรกิจการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านไอทีและมือถือ โดยกรรมการและผู้ถือหุ้นของ S-TREK มีประสบการณ์จากการดำเนินธุรกิจมาเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 25 ปี

 

นอกจากนี้มีมติอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 เพื่อพิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้ในวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท เพื่อใช้เพิ่มสภาพคล่อง และ/หรือใช้ชำระคืนหนี้ และ/หรือไถ่ถอนหุ้นกู้เดิม และ/หรือใช้เป็นเงินลงทุนในการขยายธุรกิจ

 

อนึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ มีการออกหุ้นกู้เป็นจำนวน 699.90 ล้านบาท ตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี2560 เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2560 โดยหุ้นกู้ดังกล่าวจะครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่9 สิงหาคม 2563 ขณะที่กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2562 ที่จะจัดให้มีขึ้นภายในเดือนมีนาคม ปี 2562 โดยสถานที่จัดประชุมจะแจ้งให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่1/2562 (Record Date) ในวันที่ 31 มกราคม 2562

 

ECF

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

GUNKUL ลุยขยายพอร์ตพลังงานทดแทน

GUNKUL ลุยขยายพอร์ตพลังงานทดแทน

ติดตาม By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ หลังจาก นายกฯคุยกับนายแบงก์ วันนี้ สมาคมธนาคารไทย ก็ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อย...

รายงานพิเศษ : ได้เวลา "SPREME" ผู้นำธุรกิจ System Integrator ครบวงจร ลุยระดมทุน ติดปีกธุรกิจ High Growth

ได้เวลา "SPREME" ผู้นำธุรกิจ System Integrator ครบวงจร ลุยระดมทุน ติดปีกธุรกิจ High Growth

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้