รายงานพิเศษ: "เสี่ยป๋อง" คำราม SET ปีหมูทอง ไม่ได้แย่

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ ( 6 กุมภาพันธ์ 2562)--------ทีมข่าวเฉพาะกิจหุ้นอินไซด์ วันนี้จะพาทุกท่าน ไปพบกับมุมมองการลงทุนในปีหมูทอง ของ"เสี่ยป๋อง-วัชระ แก้วสว่าง" นักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ไทย ที่เพียงแค่เอ่ยชื่อแล้วไม่มีใครที่ไม่รู้รู้จักเขาผู้นี้ เรียกได้ว่านักลงทุนรายใหญ่ผู้นี้ อยู่ในตลาดทุนมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี ดูแค่ง่ายๆ จากพอร์ตการลงทุนเริ่มต้น 500,000 บาท มาถึงปัจจุบันพอร์ตการลงทุนของเสี่ยป๋องแตะระดับหลักพันล้านบาท

เสี่ยป๋อง เล่าให้ทีมข่าวหุ้นอินไซด์ฟังในวันสบายๆ ภายในห้อง VIP 8 ชั้น 2 อาคารสาธรซิตี้ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส หรือ ASP ว่าการลงทุนในตลาดหุ้นในยุคไทยแลนด์ 4.0 เปลี่ยนไปจากอดีตเมื่อ 20 ปีก่อน ที่การเทรดหุ้นจะเป็นการเวียนกลุ่มเล่นซ้ำๆ เมื่อก่อนกลุ่มแบงก์- ไฟแนนซ์ - พร็อพเพอร์ตี้ส์ ถ้าขึ้นก็ขึ้นยกแผง หรือลงก็ลงยกแผง แต่เดี่ยวนี้สมัยนี้ มีเครื่องมือทางการเงินมากขึ้น และมีโปรดักส์ที่หลากหลายทั้ง TFEX, DW ,BLOCK TRADE จนถึง AI กลายเป็นคนเล่นหุ้นกับโปรแกรมเทรด ขณะที่ประสิทธิภาพในการทำออเดอร์รวดเร็ว ดังนั้นพูดได้เลยว่าใครจะเทรดไม่หมูแล้ว ชนะโปรแกรมยาก

สำหรับเสี่ยป๋อง จัดเป็นนักลงทุนสายเทคนิค สายกราฟ ด้วยจอเทรด 11 จอมอนิเตอร์ แบบใช้เทคนิคนำทางควบคู่กับการอ่านศึกษาฐานข้อมูลอย่างรอบด้าน เพื่อเอามาประกอบการตัดสินใจ ที่สำคัญการเลือกหุ้นต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริง พื้นฐานตัวเลขของจริง

"ผมก็เล่นสไตล์เดิมคือเล่นยาวหน่อย คือเข้าไปเทรดดิ้งมันอาจจะยากถ้าเราหวังเดย์เทรดแล้วชนะทุกวันก็คงจะเหนื่อยหน่อย แต่ถ้าหากเราเล่นในลักษณะยาวนิดหนึ่ง เลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐาน มีเปเปอร์ซัพพอร์ต เป็นบริษัทฯ ที่น่าเชื่อถือได้ ราคาไม่แพงจนเกินไป และกราฟสวย ก็สามารถเก็บได้ แต่อาจจะต้องเล่นในไทม์เฟรมที่ยาวขึ้นไม่ใช่เข้าไปเทรดวันต่อวันน่ะยาก" เสี่ยป๋อง กล่าว

ถามว่า ปีหมูทอง ยากหรือง่าย? เสี่ยป๋อง บอกตอนนี้ไม่ได้คาดหวังอะไรเยอะ แต่มองทั้งสองมุม เป็นทางสายกลางๆ ส่วนตัวมองว่าน่าจะดีกว่าปีที่แล้ว ถ้าลงก็ไม่น่าจะลงเท่ากับปีที่แล้วที่ตลาดลงกว่า 10% ด้วยพื้นฐานและปัจจัยแวดล้อมจึงมองว่าถ้าลงก็ไม่น่าจะลงมาก แต่ถ้ามองจากพื้นฐานเฉพาะของประเทศ คำนวณจาก EPS GROWTH ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้คือปีนี้จะอยู่ที่ 112 ถ้าเราให้ P/E 15 เท่า มองบริเวณ 1,600 , 1,650 - 1,680 จุด ก็เป็นจุดที่โอเค ส่วนแรงขายจากนักลงทุนต่างประเทศ มองว่าถ้าเลือกตั้งชัดเจน นักลงทุนต่างชาติก็อาจจะกลับเข้ามา

"ตรง 1,590 จุด ผมว่าไม่ได้แย่ การลงทุนก็ไม่ได้แพง ถามว่าจะถูกไทม์มิ่งไหมการที่หุันจะวิ่งไปไหมก็ต้องดูตลาดต่างประเทศด้วย ดาวโจนส์มีผลต่อเราเยอะ" เสี่ยป๋อง กล่าว

ส่วนหุ้นกลุ่มไหน น่าเก็บเกี่ยวทำกำไร ในมุมมองของเซียนเทคนิคพอร์ตพันล้าน กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า ปัจจุบันไม่ได้เจาะจงเป็นเซคเตอร์แล้ว แต่เลือกเป็นรายตัวมากกว่า ส่วนตัวเลือกหุ้น Bigcap ที่มีสภาพคล่อง ( Liquidity) สูง เพราะซื้อจำนวนมากจึงต้องเลือกตัวที่ซื้อง่ายขายสะดวก ถ้าเลือกหุ้นที่มีสภาพคล่องน้อยก็หมายความว่าหากซื้อหุ้นก็ขึ้นเพราะเรา เราขายหุ้นก็ลงเพราะเรา หากเป็นอย่างนั้นก็ไม่เกิดประโยชน์

" ตอนที่พอร์ตเล็กๆ ก็เล่นได้ทุกตัว เดี๋ยวนี้พอร์ตใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็เล่นตัวที่ใหญ่หน่อย เพื่อความคล่องตัวในการซื้อขายและผมก็ยังเหมือนเดิมใช้เทคนิเคิลในการจับการซื้อขายอยู่ ซึ่งเทคนิคเคิลมันก็หลากหลายความคิดก็หลากหลาย ผมก็เห็นว่าตามเว็บไซต์ก็มีคนเก่งมาเขียนความคิดเห็นกันเยอะแยะ แต่ละคนก็ต้องเรียนรู้และปรับปรุงในการใช้ว่าจะใช้วิธีไหน เพราะมีวิธีและเส้นทางเยอะ เทคนิคเคิลก็มีหลายรูปแบบแล้วแต่คนจะใช้ " เสี่ยป๋อง กล่าว

เสี่ยป๋อง ทิ้งท้ายด้วยคำแนะนำการลงทุนในปีหมูว่า แนะนำนักลงทุนให้ศึกษาข้อมูลและแหล่งข่าวจากด้านต่างๆ ทั้งจากโบรกเกอร์ จากสำนักข่าวต่างๆ จากเว็บไซต์ สุดท้ายการตัดสินใจยืนยันว่าต้องดูกราฟประกอบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ พยายามอ่านศึกษาฐานข้อมูล เพื่อเอามาประกอบการตัดสินใจ บนบริบทพื้นฐานของความจริง พื้นฐานตัวเลขออย่างหุ้นบางตัว มีการคาดหวัง ว่าจะเติบโต แต่ P/E เป็นร้อยเท่า สุดท้ายยืนไม่ได้สักตัว ดังนั้นทุกคนต้องระมัดระวังกันในเรื่องนี้ด้วย ไม่ใช่ว่ามองดีและมโนอย่างเดียว และอย่าไปอยู่ในกลุ่มที่เลือกทางสุดขั้ว ให้อยู่กลางๆ แล้วพยายามเลือกหุ้นด้วยตัวเอง เพราะไม่มีใครเก่งกว่าใคร ทุกคนมีความรู้และความสามารถเหมือนกัน พยายามคิดและตัดสินใจด้วยตัวเอง ผมคิดว่าทุกคนก็จะประสบความสำเร็จได้

---จบ---

By: สุกัญญา ศิริรวง