HotNews : ฝ่าวิกฤตตลาดหุ้นปีหนู กับ "เสี่ยป๋อง" 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (3 มกราคม 2563 ) ปี 2562 ที่ผ่านมา ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยไม่ได้หมูสมชื่อ เพราะเผชิญทั้งสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่ยืดเยื้อมานานตลอดทั้งปี ส่วนปัจจัยภายในประเทศสถานการณ์การเมืองที่ยังไม่นิ่งก็ยังกดดันบรรยากาศการลงทุนอยู่เนืองๆ ทำเอานักลงทุนหลายท่านต้องเจ็บเนื้อเจ็บตัวไปตามๆ กัน ล่วงมาถึงปี 2563 สถานการณ์ดังกล่าวก็ยังไม่ถือว่าคลี่คลายจนทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง โล่งใจได้ขนาดนั้น ยิ่งได้เห็นค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าจนตอนนี้หลุด 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ส่งออกติบลบ ส่วนการจับจ่ายใช้สอย การลงทุนของภาคเอกชนชะลอตัว........ยิ่งเป็นอะไรที่เหล่านักลงทุนต้องระมัดระวังตัว และติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพื่อเอาตัวรอดให้ได้ในการลงทุนปีนี้

 

แต่สำหรับนักลงทุนรายใหญ่อย่าง "วัชระ แก้วสว่าง" หรือในแวดวงตลาดหุ้นรู้จักในนาม "เสี่ยป๋อง" ที่ขึ้นชื่อลือชาการใช้เทคนิคอลนำทางในการลงทุน จะมีวิธีรับมือ และใช้กลยุทธ์อย่างไรในการลงทุนปี2563 วันนี้ทีมข่าวหุ้นอินไซด์ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ "เสี่ยป๋อง" อย่างเจาะลึก
จะเป็นอย่างไรไปติดตามพร้อมๆ กันเลยค่ะ.............

 

หุ้นอินไซด์ : พอร์ตการลงทุนในปี2562 เป็นอย่างไรบ้างสำหรับเสี่ยป๋อง?
เสี่ยป๋อง : ผมก็ติดลบประมาณ 2% ครับ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรมันเล่นยากขึ้น วิธีเดิมที่เคยใช้มาก็ไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ อาจจะต้องปรับตัวใหม่ ตอนนี้พยายามปรับตัวอยู่

 

หุ้นอินไซด์: แสดงว่าเราไม่สามารถสู้ ระบบเทรดแบบโรบอท และ AI ได้ใช้ไหมครับ ผลตอบแทนเราถึงติดลบถึง 2% ?
เสี่ยป๋อง : ผมมองว่ามันมีปัจจัยหลายอย่างครับ อย่างผมเองอาจจะอายุมากขึ้นเราก็ระมัดระวัง เพราะอย่างที่ผมขาดทุนก็ไม่ได้เยอะนะ แต่เวลาเราขยับพอร์ตทีโดยเฉพาะพอร์ตที่มีขนาดใหญ่เล่นทีกว่าจะเข้ากว่าจะออกมันก็มีผล และช่วงที่เราขาดความเชื่อมั่นเราก็จะทำอะไรผิดๆถูกๆ อย่างนี้ล่ะครับจังหวะชีวิตจังหวะการเล่นหุ้นมันก็จะมีอย่างนี้ตลอด ส่วนเรื่องที่ว่าผมจะปรับตัวสู้ยังไงคิดว่าคงต้องเล่นยาวขึ้น และพยายามเทรดตัวที่โอเคหน่อย ที่ผ่านมาในปี2562 ยอมรับเลยว่าเป็นปีที่ดูยากจริงๆ เพราะผมก็คุยกับรายใหญ่หลายคนก็เบามือกันหมด ระวังตัวกัน เพราะยิ่งเล่นก็ยิ่งหมด ใครที่อยู่เฉยๆได้ก็อยู่รอดปลอดภัย

 

หุ้นอินไซด์ : แล้วปี 2563 เสี่ยป๋องมองทิศทางตลาดหุ้นไทยอย่างไร?
เสี่ยป๋อง : ผมต้องยอมรับว่ายังประเมินด้วยตัวเลข ณ วันนี้ ไม่มีอะไรเด่นเลย GDP คาดการณ์ก็ไม่ค่อยดี มีดีอย่างเดียวคือปี2562ฐานต่ำมาก ด้วยฐานที่ต่ำมันจะทำให้ง่ายขึ้นที่จะโต แต่อย่างไรก็ตามก็มีการคาดการณ์ว่า GDP จะโตไม่ถึง3% อยู่ดี หรือหากถึง 3% ก็แค่สามต้นๆมันดูไม่มีเสน่ห์ ที่จะดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามา ซึ่งจริงๆแล้วช่วงนี้มันวิเคราะห์ยากครับ ถ้าใครดูกราฟค่าเงินก็จะเห็นว่าเงินบาทนั้นแข็งมาก เงินไหลเข้า แต่เงินที่เข้ามาเค้าไม่ได้ซื้อหุ้น นับว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลก เราก็คิดว่าเค้าคงจะไปซื้อพวกตราสารหนี้มากกว่า แต่เงินแข็งมากๆก็ไม่ดีนะเพราะว่าคนไทยส่งออกเยอะ ซึ่งทำให้GDPเราไม่โต ถ้าเราไปดูใส้ในบริษัทส่งออกบอกเลยว่าเหนื่อยหมดครับ รวมถึงสังเกตดูความเชื่อมั่นของนักลงทุนก็กลัวธุรกิจกลุ่มเดิมๆ เขาก็พร้อมที่จะซื้อธุรกิจใหม่ที่เป็นอนาคต อย่างเช่นธุรกิจโรงไฟฟ้า เป็นต้น

 

บอกเลยทุกวันนี้ทุกธุรกิจต้องปรับตัวให้ทันโลก ต้อง Transformation เพราะปิโตรเคมีตอนนี้ก็กระทบไปหมดแหละครับ และล่าสุดพึ่งประกาศให้งดใช้ถุงพลาสติกแล้วโรงงานผลิตถุงพลาสติกเค้าจะไปอยู่ไหนล่ะ บทบอกจะเลิกก็เลิกเลย บอกเลยปีนี้เป็นปีที่พูดคำว่าdisrupt กับ Transformation บ่อยมาก ใครเปลี่ยนตัวเองไม่ทันก็เหนื่อย อย่างธุรกิจธนาคารคนก็มองว่าเป็น disrupt จากพวกแอพพลิเคชั่นใหม่ๆที่จะเข้ามา เพราะฉะนั้นถ้าเราจะเล่นหุ้นเดย์เทรดเหมือนแต่ก่อนไม่ได้แล้ว ตอนนี้เราก็ต้องเลือกตัวที่ได้รับความสนใจลงทุนยาว เพราะตอนนี้เราก็ไม่ทันพวกโรบอท , AI แล้ว ขนาดผมคีย์เองยังไม่ทันเลยครับ ถึงจะเก่งแค่ไหนมันก็มีวันพลาดอยู่นะ เราจึงหันมาเล่นแบบระยาวขึ้นแล้วครับ

ขณะที่ รัฐบาลก็ออกมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเยอะไม่ว่าจะชิม ช็อป ใช้ หรือจะเป็นโครงการEEC ที่ผุดออกมามากมายแต่เราก็แปลกใจว่าทำไมหุ้นกลุ่มนิคมฯยังไม่ขยับไปไหนแถมยังลงไปเยอะอีกด้วย ผมก็งงไปหมด และช่วงหลังนักวิเคราะห์ก็เริ่มปรับ Earning ตลาดกันแล้ว ไม่รู้ว่าจะมีอะไรใหม่ๆมากระตุ้นหรือเปล่า

 

หุ้นอินไซด์ : เห็นข่าวล่าสุดเรื่องการลงนามข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนเฟสแรกวันที่ 15 ม.ค.63 โดยจะลงนามที่ธรรมเนียมขาว เสี่ยป๋องมองปฏิกิริยาตลาดหุ้นอย่างไรบ้าง
เสี่ยป๋อง : ผมว่าทุกอย่างรับข่าวไปแล้วนะครับ ทุกคนรู้เท่าทันแล้ว หุ้นรายตัวมันก็ขึ้นนิวไฮ ตลาดอเมริกา ตลาดฮ่องกงก็รับข่าวไปหมดแล้ว เพราะว่าฮ่องกงถึงแม้จะอยู่ท่ามกลางการประท้วงแต่หุ้นเค้าก็ไม่ลงนะ เหมือนเค้ารับข่าวเลวร้ายไปเยอะแล้ว

 

หุ้นอินไซด์ : อย่างนี้จะเกิดการ sale on fact ไหมครับ?
เสี่ยป๋อง : ผมว่าไม่มีหรอครับ แต่จริงๆแล้วผมก็กังวลนะเพราะตลาดอเมริกาเค้า side way up มาตั้งแต่กลางปี2562แล้ว และก็สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง ซึ่งบ่งบอกว่าเค้าน่าจะมองในแบบ positive view ทำให้คนเข้ามาซื้อหุ้น ก็ถือว่าเป็นการบอกมาแล้วว่าสัญญานการเจรจาการค้าจะจบลงด้วยดี

 

หุ้นอินไซด์: แต่บ้านเราดูไม่ค่อยตอบสนองเชิงบวกกับการลงนามในครั้งนี้เท่าไหร่นะครับ?
เสี่ยป๋อง : จากที่ผมฟังหลายๆคนเค้าก็มองว่า positive มาก เพราะคาดว่าการเจรจารสหรัฐกับจีนจะเป็นไปได้ด้วยดี และโบรกฯหลายเจ้าก็ออกบทวิเคราะห์ไปทาง positive ว่าเหตุการณ์โลกจะดีขึ้น แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นจริง ยกเว้นไทยหุ้นไม่ค่อยขึ้นผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน หรืออาจจะเป็นเพราะคนกังวลที่เค้าจะมีวิ่งกันไม่รู้ว่าจะมีคนเยอะไหม ผมว่าเราต้องพยายามหาวิธีใหม่ๆ อย่างผมเล่นหุ้นผมก็ดูปัจจัยหลายอย่างประกอบการลงทุน เช่น กราฟ ปัจจัยพื้นฐาน และดูข่าวที่จะเกิดขึ้นว่าจะมีอะไรมากระทบหรือไม่เราก็ต้องคอยติดตาม

 

หุ้นอินไซด์ : ส่วนตัวแล้วเสี่ยป๋องเชื่อในเรื่องของเศรษฐกิจย้อนหลังที่เขามองว่าที่ผ่านมาแปดปีเก้าปีผลตอบแทนในเดือนมกราคมย้อนหลังมันเป็นเชิงบวก ปีนี้จะเป็นบวกอีกไหม?
เสี่ยป๋อง : มันก็เป็นไปได้ทั้งนั้นแหละครับ ผมก็อยากให้มันบวกนะ หุ้นขึ้นมันก็เล่นง่ายกว่าตอนลง เพราะผมก็เป็นพวกประเภทเล่นช็อตไม่เป็นเลย ก็อยากให้ขึ้นตลอด

 

หุ้นอินไซด์ : แล้วธีมในการเล่นปีนี้ มองกลุ่มไหนเป็นพิเศษ?
เสี่ยป๋อง : ถ้าส่วนตัวแล้วผมคงเล่น Big cap SET50 ของผมนั้นแหละครับ และจับจังหวะด้วยการหาดูกราฟและคงจะต้องเล่นยาวขึ้น บอกก่อนเลยว่าเหล่าโบรกเกอร์ทั้งหลายก็ต้องเข้าใจผมด้วยครับว่าตอนนี้เทรดไม่ได้แล้ว ตอนนี้โลกมันเปลี่ยนไปแล้วเราก็ต้องรัดกุม และตั้งหลักให้มากขึ้น ไม่แปลกใจที่หลายๆคนปรับพอร์ตลงเพราะอัพไซต์ตอนนี้มันก็น้อย เราก็ต้องจับตาดูว่ารัฐจะกระตุ้นอะไร กระแสโลกจะเป็นยังไง เพราะเราก็ต้องเล่นตามกระแสโลกแหละ

 

หุ้นอินไซด์ : จากที่ดูฟันด์โฟลว์ของเมืองนอกปี61 ฝรั่งขายไป 280,000 กว่าล้านบาท พอมาปี62 ขายต่อเนื่อง45,000 ล้านบาท มองว่าปีนี้จะกลับมาซื้อไหม?
เสี่ยป๋อง : ผมไม่รู้จริงๆ ที่จริงเราคาดการณ์ว่าจะซื้อมาตั้งแต่ปี2562 แล้วเนาะ และเงินบาทก็แข็ง ผมถึงบอกว่าทุกอย่างมันเปลี่ยนไปทฤษฎีที่เคยใช้ก็ใช้ไม่ได้แล้วตอนนี้

 

หุ้นอินไซด์: สำหรับเงินบาที่แข็งค่า เสี่ยป๋องมองว่ามีโอกาสที่จะกลับไปอยู่ที่ 27-28 บาท/ดอลลาร์ไหม ในปีนี้?
เสี่ยป๋อง : ถ้าในเชิงเทคนิคมันเป็นไปได้หมดเลยครับ ตอนนี้ก็นิวโลว์แล้ว แต่มีข้อดีอย่างนึงครับตอนนี้ เครื่องชี้วัดมันส่งสัญญาณทำBullish divergence เพราะฉะนั้นก็มีโอกาสมาอ่อนได้ตลอดเวลา ก็เห็นใจส่งออกมากครับผมและสินค้าไทยส่วนใหญ่ส่งออกด้วย โดยเฉพาะสินค้าเกษตรนี่แย่ใหญ่เลย เพราะรายได้หลักของไทยก็มาจากเกษตรกรรม

 

หุ้นอินไซด์: จะหันมาใช้โรบอทในการเทรดเหมือนคนอื่นบ้างไหม?
เสี่ยป๋อง : ผมก็เห็นคนเค้าพูดกัน แต่ผมเองก็ไม่มีให้ใช้เลย แต่ผมเข้าใจว่ามันมีต้นทุนนะครับ จากที่ฟังมาและโรบอทมันต้องมีทีมงาน ต่อให้ผมซื้อโปรแกรมแล้วมาจ้างคนเค้าก็เปลี่ยนสูตรตลอดมันจะคุ้มผมหรือเปล่าต้องชั่งน้ำหนักจุดนี้ดูด้วย แต่ผมก็ยังไม่เคยเห็นของจริงเลยนะว่ามันมีอันไหนที่เอามาใช้ได้ เคยเห็นที่เค้าเอามาใช้เล่นฟอเร็กซ์

 

หุ้นอินไซด์ : เห็นคนส่วนมากไปลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ เราสนใจบ้างไหมครับ?
เสี่ยป๋อง : ก็มีเล่นบ้างครับประมาณ 10% เพราะเดี่ยวนี้หากคุณอยากซื้อหุ้นเมืองนอกแค่ติดต่อโบรกเกอร์ไทยเค้าก็จัดการให้แล้ว ก็อาจจะมีเพิ่มน้ำหนักบ้างแต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะซื้ออะไร ก็ต้องขอโทษทุกคนด้วยเพราะช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ

 

หุ้นอินไซด์ : ไอพีโอปี 2562 เป็นอย่างไรบ้าง?
เสี่ยป๋อง : ยิ่งหนักเลยครับ ซึ่งสะท้อนตลาดบ้านเราได้เป็นอย่างดีว่ามันไม่แข็งแกร่งพอ ปีที่ผ่านๆมาหุ้นไอพีโอกำไรทีละ30-40% แต่พอมาวันนี้โดยเฉพาะไตรมาสสุดท้ายแทบจะเกี่ยงกันเลยก็ว่าได้ ผมก็พยายามจำแนกออกมาด้วยหลายเหตุผลว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ทำให้หุ้นไอพีโอช่วงนี้ดูไม่มีเสน่ห์เลย แต่อาจเป็นด้วยเหตุผลที่ว่ามีการตั้งราคาที่แพงเกินไป และอาจจะเข้าช่วงเวลาที่ผิดจังหวะตอนที่ Sentiment ตลาดช่วงนี้ไม่ค่อยดีนักลงทุนก็เลยกลัว และอีกอย่างจะมีหุ้นบางล็อตที่ไม่ติด Silent period ซึ่งจะเป็นหุ้นที่ได้จัดสรรก่อนหุ้นไอพีโอราคาอาจจะต่ำกว่า ดังนั้นพอเจอจังหวะสถานการณ์ผันผวนเค้าก็ขายเพื่อปกป้องตัวเอง

 

หุ้นอินไซด์: คิดว่าสถานการณ์ไอพีโอในปี 2563 จะเป็นอย่างไร ?
เสี่ยป๋อง : มันอยู่ที่สภาพตลาดในเวลานั้นด้วยแหละหากดีทุกคนก็โอเค เราก็ต้องมาลุ้นเป็นตัวๆไป รวมถึงมาดูที่ธุรกิจของแต่ละบริษัทด้วย

 

หุ้นอินไซด์: แล้วตลาดเอ็ม เอ ไอ หล่ะครับจะมีโอกาสกลับมาไหม หลังจากติดลบไปในปี62 ?
เสี่ยป๋อง : ผมก็มองว่ามีโอกาสฟื้นตัวนั้นแหละครับ แต่ต้องดูเป็นรายตัวไป ส่วนใหญ่ผมไม่ค่อยได้เล่นเอ็ม เอ ไอ มากเท่าไหร่ ไม่ต้องโทษใครครับมันอยู่ที่จังหวะและสถานการณ์นั้นแหละครับ

 

หุ้นอินไซด์ : ฝากทิ้งท้ายถึงนักลงทุน ?
เสี่ยป๋อง : ต้องบอกตรงๆว่าผมยังคาดการณ์ไม่ค่อยออก ผมว่าทุกคนต้องพยายามหาวิธีของตัวเองให้ได้ ผมก็ไม่รู้จะช่วยพี่น้องนักลงทุนยังไงผมยังประคองตัวเองอยู่เลย และทุกอย่างมันยากขึ้นเรื่อยๆเราก็ต้องคอยศึกษาหาความรู้ใหม่ๆมาประยุกต์ใช้ด้วย

 

By : ประทุมพร ม่วงเอก/สุกัญญา ศิริรวง