Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : PTG รับอานิสงส์ราคาน้ำมันดิบร่วง แย้มปริมาณขาย 2 เดือนแรกโต 13-14%

5,341

HotNews : PTG รับอานิสงส์ราคาน้ำมันดิบร่วง แย้มปริมาณขาย 2 เดือนแรกโต 13-14%

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(12 มีนาคม 2563) PTG อวดปริมาณขาย 2 เดือนแรกโต 13-14% มั่นใจทั่งปีเข้าเป้าโต 15-20% ตามการขยายสาขา-SSSG ยังดี รับอานิสงส์ราคาน้ำมันดิบร่วง พร้อมจับตาสถานการณ์ COVID-19 ส่วนภัยแล้งคาดกระทบการใช้น้ำมันโดยรวม ด้านโบรกฯ ชี้ PTG หุ้นในกลุ่มค้าปลีกน้ำมันที่ได้รับประโยชน์จากการปรับตัวลงของราคาน้ำมัน

 

 

 

 

 

 

 

นางสาวสาวิตรี ตันตระอำไพ ผู้จัดการส่วนนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยกับสำนักข่าวหุ้นอินไซด์ว่า ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันช่วง2เดือนแรก (มกราคม-กุมภาพันธ์)ที่ผ่านมาของบริษัทฯมีการเติบโต 13-14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก ปริมาณการจำหน่ายจากสาขาเดิม(SSSG) ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเดือนมกราคมที่ผ่านมาบริษัทฯปริมาณมีการจำหน่ายเติบโตถึง 3.3% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2562 ซึ่งบริษัทฯยังคงมั่มใจว่าปีนี้ปริมาณจำหน่ายน้ำมันเติบโตไม่ต่ำกว่า 15-20%

 

 

อีกทั้ง บริษัทฯยังขยายสาขาจุดให้บริการด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯได้มีการขยายสาขาเพิ่มเป็น 2,044 สถานี จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 2,025-2,030 สถานี โดยบริษัทฯตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้จะมีสถานีให้บริการทั้งสิ้น 2,200 สถานี ซึ่งบริษัทฯวางงบลงทุนปี 2563 จำนวน 4,500-5,000 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับรองรับการขยายสถานีบริการน้ำมัน 3,000 ล้านบาท ขยายสาขาธุรกิจ Non-Oil 500 ล้านบาท และธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่อง 500 ล้านบาท

 

 

 

 


แผนการดำเนินงานในปี 2563 โดยเบื้องต้นบริษัทคาดว่า EBITDA จะเติบโต 15-20% จากปี 2562 ที่มี EBITDA อยู่ที่ 5,269 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณการขายที่เติบโต หลังจากมีการผลักดันธุรกิจ Non-Oil ที่มีกำไรขั้นต้นสูงเพิ่มขึ้น ประกอบกับโครงการ Palm Complex ที่จะสามารสร้างกำไรได้เต็มปี รวมทั้งบริษัทยังมีการขยายการให้บริการในธุรกิจแก๊ส LPG และการบริหารค่าใช้จ่ายให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม

 

 

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มองว่ากระทบต่อภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งกระทบต่อบริษัทฯเพียงทางอ้อมเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนสถานการณ์ภัยแล้งยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำมันโดยรวม ซึ่งทำให้เกษตรกรมีการใช้น้ำมันลดลง

 

 

"สำหรับการปรับเป้าหรือปรับแผนต่างๆเราต้องดูตามสถานการณ์ด้วย ต้องบอกว่าองค์กรของเราเป็นองค์กรที่ค่อนข้างยืดหยุ่น เราก็จะปรับตามสถานการณ์อย่างเช่นถ้าเกิดเราเริ่มเห็นยอดขายผิดปกติเราก็จะสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วเพราะสามารถบริหารจัดการได้ดี "นางสาวสาวิตรี กล่าว

 

 

 

 

 

ขณะที่สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง มองว่าเป็นผลบวกต่อบริษัทฯ ทำให้บริษัทฯไม่ต้องใช้กระแสเงินสดในการซื้อน้ำมันมาก และทำให้บริษัทฯไม่มีแรงกดดันทางค่ากาตลาดมากนัก อย่างไรด็ดีการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันพึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงไม่นานมากนัก บริษัทฯจึงยังประเมินตัวเลขค่าการตลาดยังไม่ได้

 

 


อนึ่ง PTG ผลการดำเนินงานในปี 2562 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,563 ล้านบาท เติบโต 150.60% จากปี 2561 ล้านบาท เนื่องจากมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อม (EBITDA) อยู่ที่ 5,269 ล้านบาท เติบโต 50.20% จากปี 2561 มี EBITDA อยู่ที่ 3,509 ล้านบาท โดยมีปัจจัยการเติบโตมาจากค่าการตลาดที่กลับมาสู่ภาวะปกติ หลังการขอความร่วมมือในการตรึงราคาน้ำมันดีเซลของภาครัฐในปี 2561 รวมทั้งธุรกิจ Non-oil ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

 

 

ทั้งนี้ในปี 2562 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 120,027 ล้านบาท เติบโต 11.30% จากปีก่อน รายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 107,829 ล้านบาท จากปริมาณการขายในธุรกิจน้ำมันอยู่ที่ 4,681 ล้านลิตร เติบโต 19.40% จากปีก่อน ที่มีปริมาณการขายในธุรกิจน้ำมันอยู่ที่ 3,921 ล้านลิตร เนื่องจากการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้น โดยในปัจจุบันบริษัทมีการขายน้ำมันผ่านสถานีบริการ คิดเป็นสัดส่วน 93.70% ของปริมาณการขายทั้งหมด โดยในปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดผ่านช่องทางสถานีบริการเป็นเบอร์ 2 ของประเทศ

 

 

 

 

 

ขณะเดียวกันในการประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่1/2563 เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา ได้มีมติจ่ายเงินปันผล 0.50 บาทต่อหุ้น โดยบริษัทยังได้กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) ในวันที่ 11 มีนาคม 2563 ซึ่งจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date)ในวันที่ 12 มีนาคม 2563 และบริษัทจะนำเสนอเรื่องดังกล่าวต่อการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 24 เมษายน 2563 ณ ห้องเพชรชมพู ชั้น 3 โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร เพื่อขอมติอนุมัติต่อไป และมีกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563

 

 

 

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ออกบทวิเคราะห์ หุ้นแนะนำ PTG (พื้นฐาน 19.00 บ.) เป็นหุ้นในกลุ่มค้าปลีกน้ำมันที่ได้รับประโยชน์จากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันซึ่งจะช่วยกระตุ้นความต้องการใช้นมันในประเทศ อีกทั้งการแพร่ระบาดของไวรัสกระตุ้นให้มีการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวมากขึ้น

 



ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า PTG สามารถไต่อันดับสร้างส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจค้าปลีกน้ำมันต่อเนื่องจากอันดับ 4 ในปี 2017 สู่อันดับ 2 ในปีที่ผ่านมา ด้วยปริมาณขายที่เติบโตเฉลี่ย 18% ต่อปีสูงกว่าอุตสาหกรรมที่ 5% เท่านั้น นอกจากนี้ ในสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่อยู่ในระดับต่ำ และค่าการตลาดในปัจจุบันที่ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ 1.8 บาทต่อลิตรเป็นผลดีต่อธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน รวมทั้ง ธุรกิจ Non-oil ที่เริ่มเก็บเกี่ยวจากการลงทุนที่ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปาล์มคอมเพล็กซ์จากความต้องการที่สอดคล้องกับปริมาณผลิตที่มากขึ้นจากการส่งเสริมของภาครัฐ ดังนั้น เรามองว่าจะเป็นอีกหนึ่งปีที่ดีสำหรับ PTG ดังนั้น เรายังคงแนะนำ "ซื้อ"

 



ปริมาณขายน้ำมันในเดือน ม.ค.-ก.พ. ที่ผ่านมายังคงเติบโต 13% YoY ตามกรอบเป้าหมายของบริษัทที่ตั้งเป้าหมายการเติบโต 10-15% อย่างไรก็ตาม เราปรับสมมติฐานปริมาณขายน้ำมันในปี 2020F โดยคาดเติบโต 9% YoY ลดลงจากเดิมที่คาด 13% YoY มาอยู่ที่ 5,083 ล้านลิตร เพื่อสะท้อน 1) การระบาดของไวรัส COVID-19 ซึ่งเราคาดจะมีผลกระทบต่อปริมาณการใช้น้ำมันจากการเดินทางที่ลดลงในพื้นที่ท่องเที่ยว เช่น ในภาคเหนือ และภาคใต้ ซึ่งมีช่องทางจำหน่ายคิดเป็นสัดส่วน 33% ของช่องทางจำหน่ายทั้งหมด และ 2) จากการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 เรามองว่าปริมาณขายน้ำมันของบริษัทยังมีความเสี่ยงจากสถานการณ์ภาวะภัยแล้งจากสถานีบริการน้ำมันกว่า 50% อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ง

 

 

 

 

 



จากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลงมาจากสงครามราคา เรามองว่ามีผลต่อราคาขายปลีกน้ำมันที่ล่าสุดปรับตัวลง 0.60 บาทต่อลิตร แต่ไม่ได้ส่งผลต่อค่าการตลาดน้ำมัน จากปัจจุบันค่าการตลาดยังคงอยู่ในระดับ 1.80 - 2.0 บาทต่อลิตร ต่อเนื่องจากเดือนม.ค. - ก.พ. รวมทั้งมาตรการจูงใจผู้ประกอบการของภาครัฐในการจำหน่ายน้ำมัน B10 ส่งผลให้ค่าการตลาดน้ำมัน B10 อยู่ในระดับสูงกว่า 2 บาทต่อลิตร ซึ่งเป็นผลดีต่อ PTG จากกว่า 70% ของน้ำมันที่จำหน่ายเป็นกลุ่มดีเซล และโดยในแง่กำไรของบริษัท ค่าการตลาดน้ำมันมีผลมากกว่าราคาขายน้ำมัน

 

 

ยังคงแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 18.40 บาท แต่ปรับประมาณการผลประกอบการของ PTG ลงเล็กน้อย สะท้อน 1) คาดปริมาณขายน้ำมันโต 9% YoY มาที่ 5,083 ล้านลิตร 2) คาดค่าการตลาดน้ำมัน 1.80 บาทต่อลิตร และ 3) สะท้อนการใช้มาตรฐานบัญชี TFRS16 ซึ่งประเมินผลกระทบต่อกำไร 156 ล้านบาท จากการปรับประมาณการผลประกอบการ ราคาเป้าหมายใหม่ของเราอยู่ที่ 18.40 บาท จากเดิม 20.30 บาท (PER 20 เท่าปี 2020F) โดยเรายังคงแนะนำ "ซื้อ" ปัจจัยเสี่ยงสำหรับ PTG ได้แก่ 1) ค่าการตลาดที่อ่อนตัวกว่าที่เราคาดไว้ 2) ปริมาณขายน้ำมันที่ต่ำกว่าคาด และความล่าช้าของธุรกิจ non-oil 3) ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานบัญชีที่สูงกว่าคาด

 

 

PTG

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

TMILL ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผู้ถือหุ้นโหวตรับปันผลอัตรา 0.07 บาทต่อหุ้น

TMILL ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผู้ถือหุ้นโหวตรับปันผลอัตรา 0.07 บาทต่อหุ้น

ไปไม่ไกล By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ วันนี้ ภาพรวมหุ้นไทย คงวิ่งไม่ไกล ไม่แรง ด้วยทั่วโลก จับตา ประธานเฟด แถลงผลประชุม 1พ.ค.67 ...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้