Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : BGRIM เข้าวิน คว้าโครงการงานระบบไฟฟ้าและน้ำเย็นสนามบินอู่ตะเภา

2,690

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (3 ตุลาคม 2561)

 

BGRIM เผยได้รับเลือกผู้ประกอบการเพื่อดำเนินโครงการงานระบบไฟฟ้าและน้ำเย็น พื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระบุกรอบระยะเวลาพัฒนาและดำเนินการก่อสร้างโครงการระยะที่ 1 พร้อมดำเนินการทันที ระหว่างปี 2561 – 2564 ส่วนแผนการพัฒนาโรงไฟฟ้าระยะที่ 2 ตามข้อเสนอของบริษัทฯ จะได้รับการกำหนดไว้ ระหว่างปี 2564 – 2566

 

นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับหนังสือจากกองทัพเรือแจ้งผลการคัดเลือกผู้ประกอบการเพื่อดำเนินโครงการงานระบบไฟฟ้าและน้ำเย็น พื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา โดยข้อเสนอของบริษัทฯ ได้รับการพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมการคัดเลือกผู้ประกอบการดำเนินโครงการฯ เพื่อการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแบบผสมผสาน (Hybrid) ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวจะสามารถสร้างเสถียรภาพด้านการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าในเขตพื้นที่พัฒนาสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาได้อย่างชัดเจน โดยแผนการพัฒนาโรงไฟฟ้าระยะที่ 1 บริษัทฯ จะได้ดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 80 เมกะวัตต์ พร้อมกับการพิจารณาจัดหาพื้นที่ที่มีความเหมาะสมเพื่อการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 15 เมกะวัตต์ และ ระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) 50 เมกะวัตต์ชั่วโมง ซึ่งการพัฒนาโครงการฯ ตามแผนงานระยะที่ 1 ดังกล่าว บริษัทฯ มีความพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับจัดทำรายละเอียดการดำเนินโครงการฯ ตามข้อกำหนดและขอบเขตงาน (TOR) และข้อเสนอของบริษัทฯ เพื่อให้การพัฒนาโครงการฯ มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุดให้กับกองทัพเรือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

ขณะที่แผนในการดำเนินงานโรงไฟฟ้าในพื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาตามข้อเสนอของบริษัทฯ นั้น ยังประกอบด้วยแผนการพัฒนาโรงไฟฟ้า ระยะที่ 2 ซึ่งจะประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 80 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน และ/หรือติดตั้งบนหลังคา และ/หรือแบบลอยน้ำ 55 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทฯ จะได้ปฎิบัติงานตามนโยบายที่ได้รับจากกองทัพเรือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดในขั้นตอนต่อไปเพื่อให้การก่อสร้างโรงไฟฟ้าตามแผนงานดังกล่าวสามารถรองรับปริมาณความต้องการการใช้ไฟฟ้าในเขตพื้นที่การพัฒนาโครงการสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาได้อย่างมั่นคงอีกด้วย

 

 

 

 

นางปรียนาถ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2561 บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ได้จัดทำข้อเสนอการดำเนินโครงการงานระบบไฟฟ้าและน้ำเย็น พื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา เพื่อยื่นต่อคณะกรรมการคัดเลือกผู้ประกอบการดำเนินโครงการงานระบบไฟฟ้าและน้ำเย็นในพื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา("คณะกรรมการคัดเลือก") ซึ่งตามข้อเสนอของบริษัทประกอบด้วย แผนการดำเนินงานโรงไฟฟ้ารูปแบบผสมผสาน (Hybrid) ซึ่งจะมีประสิทธิภาพและสามารถสร้างความมั่นคงทางพลังงานสูงสุด

 

โดยมีแผนการดำเนินโครงการเป็น 2 ระยะแบ่งเป็น (ก) โครงการระยะที่ 1 ประเภทโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 80 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน 15 เมกะวัตต์ และระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) 50 เมกะวัตต์ชั่วโมง (ข) โครงการระยะที่ 2ประเภทโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 80 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน และ/หรือติดตั้งบนหลังคาและ/หรือแบบลอยน้ำ 55 เมกะวัตต์โดยมีระยะเวลาในการพัฒนาและดำเนินการก่อสร้างโครงการระยะที่ 1 ระหว่างปีพ.ศ. 2561 - 2564 และโครงการระยะที่ 2 ระหว่างปี พ.ศ. 2564 -2566

 

โดยตามข้อเสนอของบริษัทนั้นบริษัทคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ให้กับพื้นที่รับผิดชอบหลักบริเวณท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาและพื้นที่รับผิดชอบรองในส่วนของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ พร้อมทั้งจำหน่ายน้ำเย็นให้กับท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาตามแผนการดำเนินงานโครงการระยะที่ 1 ได้ ภายในเดือนมกราคม 2564 "กรอบระยะเวลาในการพัฒนาและดำเนินการก่อสร้างโครงการระยะที่ 1 ของบริษัทฯ จะสามารถดำเนินการได้ในทันที ระหว่างปี พ.ศ. 2561 – 2564 ส่วนแผนการพัฒนาโรงไฟฟ้าระยะที่ 2 ตามข้อเสนอของบริษัทฯ นั้น ได้รับการกำหนดไว้ ระหว่างปี พ.ศ. 2564 – 2566 "

 

 

 



ทั้งนี้เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2561 กองทัพเรือได้มีหนังสือแสดงเจตนารมณ์และแจ้งผลการคัดเลือกผู้ประกอบการเพื่อดำเนินโครงการระบบไฟฟ้าและน้ำเย็น พื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา โดยตกลงคัดเลือกข้อเสนอของบริษัทสำหรับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในระยะที่ 1 (ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 80 เมกะวัตต์)และให้บริษัทเป็นผู้จัดทำรายละเอียดโครงการตามที่ได้ระบุไว้ในข้อกำหนดและขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR)

 

ทั้งนี้ ในส่วนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ตามข้อเสนอของบริษัทนั้น บริษัทมีความพร้อมที่จะปฏิบัติงาน และร่วมพิจารณากับคณะกรรมการคัดเลือก กองทัพเรือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดหาพื้นที่ที่มีความเหมาะสมสำหรับการดำเนินโครงการดังกล่าว ภายใต้ข้อกำหนดและขอบเขตงานโครงการตามข้อเสนอของบริษัทโดยถูกต้องครบถ้วนต่อไปอนึ่ง เมื่อบริษัทได้จัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับข้อกำหนดและขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) รวมถึงสัญญาต่างๆที่เกี่ยวข้องครบถ้วนแล้ว บริษัทจะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เรื่องการเข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์และการเปิดเผยข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอย่างเคร่งครัดต่อไป

 

 

 

 

บริษัทฯ มีความภาคภูมิใจ และมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ต่อการที่ BGRIM ได้รับโอกาสอันสำคัญยิ่งให้เป็นผู้พัฒนาระบบการผลิตกระแสไฟฟ้าและน้ำเย็นในครั้งนี้ ซึ่งบริษัทฯ ได้จัดเตรียมความพร้อมไว้แล้วทุกประการเพื่อให้ สามารถดำเนินงานอันจะเป็นการสนับสนุนและตอบสนองต่อนโยบายในการพัฒนาพื้นที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภาและพื้นที่โดยรอบดังกล่าวให้กับกองทัพเรือและรัฐบาลให้เป็นผลสำเร็จตามหน้าที่และความรับผิดชอบที่บริษัทฯ ได้รับมอบหมาย โดยการดำเนินการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าแบบผสมผสาน (Hybrid) ระยะที่ 1 ตามข้อเสนอของบริษัทฯ นั้น ได้รับการคาดหมายว่า จะสามารถดำเนินการก่อสร้างและเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ให้กับพื้นที่รับผิดชอบหลักบริเวณท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา และ พื้นที่รับผิดชอบรองในส่วนของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ พร้อมทั้งจำหน่ายน้ำเย็นให้กับท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ได้ภายในเดือนมกราคม 2564 เพื่อเป็นการรองรับความต้องการใช้กระแสไฟฟ้าและระบบสาธารณูปโภคของท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาและพื้นที่พัฒนาโดยรอบได้อย่างมั่นคง มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องต่อไป

 


บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์เปิดเผยว่า ปรับคำแนะนำ BGRIM ขึ้นเป็น "ซื้อ" แต่คงราคาเหมาะสมที่ 34.25 บาท มองว่า

1) ความชัดเจนของการย้าย 2 โครงการ คาด COD ทันตามแผน ช่วยปลดล็อคความกังวลของตลาด และ

2) Upside จากโครงการใหม่ที่อยู่ในระหว่างการศึกษา จะทำให้ถูก Re-rate valuation ขึ้น ขณะที่

3) หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าได้รับ Sentiment เชิงบวก หลัง PDP อาจข้อสรุปใน 4Q61 ประกอบกับแนวโน้ม 2H61 ยังเติบโตดี เราจึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็น "ซื้อ" และคงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2561 ที่ 34.25 บาท

 

คงประเมินรายได้ปีนี้ 3.76 หมื่นล้านบาท เติบโต +20% YoY โดยใน 1H61 ทำได้แล้ว 45% ของประมาณการ เราคาดรายได้เร่งตัวขึ้นจากการทยอยรับรู้อีก 179 MW และรับรู้รายได้ในโครงการ BGYSP เต็ม100% ตั้งแต่ 3Q61 หลังเพิ่มสัดส่วนในโครงการนี้ ชดเชยมาร์จิ้นที่อาจได้รับผลกระทบเพราะไม่มีการปรับค่า Ft ในปีนี้เพื่อชดเชยต้นทุนจากราคาก๊าซ แม้บริษัทฯ และอาจมีความเสี่ยงจากการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่เป็น Unrealized loss แต่เรามองว่าหากค่าเงินบาทไม่ได้อ่อนไปกว่า 33 บาท/USD ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนค่อนข้างจำกัด

 

ฺBGRIM

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

HotNews: IND เตรียมศึกษาธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานสะอาด

IND เตรียมศึกษาธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานสะอาด ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ไม่ต่ำกว่า 15%

สถานบันเทิงครบวงจร By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ยินดี สภาผู้แทนราษฎร ที่ได้ลงมติ รายงานผลการศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร...

มัลติมีเดีย

QTCG กระแสตอบรับดี/เปิดพื้นฐานก่อนเทรดวันที่ 4 เม.ย. - สายตรงอินไซด์ - 29 มี.ค.67

QTCG กระแสตอบรับดี/เปิดพื้นฐานก่อนเทรดวันที่ 4 เม.ย. - สายตรงอินไซด์ - 29 มี.ค.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้