Today’s NEWS FEED

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ: "ไออาร์ เน็ตเวิร์ค"..ครบรสธุรกิจนักลงทุนสัมพันธ์

4,684

รายงานพิเศษ:  "ไออาร์ เน็ตเวิร์ค"..ครบรสธุรกิจนักลงทุนสัมพันธ์

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ ( 4 กุมภาพันธ์ 2562) -------- บริษัท ไออาร์ เน็ตเวิร์ค จำกัด ผู้นำธุรกิจที่ปรึกษาด้านนักลงทุนสัมพันธ์และการประชาสัมพันธ์ (Investor Relation & Public Relation) ภายใต้การบริหารงานของแม่ทัพหญิง “ณัฐสินี ระเบียบนาวีนุรักษ์” ผู้บริหารหญิงเก่ง ที่ถ้าหากเป็นสายงานพีอาร์แล้ว “ณัฐสินี ระเบียบนาวีนุรักษ์” ต้องถูกยกเป็นเจ้าแม่ PR แห่งวงการพีอาร์สายตลาดหุ้น อย่างไม่มีข้อกังขา ด้วยผลงานการเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทจดทะเบียน(บจ.) ที่เข้ามาใช้บริการ "ไออาร์ เน็ตเวิร์ค" เป็นจำนวนมาก สามารถการันตีฝีมือของ"ไออาร์ เน็ตเวิร์ค" ได้เป็นอย่างดี

 


"ณัฐสินี ระเบียบนาวีนุรักษ์" เล่าให้ทีมข่าวหุ้นอินไซด์ฟังในวันสบายๆ ด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเอง ถึงจุดเริ่มต้นการก่อตั้ง "ไออาร์ เน็ตเวิร์ค" กว่าจะมาถึงวันนี้ ผ่านมาแล้ว ทุกบททดสอบ เพราะ "ไออาร์ เน็ตเวิร์ค" ถือเป็น PR Agency ในตลาดหุ้นรายแรกๆ เรียกได้ว่าเป็นยุคตอกเสาเข็มสำหรับวงการพีอาร์สายตลาดหุ้นเลยก็ว่าได้

 


วันนี้หุ้นอินไซด์จึงจะขอพาไปทำความรู้จักกับแม่ทัพหญิงคนนี้ให้มากขึ้น รวมถึงแนวความคิดต่างๆที่ทำให้ธุรกิจเติบโตมาเป็นอาณาจักร "ไออาร์ เน็ตเวิร์ค" รวมถึงก้าวต่อไปที่จะนำพา ธุรกิจ PR-IR ให้เติบโตไปอย่างไร ขอเชิญคุณผู้อ่านพบกับการเปิดใจเจ้าแม่แห่ง PR ตลาดหุ้นไทย ..........

 


***Q : จุดเริ่มต้นมาทำธุรกิจพีอาร์ได้อย่างไรคะ***

A : ต้องขอท้าวความก่อนเลยว่า พี่เรียนจบนิเทศศาสตร์มาจากมหาวิทยาลัยในต่างจังหวัด หลังจากนั้นก็มาเริ่มทำงานเป็นนักข่าวสายตลาดหุ้น ก็มีทั้ง นสพ.ข่าวหุ้นธุรกิจ แล้วก็ย้ายไปที่อีไฟแนนซ์ไทย และตอนที่เป็นนักข่าวอยู่อีไฟแนนซ์ไทย ซึ่งดำรงตำแหน่งรองบรรณาธิการอยู่นั้น บริษัทก็ได้มีการเปิดแผนกใหม่ขึ้นมา ชื่อว่า IR หรือ Invester Relation และหัวหน้าก็เห็นว่าพี่มีแววที่จะสามารถทำได้ เพราะเคยมีในช่วงหนึ่ง ประมาณตอนปี 2540-2541 พี่ได้ลาออกจากการเป็นนักข่าวไปเป็นพีอาร์ของบริษัท เอฟบีที หรือ ฟุตบอลไทย ทำพีอาร์ในช่วงเอเชียนเกมส์ อยู่สักพักหนึ่ง แล้วก็กลับมาวงการนักข่าวใหม่อีกครั้ง แต่พอพี่ได้ทำงานในแผนก IR ไปสักระยะมีความรู้สึกว่าอยากจะเป็นนายตัวเอง พี่ก็เลยลาออกมาตั้งบริษัทของตัวเองชื่อว่า บริษัท ไออาร์ เน็ตเวิร์ค จำกัด เมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว ซึ่งครบ 8 ปี เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และตอนนี้ก็กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 9 เป็นที่เรียบร้อย

 

 

***Q: ยุคก่อตั้ง "ไออาร์ เน็ตเวิร์ค" ตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้างคะ***

A: ต้องบอกว่าตอนที่เริ่มก่อตั้งพี่มีทีมทำงานอยู่ 2 คน และในปีแรกตอนเริ่มต้นมีลูกค้าอยู่แค่ 5 บริษัท พอปีที่สอง ก็มีทีมทำงานเพิ่มขึ้นเป็น 3- 4 คน ส่วนลูกค้าก็มีเพิ่มขึ้นเท่าตัวทุกปี อย่างไรก็ตาม ย้อนเวลากลับไปเมื่อยุคนั้น ต้องบอกว่าการแข่งขันแทบจะไม่มีเลย เพราะมีบริษัทที่ทำพีอาร์ไม่มากนัก ทำให้การทำธุรกิจพีอาร์มีรูมในการเติบโต การแข่งขันตอนนั้นจึงถือว่าน้อยมากๆ ซึ่ง"ไออาร์ เน็ตเวิร์ค" เติบโตเท่าตัวในทุกๆปี จนกระทั่งปีนี้เมื่อมีฐานที่เริ่มใหญ่แล้ว บริษัทจึงปรับการเติบโตมาเป็นการค่อยๆโตอย่างต่อเนื่อง

 


***Q : ปัจจุบันนี้โปรดักส์ของ "ไออาร์ เน็ตเวิร์ค" มีอะไรบ้าง ***

A: สำหรับงาน IR-PR คือการทำ Invester Relation ควบคู่กับ Public Relation โดยการทำ Invester Relation ก็คือการโฟกัสไปที่กลุ่มนักลงทุน และ Public Relation ก็เป็นการโฟกัสไปที่สาธารณชน ซึ่งตรงนี้ก็คือโปรดักส์หนึ่งที่เป็น Core business ของเรา ส่วนโปรดักส์ที่สอง คือ การรับจัดประชุมผู้ถือหุ้นครบวงจร ตั้งแต่การจัดเตรียมงานทั้งหมด ระบบการลงคะแนนโหวต ด้วยระบบบาร์โค้ด รวมไปถึงมีผู้ดำเนินรายการมืออาชีพที่ช่วยดูแลและอำนวยความสะดวก โดยเราได้ทดลองระบบเสร็จและได้เริ่มขายลูกค้าไปบ้างแล้วตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ส่วนในปี2562 ก็จะเริ่มเต็มปี และโปรดักส์ที่สาม คือ เรามีทีมจัดอีเวนท์ โปรดักส์ที่สี่ คือ การทำวิดีโอพรีเซนส์เทชั่นให้กับริษัทจดทะเบียน โปรดักส์ที่ห้า คือ ระบบ IOS หรือ Information online system ซึ่งจะเป็นช่องทางที่จะส่งข้อมูลต่างๆเพิ่มเติมผ่านสื่อโซเชียลมีเดียแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นช่องทางไลน์ เฟสบุ๊ค ทวิสเตอร์ พันทิป และเว็ปไซต์ของพันธมิตรของเรา โดยการส่งข้อมูลออกไปหนึ่งครั้งจะมีผู้ชมเห็นมากกว่า 600,000 eye view และเราก็จะมีการพัฒนาระบบนี้ไปเรื่อยๆ เพื่อทำให้ข้อมูลไปถึงมือผู้รับได้อย่างทันท่วงที ซึ่งจะเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปลายปี 2561 ที่ผ่านมาค่ะ

 


***Q : มาตรวัดความสำเร็จของงาน IR-PR คืออะไร ***

A : วัดได้จากหลายๆอย่างเลย อย่างแรก คือ ความพึงพอใจของลูกค้า ซึ่งลูกค้าก็อาจจะดูจากราคาหุ้นของเขา เพราะหุ้นคือหนึ่งในปัจจัยที่สะท้อนความสำเร็จของPR แต่ในทางกลับกันงาน PR ไม่ใช่ปัจจัยหลักที่จะทำให้หุ้นขึ้น แต่สิ่งที่เราทำ คือการเอาข้อมูลของบริษัทต่างๆมาเผยแพร่ให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ และเข้าใจมากที่สุด และในทุกๆเดือนเราจะมีเคพีไอให้ลูกค้า มีการทำกิจกรรมไม่ต่ำกว่า 2 กิจกรรม อาจจะเป็นการทำ ข่าวประชาสัมพันธ์, ข่าวกอสสิป ,สัมภาษณ์พิเศษ หรืออาจะมีการจัดแถลงข่าวก็ได้ ด้วยความที่พื้นที่สื่อมันมีจำกัด แต่เราจะทำยังไงให้บริษัทได้มีพื้นที่ในสื่อ และเวลาที่มีวิกฤติเกิดขึ้นกับลูกค้าเราต้องสามารถแก้สถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที

 


***Q: การดูแลลูกค้ามีความแตกต่างกันหรือไม่ ***

A: ความแตกต่างในการดูแลลูกค้า ต้องบอกเลยว่าไม่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น SET หรือ mai แต่จะพูดกันตรงๆ คือ mai จะยากกว่า SET เพราะหุ้นที่อยู่ใน SET เป็นหุ้นที่อยู่ในความสนใจอยู่แล้ว แต่สำหรับบริษัทขนาดเล็ก เราต้องใช้พลังมากขึ้นอีก ต้องหาอะไรที่ขายได้ และต้องใช้คอนเน็คชั่นสูง แต่อย่างไรก็ตามการดูแลต่างๆเหมือนกันหมด เราจึงสามารถที่จะรักษาลูกค้าให้อยู่กับเราค่อนข้างนาน บางบริษัทก็จะอยู่มาตั้งแต่ก่อตั้งมาจนถึงปัจจุบัน ปัจจุบันการแข่งขันในวงการนี้มันสูงขึ้น พี่มองว่าการที่เราไปเป็นพีอาร์ให้ลูกค้าคนนึงถือเป็นวาสนา และลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ใน SET 60% และใน mai 40%

 


***Q: นอกจากธุรกิจ IR-PR แล้วอยากทำธุรกิจอื่นอีกหรือไม่ ***

A : พี่อยากทำบริษัททัวร์ ซึ่งตรงนี้ก็อยู่ในแผนปี 2562 เพราะว่าเราเป็นคนชอบเที่ยวด้วย และได้ไปศึกษาวิธีการทำทัวร์ด้วย ตอนนี้กำลังขอใบอนุญาตอยู่ ชื่อบริษัท แอฟฟินิตี้ รีเลชั่น จำกัด ซึ่งจะมาเป็นบริษัทลูกของไออาร์ เน็ตเวิร์ค อีกทั้งธุรกิจนี้สามารถที่จะเซอร์วิสคู่กับงาน IR-PR ได้ด้วย และได้เห็นความชัดเจนในปีนี้ พอได้รับการอนุมัติ ก็ต้องทำเว็ปไซต์อีก คาดว่ากลางปีน่าจะเริ่มขายได้ และมองว่าทัวร์เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่น่าจะดี

 


***Q: ฝากมุมมองเกี่ยวกับธุรกิจสื่อในปัจจุบันหน่อยค่ะ ***

A: ต้องบอกว่าโลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จากที่ในอดีตช่องทางในการสื่อสารมันน้อย แต่ทุกวันนี้เรามีทั้งเฟสบุ๊ก โซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ ทุกคนสามารถสถาปนาตัวเองเป็นอาจารย์ได้ เป็นผู้รู้ได้ มีช่องทางสื่อสารของตัวเอง ดังนั้นจึงทำให้ผู้รับสารมีหลายช่องทางในการตัดสินใจ ขณะเดียวกันในส่วนของผู้รับข้อมูลข่าวสารก็มีหลายช่องทางในการเลือกรับชมและวิเคราะห์เองได้ ดังนั้นเมื่อผู้รับสารที่ความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลมากขึ้น สิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ที่ทำหน้าที่ "สื่อ" คือการสร้างคอนเทนต์ ที่แตกต่าง และน่าสนใจ และมีการปรับตัวไปเพื่อให้เท่าทันกับกระแสที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน

 

วันนี้การขยายอาณาจักรของ"ไออาร์ เน็ตเวิร์ค" ในยุคไทยแลนด์ 4.0 มีธงอย่างชัดเจนว่าจะเดินไปทางไหน ถ้าจะให้สรุปโดยย่อ ในปีหมูทองการดำเนินธุรกิจของ "ไออาร์ เน็ตเวิร์ค" ยังเข้มข้นสามารถที่จะตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้อย่างครบวงจร ด้วยบริการใหม่ที่จะเข้ามาช่วยเสริมธุรกิจ PR-IR ทั้งธุรกิจที่ปรึกษาด้านนักลงทุนสัมพันธ์ ธุรกิจประชาสัมพันธ์ การให้บริการจัดประชุมผู้ถือหุ้นแก่บริษัทจดทะเบียนแบบครบวงจร และธุรกิจบริการ IOS (Information online system) การส่งข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เข้าถึงผู้บริโภคอย่างทันท่วงที และยังมีธุรกิจทัวร์ ที่จะมาต่อยอดธุรกิจในอนาคต
ท้ายนี้คงต้องบอกว่าเส้นทางการเติบโตของ "ไออาร์ เน็ตเวิร์ค" มีศาสตราวุธครบมือ พร้อมลุย พร้อมโต ............

---จบ---

By: ธาราทิพย์ พิพัฒน์ /สุกัญญา ศิริรวง

บทความล่าสุด

SNNP รับรางวัล Supplier ดีเด่นจากแม็คโคร

SNNP รับรางวัล Supplier ดีเด่นจากแม็คโคร

PTG ลงนาม MOU กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคีเครือข่าย ร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟูป่าชายเลน

PTG ลงนาม MOU กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคีเครือข่ายร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟูป่าชายเลน

เก็งหุ้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อยขี่ไม้กวาดวิเศษ ภาคเช้าที่ผ่านมา หุ้นไทยแกว่งขึ้น ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนการเล่นการเทรดเป็นไปตามแรง...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้