Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : TACC ตั้งธงรายได้ปีนี้พุ่ง 10-15% / 3 เซียนประสานเสียงซื้อ

4,170

HotNews : TACC ตั้งธงรายได้ปีนี้พุ่ง 10-15% / 3 เซียนประสานเสียงซื้อ

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 25 มีนาคม 2564) TACC มั่นใจแนวโน้มผลงานปี 64 เติบโตต่อเนื่อง วางเป้ารายได้เติบโต 10-15% ประเมินยอดขายในช่วงครึ่งปีหลังฟื้นตัวมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายทำให้กลับมาจับจ่ายใช้สอยตามปกติ เสิร์ฟสินค้าเครื่องดื่ม "สละเบอร์รี่" ในโถกด 7-Eleven ตอบโจทย์เครื่องดื่มกลุ่ม Refreshing เน้นวิตามิน C สูง และมีสินค้าใหม่ใน All Cafe'ประกอบด้วย Melon Bingsu Smoothie, Melon Milky (Ice) และMelon Yogurt Smoothie นอกจากนั้นเตรียมเปิดตัวคาแรคเตอร์ใหม่เอาใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย

 

 

ด้าน 3 เซียนประสานเสียงซื้อ TACC เคจีไอ เคาะเป้า 12.60 บาท/หุ้น ,เคทีบีเอสที ส่องราคาเป้าหมายที่ 11.60 บาท/หุ้น และ เซียนหยวนต้า มอง 9.50 บาท/หุ้น

 

 

 

นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) (TACC) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทฯ ได้วางเป้าหมายรายได้เติบโต 10-15% โดยยังคงใช้กลยุทธ์การเจริญเติบโตของยอดขายด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และออกเครื่องดื่มใหม่ๆ ในกลุ่มสินค้าเครื่องดื่มเย็นในโถกด และเครื่องดื่มในมุม All Café ที่ร้าน 7-Eleven และวางแผนการตลาดร่วมกัน เพื่อกระตุ้นยอดขาย รวมถึงการขยายตลาดไปยังกลุ่ม Café Business ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเจริญเติบโตของปีนี้

 

 


ทั้งนี้ ในวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา บริษัทฯได้เปิดตัวเครื่องดื่ม "สละเบอร์รี่" ในโถกด 7-Eleven ตอบโจทย์เครื่องดื่มกลุ่ม Refreshing เน้นวิตามิน C สูง และในวันที่ 25 มี.ค. เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ใน All Cafe'ประกอบด้วย Melon Bingsu Smoothie, Melon Milky (Ice) และMelon Yogurt Smoothie ทำมาจาก เมล่อนสายพันธุ์กรีนเน็ต เนื้อสีเขียวกรอบ กลิ่นหอมหวาน รสชาติหวานอมเปรี้ยว ผสมผสานกับแตงโมสายพันธุ์กินรี เนื้อแน่นละเอียดสีแดงเข้ม มีความฉ่ำน้ำและหวานกรอบ เมื่อนำมาคิดค้นเป็นเมนูได้เครื่องดื่มรสชาติหวานอมเปรี้ยว พร้อมกลิ่นหอมหวานเย็นชื่นใจ เหมาะกับอากาศร้อนในช่วงซัมเมอร์นี้เป็นอย่างดี

 

 


ในส่วนของธุรกิจ “คาแรคเตอร์” ในปีนี้ บริษัทฯได้มีการคาแรคเตอร์ใหม่ “Jay The Rabbit” จับกลุ่มสาวโสด และกลุ่มออฟฟิศ ที่มีกำลังซื้อเป็นจำนวนมาก อีกทั้งมีความแตกต่างจากคาแรคเตอร์ที่บริษัทฯมีอยู่ ทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าและต่อยอดธุรกิจ ให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างดีเยี่ยม เช่นเดียวกับคาแรคเตอร์ "Rilakkuma" และ "หมาจ๋า" โดยเร็วๆนี้ บริษัทฯเตรียมเปิดตัวคาแรคเตอร์ตัวใหม่ เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

 

 

 


“แนวโน้มผลประกอบการในปี 2564 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศทั้งจากการเลิก Work from home และการเปิดเทอม ทำให้รายได้ใน 7-Eleven กลับมาคึกคัก รวมทั้งได้ปัจจัยหนุนจากการเปิดตัวสินค้าใหม่เครื่องดื่มตามฤดูกาล ในโถกด 7-Eleven และใน All Café’ เพื่อกระตุ้นยอดขาย”

 

 


ประธานกรรมการบริหาร TACC กล่าวอีกว่า ในส่วนของการร่วมลงทุนกับบริษัท ไทยคานาเทค อินโนเวชั่น จำกัด (TCI) ในสัดส่วน 30% ซึ่ง TCI มี MOA กับ มทร. พระนครในการทำกัญชาทางการแพทย์และกัญชงทั้งต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดย TACC อยู่ระหว่างศึกษาตลาดและความต้องการของผู้บริโภค ในการที่จะผลิตสินค้ากัญชงในครึ่งหลังของปีนี้ เพื่อขยายธุรกิจไปสู่ตลาดสินค้า Health and wellness ที่ใช้สาร CBD เป็นส่วนประกอบ ซึ่งบริษัทฯมีความพร้อมทั้งในแง่ของทีมงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทีมงานการตลาด ทำให้มั่นใจว่าสินค้าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างดีเยี่ยม

 

 

 


บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า แม้จะเผชิญกับการระบาดของ COVID-19 ในปี 2563 แต่ผลประกอบการของ TAAC ก็ยังคงแข็งแกร่ง เมื่อมองต่อไปข้างหน้า บริษัทมุ่งเพิ่มรายได้จากธุรกิจ B2B และ B2C ในอีกสองสามปีข้างหน้า หลังจากที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 2563 เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปีนี้เอาไว้ที่ 233 ล้านบาท (+18.5% YoY) และปี 2565F ที่ 255 ล้านบาท (+14.0% YoY) เรายังคงคำแนะนำซื้อ โดยปรับขยับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 12.60 บาท (อิงจาก P/E เฉลี่ยห้าปีย้อนหลังที่ 30x) จากราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 11.00 บาท

 

 


บริษัทมีเป้าหมายเพิ่มรายได้จากธุรกิจ B2B และ B2C ในอีกสองสามปีข้างหน้า หลังจากที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 2563 โดยในปี 2564F เราคาดว่าธุรกิจ B2B ของ TACC จะทำรายได้ถึง 1.37 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 9.8% YoY และคิดเป็น 92% ของรายได้รวมในปี 2564F) เนื่องจาก i) มีการขยายสาขาร้าน 7-Eleven อีก 700 สาขาในปี 2564F และ ii) ปริมาณยอดขายของร้าน All Cafe เพิ่มขึ้นจากการปรับเพิ่มขนาดแก้วจาก 16 เป็น 22 ออนซ์ นอกจากนี้ เรายังคาดว่ารายได้จากธุรกิจ B2C จะเพิ่มเป็น 119 ล้านบาท (+81.5% YoY และคิดเป็น 8% ของรายได้รวมในปี 2564F) หลังจากที่ลดลง 59% และคิดเป็นสัดส่วนแค่ 5% ของรายได้รวมในปี 2563 ทั้งนี้ แนวโน้มยอดขายที่ดีขึ้นเป็นผลมาจาก I) การผ่อนคลายมาตรการควบคุม COVID-19 ใน 2H64 และ ii) กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่น่าจะดีขึ้น YoY นอกจากนี้ TACC ยังเซ็น MoU กับ Thai Canatech Innovation และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครในการค้นคว้าและวิจัยผลิตภัณฑ์จากกัญชง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มออกผลิตภัณฑ์ได้ภายใน 2H64 และเป็น upside ในอนาคต

 

 


ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564-65 ไว้ที่ 233 และ 255 ล้านบาท ตามลำดับ

 


ยังคงคำแนะนำซื้อ โดยขยับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 12.60 บาท (อิงจาก P/E เฉลี่ยห้าปีย้อนหลังที่ 30x) จากราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 11.00 บาท เรายังคงเลือก TACC เป็นหุ้นเด่นของเราจากแนวโน้มอัตรากำไรที่แข็งแกร่ง และ ROE ที่สูง (26.5% ในปี 2563 และ 31.6% ในปี FY64-65F)

 

Risks COVID-19 ระบาด, เศรษฐกิจชะลอตัวลง, ความขัดแย้งทางการเมือง

 

 

 

 

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ยังคงคำแนะนำ ซื้อ TACC

 

และราคาเป้าหมายที่ 11.60 บาท (อิง 2021E PER ที่ 30x เทียบเท่า 5-year average PER) จากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ (11 มี.ค.21) เรามีมุมมองเป็นบวกจาก 1) บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2021E โต 15-20% YoY (ใกล้เคียงกับปี 2019 ที่ +18%) จากธุรกิจ B2B (โถกดน้ำ 7-11 และ All-caf?), 2) ธุรกิจกัญชง บริษัทสนใจสินค้าในกลุ่มสารสกัด CBD ซึ่งบริษัทมีความพร้อมหลังร่วมลงทุนกับ TCI ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านกัญชา-กัญชงมากกว่า 10 ปี และ 3) อยู่ระหว่างทดลองนำสินค้า (โถกดน้ำ) ไปจำหน่ายในศูนย์อาหารของ Tesco Lotus และอยู่ระหว่างเจรจาในการกระจายเข้าไปใน Lotus Express ที่มีมากถึง 1,600 สาขาทั่วประเทศ

 

 


ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2021E ที่ 236 ล้านบาท (+25% YoY) และปี 2022E ที่ 264 ล้านบาท (+11% YoY) จากการขยายสาขา 7-11 ที่ 700 สาขา/ปี และ GPM ที่สูงขึ้นจาก project upsize 22 oz. โดยประมาณการกำไรปี 2021E ยังมี upside จากธุรกิจเครื่องดื่มกัญชงและ Tesco Lotus

 

 


ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นและ outperform SET +16% ในช่วง 3 เดือน จากคลายกังวลการต่อสัญญา 7-11 ในปั้มน้ำมันกับ PTTOR และข่าวบริษัทสนใจทำเครื่องดื่มกัญชง อย่างไรก็ตามเรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ปัจจุบัน TACC เทรดที่ 2021E PER = 20x (-0.5SD) โดยเรามองว่าราคาหุ้น TACC ไม่ควรเทรดที่ discount valuation จากกำไรที่กลับมาเติบโตดี และยังมีปัจจัยหนุนเรื่อง ดีล M&A, การขยายธุรกิจสู่ Tesco Lotus และโอกาสทางธุรกิจใหม่ เครื่องดื่มกันชง

 

 

Event: Analysts meeting


ตั้งเป้ารายได้โต 15-20% YoY เรามีมุมมองเป็นบวกจากการประชุมนักวิเคราะห์ มีประเด็นสำคัญ ดังนี้
1) บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2021E โต 15-20% YoY (เราคาด +16% YoY) โดยการเติบโตหลักๆ มาจาก
1.1) รายได้จากส่วน All-cafe จากการรับรู้รายได้ upsize แก้ว 22 oz. ทั่วประเทศเต็มปี
1.2) คาดรายได้ character business โต 60-70% YoY จากการเพิ่มขึ้นของละครขึ้นอีก 2 ตัว ใน ปี 2021E ส่งผลให้บริษัทมีตัวการ์ตูนทั้งหมด 5 ตัว
2) บริษัทสนใจกลุ่มสินค้าที่มีส่วนผสมสารสกัด CBD โดยเราประเมินว่า TACC มีความได้เปรียบและมีความพร้อมสำหรับธุรกิจกัญชง หาก อ.ย. อนุมัติให้สามารถจำหน่ายได้เชิงพาณิชย์ จากการที่บริษัทได้เข้าร่วมลงทุน 30% ในบริษัท TCI ซึ่งเป็นกลุ่มนักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญด้านกัญชา-กัญชง มากกว่า 10 ปี และจากการ TCI เซ็น MOA กับ ม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ทำให้ทางบริษัท TCI มีใบอนุญาตในการปลูกและสกัดสาร CBD
3) ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างทดลองตลาดนำสินค้า (โถกดน้ำ) ไปจำหน่ายในศูนย์อาหารของ Tesco Lotus และอยู่ระหว่างพูดคุยในการกระจายเข้าไปใน lotus express (1,600 สาขาทั่วประเทศ)

 

 


คงกำไรสุทธิปี 2021E โต 25% YoY เราคงกำไรสุทธิปี 2021E ที่ 236 ล้านบาท (+25% YoY) โดยเรายังคงสมมติฐานดังนี้ 1) คาดการขยายสาขา 7-11 ในประเทศที่ 700 สาขา/ปี, 2) คาด gross profit margin ที่ระดับ 35% และ 3) คาดการขยายสาขา 7-11 ไปยังประเทศกัมพูชาและลาว มีรายได้จากทั้ง 2 ประเทศประมาณ 12 ล้านบาท ขณะที่ประมาณการกำไรปี 2021E มี upside จาก Lotus และเครื่องดื่มกัญชง

 

 


ประเมินราคาเป้าหมาย TACC ที่ราคา 11.60 บาท อิง 2021E PER ที่ 30x (เทียบเท่า 5-yr average PER) ขณะที่ความเสี่ยงคือ รายได้หลักยังคงพึ่งพิงรายได้จาก 7-11 มากถึง 95% และการขยายสาขาของ 7-11 น้อยกว่าที่คาด

 

 

 

 

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย)

 

จากประชุมนักวิเคราะห์ ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในปี 2564 จากการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศทั้งการเลิก Work from home และการเปิดเทอม ทำให้รายได้ใน 7-Eleven กลับมาคึกคักและมีเครื่องดื่มตามฤดูกาล Cherry blossom ที่ขายดีมากช่วยหนุนรายได้ให้ทรงตัว YoY ได้แม้มีผลกระทบจาก COVID-19 ในเดือน ม.ค. - ก.พ. และจะมีรส Melon เป็นสินค้าใหม่ใน All cafe จำหน่ายวันที่ 25 มี.ค. นี้ อีกทั้งเริ่มมีรายได้จาก Lotuss เข้ามาแล้วตั้งแต่ 1Q64 แต่จะทยอยปูพรมเพิ่มจำนวนสาขามากขึ้นตามลำดับจากทั้งหด 1,600 สาขาของ Hyper market

 

 

 

โดยจะเริ่มที่การจำหน่ายเครื่องดื่มในตู้กดทั้งหมดใน Food court ของ Lotuss นอกจากนี้ CPALL จะนำร้าน Cafe ARABITIA ไปเปิดในสาขา Hyper market ของ Lotuss ซึ่ง TACC จะเป็น Supplier เมนูที่ไม่ใช่กาแฟเจ้าหลักเหมือนที่ทำกับ All cafe ส่วนสาขาของ Lotuss express อยู่ระหว่างการเจรจาในการนำเครื่องดื่มในตู้กดไปจำหน่ายเพิ่มเติม ซึ่งจะทยอยมีรายได้ที่มีนัยสำคัญขึ้นรายไตรมาส รายได้จาก Lotuss ทั้งหมดยังไม่อยู่ในประมาณการ ส่วนการขยายสาขาของ 7-Eleven ในกัมพูชา และลาว TACC จะมีส่วนในการนำสินค้าไปจำหน่ายในทุกสาขาเช่นกัน แต่สินค้าจะมีความแตกต่างที่ไทย คาดมีความชัดเจนในช่วง 2H64 และยังไม่รวมในประมาณการ

 

 


TACC ลงทุนในบริษัท TCI ในสัดส่วน 30% ซึ่ง TCI มี MOA กับ มทร. พระนครเหนือในการทำกัญชาทางการแพทย์และกัญชงทั้งต้นน้ำถึงปลายน้ำ ปัจจุบัน TCI เริ่มมีการเพาะปลูกแล้วแต่ยังไม่เปิดเผยขนาดและระยะเวลาที่จะเริ่มมีผลผลิตออก ซึ่ง TACC จะได้ส่วนแบ่งกำไรจาก TCI ในการจำหน่ายกิ่ง ก้าน ราก และใบ ที่ไม่ติดกับช่อดอก รวมถึงการ R&D เพื่อทำผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ทั้ง THC และ CBD ขณะที่ในเชิงพาณิชย์หาก อย. ปลดล็อค และมีกฎหมายชัดเจนคาดว่าจะเป็นบวกต่อ TACC ในด้านความมั่นคงของแหล่งวัตถุดิบทั้งกัญชง และกัญชา ในการนำมาผลิตสินค้าของตนเองในรูปของสารสกัด CBD ที่จำหน่ายเป็นวัตถุดิบให้ผู้ต้องการไปใช้ต่อ หรือนำมาเป็นส่วนผสมในสินค้าเครื่องดื่มของตัวเอง โดยบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการจำหน่ายเชิงพาณิชย์ทั้งในประเทศ และการส่งออก เป็น Upside ที่มีนัยสำคัญและเรายังไม่รวมในประมาณการ เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนเรื่องของสินค้า และช่วงเวลาที่จะเริ่มจัดจำหน่ายได้ แต่เราคาดว่าอย่างเร็วคือช่วงปลาย 3Q64

 

 

คงประมาณการ คงคำแนะนำ ซือ หากไม่รวมช่องทางใหม่ทั้งจาก Lotuss และธุรกิจกัญชา กัญชง บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ที่ 15 - 20% ในปี 2564 (เราคาด +24.2% YoY) จากธุรกิจคาแร็คเตอร์การ์ตูนที่คาดกลับมาเติบโตเท่าตัว หรือกลับไปเท่ากับปี 2562 ส่วนรายได้จาก All cafe และ 7-Eleven ฟื้นตัวจากการ Lockdown และการเพิ่มขนาดแก้วเป็น 22oz. ส่งผลเต็มปี ประกอบกับการบริโภคกลับมาปกติ ทำให้มีโอกาสที่รายได้อาจโตสูงกว่าเป้าหมายของบริษัทได้ เราจึงยังคงประมาณการกำไรปี 2564 ไว้ที่ 232 ลบ. (+23.4% YoY) คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 9.50 บาท มีโอกาสปรับขึ้นจากธุรกิจใน Lotuss และสาขาใหม่ของ 7-Eleven ในต่างประเทศ รวมถึงการ M&A เพิ่มเติมซึ่งยังมีการเจรจาอยู่และคาดได้ข้อสรุปในปีนี้

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

วันเขียว By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม นั่งในดงกล้วย วันนี้ วันเขียวของตลาดหุ้นไทย นั่งฝันอยู่เดียว เล่นตัวเขียว ตัวไหนแดง ....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้