Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : SPA กัดฟันสู้ COVID-19 ด้านโบรกฯ หั่นกำไร - เป้าปี 63

2,738

HotNews : SPA กัดฟันสู้ COVID-19 ด้านโบรกฯ หั่นกำไร-เป้าปี 63

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (3 มีนาคม  2563 ) SPA ออกมาตรการสร้างความเชื่อมั่นกับกลุ่มลูกค้า หลัง COVID-19 ระบาด  มั่นใจหลังวิกฤต ธุรกิจท่องเที่ยวฯ กลับมาโต ด้านโบรกฯ หั่นกำไร-เป้าปี 63 นำโดย บล.เมย์แบงก์  คาด กำไรในปี 2563 ไม่สดใส  จึงปรับประมาณการ รายได้/ พนักงานนวดเฉลี่ยลง -13% ส่งผลให้กำไรสุทธิจะหดเหลือ  190 ลบ. -23% YoY ลดน้ำหนักเป็น "ถือ" ราคาเหมาะสมหลัง XD หุ้นปันผล 2 : 1 จะอยู่ที่ 7.80 บาท/ หุ้น   ส่วนทิสโก้อยู่ระหว่างปรับประมาณการ และมูลค่าเหมาะสม   ด้าน ดีบีเอสฯ -ธนชาต  เชียร์ซื้อ

 

 

นายวิบูลย์ อุตสาหจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA ผู้นำด้านธุรกิจสปาที่ครบวงจรที่สุดของไทย เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในงวดปี 2562 มีกำไรสุทธิจำนวน 245.47 ล้านบาท* คิดเป็นร้อยละ 17.17 ของรายได้จากการขายและบริการ กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 39.82 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19.39% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 1,449.64 ล้านบาท* เพิ่มขึ้น 297.15 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25.78 % เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการเติบโตของรายได้ทั้งสาขาเดิม (โต 16%) และสาขาที่เปิดใหม่ในปี 2562 (โต 7%) ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

 

 

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานประจำปี 2562 โดยจ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญของบริษัท จำนวน 285,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 71,250,000 บาท และจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท คิดเป็นเงินจำนวน 17,100,000 บาท โดยจะเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้น 30 เมษายนนี้ โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 13 พฤษภาคม 2563 และจ่ายปันผลในวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 โดยมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 142.5 ล้านบาทเป็น 213.75 ล้าน เพื่อรองรับการปันผลครั้งนี้

 

 

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 ส่งผลกระทบกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทฯ เดินทางเข้าประเทศไทยลดลงและส่งผลกระทบกับกำลังซื้อของลูกค้าชาวไทย ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้ารอง ทางบริษัทฯ ได้ออกมาตรการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับกลุ่มลูกค้า อาทิ คัดกรองลูกค้าและพนักงานด้วยการวัดอุณหภูมิลูกค้าก่อนเข้ารับบริการและพนักงานก่อนให้บริการ ป้องกันการแพร่กระจายโดยให้พนักงานใส่หน้ากากอนามัยระหว่างให้บริการ ทำความสะอาดจุดสัมผัสอย่างสม่ำเสมอ ออกประกาศพนักงานหลีกเลี่ยงเดินทางไปประเทศที่มีความเสี่ยงที่ได้รับการติดเชื้อ เป็นต้น ที่ผ่านมา บริษัทฯ เคยผ่านภัยโรคระบาด อาทิ SARS และ H1N1 มาก่อนหน้านี้ ทำให้บริษัทฯ ได้มีแผนเตรียมรับมือกับภัยโรคระบาดอย่างเป็นระบบและเชื่อมั่นว่าหลังจากวิกฤตครั้งนี้ ธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจะกลับมาเติบโตได้เหมือนเดิม

 

 

บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ "SPA" เป็นผู้นำด้านธุรกิจสปาครบวงจร ดำเนินธุรกิจนวดและสปาเพื่อสุขภาพ ทั้งหมด 63 สาขา แบ่งเป็น ระรินจินดา เวลเนส สปา สปาระดับ 5 ดาว จำนวน 3 สาขา Let's Relax สปาระดับ 4 ดาว จำนวน 45 สาขา (40 สาขาในประเทศและ 5 สาขาต่างประเทศ) Baan Suan Massage ร้านนวดระดับ 3 ดาว จำนวน 10 สาขา Stretch me by Let's Relax จำนวน 4 สาขา และFace Care by Let's Relax จำนวน 1 สาขา นอกจากนี้ยังดำเนินธุรกิจรีสอร์ตและร้านอาหารเพื่อสุขภาพที่ จ. เชียงใหม่ ผลิตภัณฑ์สปา LRL - Let's Relax Lifestyle นำเข้าผลิตภัณฑ์สปาและความงามและโรงเรียนสอนนวดแผนไทยและสปา

 


บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ออกบทวิเคราะห์ ปรับราคาเหมาะสม บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) SPA ลง -21% และลดคำแนะนำเป็น "ถือ" เนื่องจากแนวโน้ม COVID-19 รุนแรงกว่าที่เราคาดไว้ก่อนหน้าว่าจะคลี่คลายในไตรมาส 1/63 ทำให้การที่ SPA มีต้นทุนคงที่จำนวนมาก 50% อีกทั้งแบรนด์ Let's Relax ซึ่งเป็นตัวรับนั้กท่องเที่ยวจีนมีบทบาทสูงถึง 80% ของรายได้รวม เราคาดกำไรปีนี้จะหดตัว -23% YoY ราคาเหมาะสมใหม่จะเข้าใกล้ Worst case ก่อนหน้าที่ 11.70 บาท/ หุ้น (หลัง XD หุ้นปันผล 7.80 บาท)

 

 


SPA รายงานกำไรสุทธิ 69 ลบ. ตามคาด โดยในไตรมาสนี้ SPA ยังไม่ได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนแต่อย่างใด รายได้เติบโต +12% YoY หลักๆมาจากการเปิดสาขา 2 แห่งในไตรมาส 4/62 และเช้าสู่ช่วงฤดูท่องเที่ยว โดยในไตรมาสนี้ นักท่องเที่ยวจีนเข้าประเทศไทยถึง 2.4 ล้านคน +15% YoY ส่งผลให้การให้บริการยังคงหนาแน่น ดันให้อัตรากำไรขั้นต้นยืนได้ในระดับสูง 32.8% จาก 33.3% ในไตรมาส 3/62 และดีขึ้นจากปีก่อนที่ 30.8% ส่งผลให้ภาพปี 2562 กำไรสุทธิอยู่ที่ 245 ลบ. +19% YoY ต่ำคาดเล็กน้อย 6% สิ่งที่ทำได้ดีคือการพาอัตรากำไรขั้นต้นกลับมาระดับ 30% ใน 2H62 และการยกเลิกหน่วยธุรกิจที่ฉุดกำไรออกไป

 

 

 

จากภาวะการระบาดเริ่มยาวนานกว่าที่เราคาดไว้ก่อนหน้าว่าจะคลี่คลายใน 1Q63 จนทางการต้องประกาศเป็นโรคติดต่ออันตราย อีกทั้งยังเริ่มมีผู้เสียชีวิตในประเทศไทยแล้ว 1 ราย และมีความเสี่ยงต่อการเข้าสู่ระยะที่ 3 ของการระบาด ขณะที่ SPA มีต้นทุนคงที่สูง 50% (high operating leverage) อีกทั้ง Let's Relax ซึ่งเป็นแบรนด์รองรับนักท่องเที่ยวมีสัดส่วนรายได้ถึง 83% ของรายไดรวม ดังนั้นการลดลงของรายได้จะส่งผลต่อกำไรอย่างมีนัยสำคัญ และล่าสุดตัวเลขผู้โดยสารระหว่างประเทศเดือน ก.พ. โดย AOT หดตัวถึง -37% YoY ทำให้เราเชื่อว่าผลกำไรในปี 2563 จะไม่สดใส เราจึงปรับประมาณการ รายได้/ พนักงานนวดเฉลี่ยลง -13% ส่งผลให้กำไรสุทธิจะหดเหลือ 190 ลบ. -23% YoY อัตรากำไรขั้นต้นคาดจะถอยลงมาเป็น 26% จากต้นทุนคงที่ระดับสูง ราคาเหมาะสมใหม่จึงเดินเข้าใกล้กรณี worst case ก่อนหน้าที่ 11.70 บาท/ หุ้น อิง DCF (WACC 11.6%, g 5.0%) ลดน้ำหนักเป็น "ถือ" หมายเหตุ : ราคาเหมาะสมหลัง XD หุ้นปันผล 2 : 1 จะอยู่ที่ 7.80 บาท/ หุ้น

 

 


ความเสี่ยง : ปริมาณนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งมีบทบาทราว 55% ของผู้ใช้บริการรวม ขณะที่ผลกระทบจากเกณฑ์ทางบัญชี TFRS16 ต่อค่าเช่าอาคาร และ พื้นที่ จะเริ่มเห็นชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 1/63 เป็นต้นไป ประเด็น COVID-19 อาจคลี่คลายช้ากว่าคาด

 

 

 


บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า SPA กำไรหลัก 4Q62 แข็งแกร่งเป็น 244 ล้านบาท (+18.6% y-o-y) และถือว่าออกมาสอดคล้องกับที่คาดไว้นักท่องเที่ยวต่างประเทศมาไทยหดตัวลงมากในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ยังผลให้เรามีการปรับประมาณการลง เพื่อสะท้อนปัจจัยลบปีนี้และปี 64 ในอัตรา -5%/-9% ตามลำดับมีการประกาศปันผลเป็นหุ้นและเงินสด สำหรับหุ้นเป็น 2 หุ้นต่อ 1 หุ้นปันผล จะมี XD 12 พ.ค.63 คงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยการปรับราคาพื้นฐานใหม่ลดลงเป็น 16.00 บาท ด้วยวิธี DCF สะท้อนการปรับประมาณการลง แต่ราคาปิดยังมีส่วนเพิ่มที่น่าสนใจเทียบกับราคาพื้นฐาน เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวลงมากไปกว่าพื้นฐานที่ควรจะเป็น สืบเนื่องจากความตื่นตระหนกผลกระทบโควิด-19

 

 

 สำนักวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า SPA รายงานผลประกอบการ 69 ล้านบาท ต่ำกว่าคาดราว 4% จากที่คาด 72 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ที่ต่ำกว่าคาด แต่อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นจากการลดค่าใช้จ่ายเป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการ SPA ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.03 บาท และหุ้นปันผลในอัตราส่วน 2 : 1 ขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 12 พ.ค.

 


ผลประกอบการ 69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% YoY แต่ลดลง 2% QoQ
รายได้ที่ 338 ล้านบาท อ่อนแอกว่าคาดเพิ่มขึ้น 12% YoY จากการขยายสาขาเพิ่มเป็น 64 สาขา จากเดิม 55 สาขา และมาตรการชิม ช้อป ใช้ แต่ลดลง 8% QoQ ตามฤดูกาล และการขาย CHABA ด้านอัตรากำไรเพิ่มขึ้นเป็น 32.9% จากเดิมที่ 30.8% ในช่วง 4Q18 หลังจากที่ Stretch Me ที่เริ่มมีผลกำไร แต่ลดลงจากเดิมที่ 33% จากต้นทุนคงที่ในการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้น ด้าน SG&A ลดลง 21 - 22% YoY และ QoQ จากการปรับมาตรฐานบัญชี และทำให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 20.4% สูงสุดในรอบ 2 ปี

 



คาดผลประกอบการ 1H20F อ่อนแอ
มองว่า SPA จะได้รับผลกระทบโดยตรงจาก COVID-19 จากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ลดลง ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนรายได้กว่า 55% รองลงมาเป็นประเทศอื่นๆ ในเอเซีย และจากการวิเคราะห์ของเราทุกเดือนที่ได้รับผลกระทบจะทำให้รายได้ลดลง 79 ล้านบาท อยู่ระหว่างการปรับประมาณการ และมูลค่าที่เหมาะสม

 

 

บริษัทหลักทรัพย์ธนชาต  ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า SPA รายงานผลกำไรจากการดำเนินงานออกมาที่ 68 ลบ. ใน 4Q19เพิ่มขึ้น 38% y-y แต่ทรงตัว q-q ใกล้เคียงกับประมาณการของเราโดยการเติบโตยอดขายที่ออกมาอ่อนแอกว่าคาดถูกชดเชยลงด้วยค่าใช้จ่ายที่ลดลงมากกว่าคาดเช่นกัน ทั้งนี้ผลกำไรที่ออกมามาสนี้ยังไม่ได้สะท้อนผลกระทบจากการระบาดของโรค COVID-19 รายได้ออกมาต่ำกว่าคาดเล็กน้อยที่ 338 ลบ.

 

ใน 4Q19 เพิ่มขึ้น 12% y-y แต่ลดลง 8% q-q โดยการเติบโต y-y นั้นสอดคล้องไปกับอัตราการขยายสาขา แต่อาจสื่อให้เห็นถึงการเติบโตของยอดขายต่อสาขาที่อ่อนตัวลงในไตรมาสนี้ส่วนการลดลง q-q เป็นผลจากฐานที่สูงในไตรมาสก่อน อัตรากำไรขั้นต้นปรับดีขึ้นมาเป็น 32.9% ใน 4Q19 (จาก 30.8% ใน3Q19)

 

 

เนื่องจากผลของการประหยัดต่อขนาดหลังยอดขายเติบโตดีและยอดการให้บริการต่อครั้งที่สูงขึ้นจากกลยุทธการให้บริการเป็นแพ็คเกจ ส่วนอัตรากำไรที่ลดลงจาก 33.3% ใน 3Q19 เป็นผลจากยอดขายที่ลดลงค่าใช้จ่ายการขายและบริหารรวม (SG&A) ลดลง 21% y-y และ22% q-q เป็นผลจากการยุติการดำเนินธุรกิจสปาเล็บ 'Chaba' และการกลับรายการการตั้งสำรองหนี้สูญ ทำให้สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายลงลงเหลือ 9.7% ใน 4Q19 จาก 11.5% ใน 3Q19 และ13.7% ใน 4Q18 SPA ประกาศจ่ายปันผลเป็นสด 0.03 บาทต่อหุ้น

 

 

และปันผลเป็นหุ้นในสัดส่วน 2 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 12 พฤษภาคม และจ่ายปันผลในวันที่ 25 พฤษภาคม 2020 นี้โดยการจ่ายปันผลนี้รวมเทียบเป็น 36% ของกำไรสุทธิปี 2019 SPA มีความเสี่ยงสูงต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการระบาดของโรค COVID-19 เนื่องจากกว่า 70% ของรายได้นั้นมาจากนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน แต่อย่างไรก็ตามเรามองว่าราคาหุ้นที่ปรับลงมารุนแรงนั้นได้สะท้อนผลกระทบเหล่านั้นไปมากแล้ว เราจึงยังคงแนะนำ "ซื้อ" แม้มองว่ามีความเสี่ยงทางลบต่อประมาณการกำไร

 

 

SPA

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

Microsoft ลงทุนไทย By: แม่มดน้อย

ภาพรวมหุ้นไทยในภาคเช้าที่ผ่านมา แกว่งตัวซิกแซกขึ้น สงสัยตอบรับข่าวดี Microsoft ลงทุนไทย....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้