Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: BGRIM ปักธงรายได้ปี 65 โต 8-10%

5,339

 

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 1 ธันวาคม 2564)------ BGRIM วางเป้ารายได้ปี 65 เติบโต 8-10% จากปี64 เดินหน้าขยายพอร์ตพลังงานทดแทนดันกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น10,000 เมกะวัตต์ในปี 73

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 2565 เติบโต 8-10% จากปี2564 โดยจะเน้นลงทุนพลังงานสะอาดเพื่อผลักดันกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 7,200 เมกะวัตต์ในปี 2568 และมีกำลังการผลิต 10,000 เมกะวัตต์ในปี 2573


ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทฯ มีโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่เปิดดำเนินการแล้ว จำนวน 737 เมกะวัตต์ ซึ่งประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม ขยะอุตสาหกรรม และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ในประเทศไทย เวียดนาม กัมพูชา สปป.ลาว นอกจากนี้ ยังมีโครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ชนิดติดตั้งบนหลังคาอีกหลายโครงการทั้งในประเทศไทยและฟิลิปปินส์

ขณะที่มีโครงการพลังงานทดแทนหลายโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ด้วยกำลังการผลิตรวม 126 เมกะวัตต์ รวมถึงโครงการพลังงานลมในโปแลนด์ โครงการไฟฟ้าพลังน้ำในสปป.ลาว และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบไฮบริดในประเทศไทย


อนึ่ง ไตรมาสที่ 3/2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ เติบโต 4.7% อยู่ที่ 11,714 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเติบโตของปริมาณไฟฟ้าที่ขายให้แก่ลูกค้า IU ในประเทศ 17.1% โดยเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดที่ 844 กิกะวัตต์-ชั่วโมง จากหลายกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมหลัก ควบคู่กับการเชื่อมเข้าระบบของลูกค้า IU รายใหม่ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 33.5 เมกะวัตต์ ในช่วง 9 เดือนของปี 2564 จากเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 40 เมกะวัตต์ในปีนี้ และมากกว่า 50 เมกะวัตต์ ในปี 2565 อย่างไรก็ดี กำไรสุทธิ-ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ ลดลง 23.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาที่ 571 ล้านบาท จากราคาก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 268 บาทต่อล้าน BTU และการซ่อมบำรุงตามแผนของโครงการโรงไฟฟ้า SPP 3 โครงการ

 


บล.ทิสโก้ แนะถือBGRIM
มูลค่าเหมาะสม 48 บาท

 

• BGRIM : ประเด็นจากการประชุมนักวิเคราะห์ รายละเอียดการนำเข้า LNG

 

ประเด็นจากการประชุมนักวิเคราะห์ :
BGRIM ได้มีการจัดประชุมนักวิเคราะห์ออนไลน์ ในเรื่องของการนำเข้าก๊าซ LNG กว่าครึ่งนึงของการประชุม รวมไปถึงกลยุทธ์ของ BGRIM โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

• การนำเข้า LNG : BGRIM คาดว่าจะเริ่มนำเข้า LNG จำนวน 500ktpa ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป เมื่อโรงไฟฟ้า SPP มีความพร้อมในการดำเนินงาน และบริษัทได้มีการล็อคราคาน้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้าไว้แล้ว (มีการทำสัญญา 7 ปี) ก่อนที่ราคาจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งการนำเข้า LNG ในครั้งนี้จะมีราคาถูกกว่าของอ่าวไทยราวๆ 10% และพร้อมที่จะทำสัญญาซื้อเพิ่มอีก 700ktpa หลังจากที่ตลาด LNG มีแนวโน้มดีต่อผู้ซื้อขึ้นหลังปี 2025
• การป้องกันความเสี่ยง; ผลกระทบต่องบกำไรขาดทุนเล็กน้อย : การป้องกันความเสี่ยงจะเข้ามาใช้ในอนาคตหลังจากที่เริ่มนำเข้า LNG แต่คาดว่าจะทำให้ผลกระทบต่องบกำไรขาดทุนมีไม่มาก
• ราคาก๊าซเพิ่มขึ้นในปี 2022F: BGRIM คาดราคาก๊าซเฉลี่ยที่ 330 บาท/mmbtu ในปี 2022F เพิ่มขึ้น 24% YoY แต่อย่างไรก็ตาม ต้นทุนก๊าซที่เพิ่มขึ้นจะถูกชดเชยจากการขึ้นค่าไฟของภาครัฐ
• BGRIM เผยการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังก๊าซที่เวียดนาม แต่ยังรอรัฐบาลเวียดนามอนุมัติแผนการลงทุนระยะยาว

เราแนะนำให้ “ถือ” โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 48 บาท อิง DCF โดยมีความเสี่ยงคือ การทำ M&A, ต้นทุนก๊าซ และการปิดปรับปรุง

 

 

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส เชียร์ซื้อ BGRIM
ราคาพื้นฐาน 58 บาท

 

Company Update
BGRIM คำแนะนำ ซื้อ
ราคาปิด 42.50 บาท ราคาพื้นฐาน 58 บาท (Upside 36%)
การเข้าซื้อโรงไฟฟ้า SPP 3 แห่ง หนุนกำไรปี 22F


• บริษัทร่วมของ BGRIM ประกาศเข้าซื้อโรงไฟฟ้า SPP ที่ดำเนินงานอยู่แล้ว 3 แห่ง กำลังการผลิตรวม 330MW ใช้เงินลงทุน 12.4 พันล้านบาท ทั้งนี้บริษัท Univenture BGP (UVBGP) ที่ BGRIM ถือหุ้น 45% และ UV ถือหุ้น 55% เข้าซื้อโรงไฟฟ้า Eastern Cogeneration (E-COGEN) ทั้งหมด ทำให้ได้โรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่น 3 แห่ง
(PPTC 1 แห่ง ซึ่งถือหุ้น 74.5% และ SSUT 2 แห่งถือหุ้น 100% ทั้งสองโรง) มีสัญญาขายไฟฟ้า 25 ปีกับ EGATนับตั้งแต่ปี 2016


• ราคาซื้ออยู่ที่ประมาณ 34 ล้านบาท/MW (ราคาซื้อโรงไฟฟ้าก๊าซเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอยู่ที่ 30-40 ล้านบาท/MW)โดยมีEIRR 9-12%


• เงินลงทุนมาจากเงินสดที่มีและการกู้ยืม โดยคาดว่าจะกู้ 6 พันล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 3.5-4.0% ดอกเบี้ยจ่ายจะเพิ่มเข้ามา 210-240 ล้านบาท/ปี


• BGRIM จะมีกำไรส่วนเพิ่มเข้ามา 320 ล้านบาทในปี 2022F (คิดเป็น 10% ของคาดการณ์กำไรเดิม) และจะเพิ่มขึ้นในอนาคตเพราะโรงไฟฟ้าทั้ง 3 แห่งจะขยายกำลังการผลิตเป็น 500 MW ภายในปี 2025F


• สำหรับกำไรสุทธิ 3Q21F คาดชะลอตัวลง QoQ เนื่องจาก 1) มีปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า, 2) ราคาต้นทุนก๊าซสูงขึ้นกระทบระยะสั้น, 3) การใช้ไฟฟ้าในเวียดนามลดลงช่วงล็อกดาวน์

• แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 58 บาท (DCF, WACC 5.43%, TG 0%) ความเสี่ยงหลัก คือ การเปิดโรงไฟฟ้าใหม่ล่าช้า, เศรษฐกิจฟื้นช้า และปัญหาการจัดหาก๊าซของ PTT

 


---จบ---

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ลุ้น กันต่อ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็น นักลงทุนยังคงชะลอลงทุน หลังมีข่าว อิสราเอล จะตอบโต้อิหร่าน ......

ขายทำรอบ By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง เห็นวานนี้ ต่างชาติทิ้งหนักเกือบ 6.4 พันล้านบาท แต่รายย่อยซื้อสุทธิ 6.8 พันล้านบาท ท่ามกลางความ..

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้