Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : NER รับอานิสงส์รัฐบาลจีน ออกแคมเปญรถเก่าแลกรถใหม่

3,459

HotNews : NER รับอานิสงส์รัฐบาลจีน ออกแคมเปญรถเก่าแลกรถใหม่

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (9 กุมภาพันธ์ 2564) NER ตีปีก รับรัฐบาลจีน ออกแคมเปญรถเก่าแลกรถใหม่ คาดรับอานิสงส์หลายด้าน ทั้งกำลังการผลิตที่บริษัทตั้งเป้าการผลิตปี 64 ที่ 4.1 แสนตัน/ปี -ราคาซื้อขายที่ดีขึ้น ตามดีมานด์พุ่ง ด้านกูรูเคทีบีเอสที แนะนำซื้อ NER อัพเป้าเป็น 5.70 บาท/หุ้น

 

 

นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริษัท บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ และกลุ่มผู้ค้าคนกลาง ทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลจีนออกแคมเปญรถเก่าแลกรถใหม่นั้น ส่งผลให้บริษัทได้รับโอกาสดีในหลายด้าน ทั้งเรื่องกำลังการผลิตที่บริษัทตั้งเป้าการผลิตปี 64 ที่ 4.1 แสนตัน/ปี จากกำลังการผลิตทั้งหมดที่ 4.6 แสนตัน/ปี และการกำหนดราคาซื้อขายที่ดีขึ้นเนื่องจากมีความต้องการการใช้ยางพาราที่มากขึ้น

 

 

โดยเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์จีนได้ประกาศมาตรการเกี่ยวกับการส่งเสริมศักยภาพการบริโภคในชนบท มีการดำเนินงานที่สำคัญ 5 ด้าน ซึ่ง 1 ในนั้นคือ การรักษาเสถียรภาพและการส่งเสริม การขยายตัวของการบริโภครถยนต์ โดยให้เงินอุดหนุนสูงสุด 1.3 หมื่นถึง 1 แสนบาทต่อคัน

 

 

สำหรับสัดส่วนรายได้ปี 2564 ทางบริษัทยังวางนโยบายการจำหน่ายสินค้าในประเทศและต่างประเทศเป็น 60 : 40 ซึ่งในสัดส่วนลูกค้าต่างประเทศแบ่งเป็น จีน 70% , ญี่ปุ่น 10% และอื่นๆอีก 10% เช่นสิงคโปร์ อินเดีย บังคลาเทศ เป็นต้น มองว่าเป็นอัตราส่วนที่เหมาะสมของลูกค้าในประเทศที่มีการเพิ่มกำลังการผลิตจากการย้ายฐานการผลิตจากประเทศจีนย้ายมาตั้งโรงงานอยู่ที่ประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น และลูกค้าต่างประเทศที่มีความต้องการใช้ยางธรรมชาติอยู่ แต่ปริมาณของผู้ส่งออกยางธรรมชาติในประเทศไทยมีปริมาณลดลง

 

 


กูรูเคทีบีเอสที แนะนำซื้อ NER เคาะเป้า 5.70 บาท/หุ้น

 

 

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) คงคำแนะนำ ซื้อ บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER แต่ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 5.70 บาท อิง 2021E PER ที่ 8.0x (+0.7SD above 3-yr average PER ) (จากเดิมที่ 5.00 บาท อิง 2021E PER ที่ 8.0x) เราประเมินกำไรสุทธิ 4Q20E ที่จะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 386 ล้านบาท (+211% YoY, +153% QoQ) และกำไรปกติที่ 336 ล้านบาท (+228% YoY, +106% QoQ) จาก 1) ราคาขายยางแท่ง (STR) เฉลี่ยช่วง 4Q20 อยู่ที่ 154 เซนต์/กิโลกรัม (+13% YoY, +21% QoQ), 2) ปริมาณขายเพิ่มขึ้นมาที่ 125,000 ตัน (เพิ่มขึ้น +54% YoY, +18% QoQ) และ 3) คาด Gross Profit Margin (GPM) ที่ 9.7% เพิ่มขึ้นจาก 4Q19 ที่ 7.7% และ 3Q20 ที่ 9.3%

 



ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2020E เพิ่มขึ้น +7% อยู่ที่ 822 ล้านบาท (+52% YoY) และปี 2021E เพิ่มขึ้น +11% อยู่ที่ 1,151 ล้านบาท (+40% YoY) จาก

 

1) ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นเป็น 410,000 ตัน (+14% YoY) จากกำลังการผลิตที่ขยายตัวเป็น 460,000 ตัน/ปี ใน 3Q20,

 

2) ราคาขายยางแท่ง (STR) ที่ยังมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูง จากการฟื้นตัวของยอดขายรถยนต์ และความต้องการถุงมือยางยังคงอยู่ในระดับสูง

 

 

ราคาหุ้น underperform SET -29% ใน 3 เดือน จากกำไร 3Q20 ที่ออกมาต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ตามราคาหุ้นเริ่มที่จะกลับมาและ outperform SET +8% ใน 1 เดือน โดยเรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ระยะสั้นราคาหุ้นคาดว่าจะ outperform SET ต่อจากกำไร 4Q20E ที่จะทำสถิติสูงสุดใหม่และราคายางที่จะทรงตัวระดับสูง ทำให้กำไรสุทธิปี 2020E/21E จะเติบโตดีที่ +52%/+40% YoY และ valuation ที่ต่ำ เทียบเท่า PER เพียง 6.7x ของปี 2021E

 

 

Expecting another record high 4Q20E earnings. เราประเมินกำไรสุทธิ 4Q20E ที่ 386 ล้านบาท (+211% YoY, +153% QoQ) และกำไรปกติอยู่ที่ 336 ล้านบาท (+229% YoY, +106% QoQ) สาเหตุหลักมาจาก 1) ราคาขายยางแท่ง (STR) เฉลี่ยช่วง 4Q20 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 154 เซนต์/กิโลกรัม (+13% YoY, +21% QoQ) 2) ปริมาณการขายเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 125,000 ตัน เพิ่มขึ้น +54% YoY จาก 4Q19 ที่ 80,884 ตัน และ +18% QoQ จาก 3Q20 ที่ 106,292 ตัน จากการขยายกำลังการผลิตอีก 170,000 ตัน/ปี ในช่วง 3Q20 และ 3) เราประมาณการ Gross Profit Margin (GPM) ที่ 9.7% เพิ่มขึ้นจาก 4Q19 ที่ 7.7% และ 3Q20 ที่ 9.3%

 

 

ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2020E/21E เพิ่มขึ้น +7%/+11% เราประมาณการกำไรสุทธิปี 2020 อยู่ที่ 822 ล้านบาท (+52% YoY) และกำไรสุทธิปี 2021E อยู่ที่ 1,151 ล้านบาท (+40% YoY) สาเหตุหลักมาจาก 1) ปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น โดยเราคาดว่าปริมาณการขายปี 2021E จะเพิ่มขึ้นเป็น 410,000 ตัน จากปี 2020E ที่ 358,615 ตัน สอดคล้องกำลังการผลิตที่ขยายตัวเป็น 460,000 ตัน/ปี (เพิ่มขึ้น 170,000 ตัน/ปี ในช่วง 3Q20), 2) ราคายางแท่ง (STR) ที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและทรงตัวในระดับสูงในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

 

 

จากการฟื้นตัวของยอดขายรถยนต์ โดยเฉพาะจากประเทศจีน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท (ประมาณ 40% ของรายได้รวม) และความต้องการถุงมือยางยังคงอยู่ในระดับสูงและยังมีโอกาสเติบโตได้ต่อเนื่องจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคที่หันมาให้ความสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพมากขึ้นหลังจากโรคระบาด Covid-19 และ 3) เราคาด GPM จะอยู่ที่ 10% ลดลงเล็กน้อยจาก 2020E ที่ 10.7% เนื่องจากฐาน GPM ที่สูงใน 1H20 เฉลี่ยที่ 13% ซึ่งเป็นช่วงที่ราคายางปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

 

ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 5.70 บาท อิง 2021E PER ที่ 8.0x (+0.7SD above 3-yr average PER ) จากเดิมที่ 5.00 บาท อิง 2021E PER ที่ 8.0x จากการปรับกำไรสุทธิปี 2021E ขึ้น +11% โดย key catalyst คือ กำไร 4Q20E ที่จะทำสถิติสูงสุดใหม่ ขณะที่ความเสี่ยงหลักของธุรกิจมาจากยอดขายรถยนต์ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

HotNews: IND เตรียมศึกษาธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานสะอาด

IND เตรียมศึกษาธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานสะอาด ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ไม่ต่ำกว่า 15%

สถานบันเทิงครบวงจร By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ยินดี สภาผู้แทนราษฎร ที่ได้ลงมติ รายงานผลการศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร...

มัลติมีเดีย

QTCG กระแสตอบรับดี/เปิดพื้นฐานก่อนเทรดวันที่ 4 เม.ย. - สายตรงอินไซด์ - 29 มี.ค.67

QTCG กระแสตอบรับดี/เปิดพื้นฐานก่อนเทรดวันที่ 4 เม.ย. - สายตรงอินไซด์ - 29 มี.ค.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้