สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (30 มกราคม  2562) 

อยากเป็น Fulltime Trader ที่ประสบความสำเร็จต้องทำอย่างไร (2)

เรามาต่อกันจากตอนที่แล้ว สิ่งที่เทรดเดอร์ต้องมี นอกจาก การมีความรู้ในการลงทุนและการเทรด ต้องมีประสบการณ์ ต้องไม่เป็นมนุษย์ perfectionist และต้องมีพลังใจที่เข้มแข็ง มันก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เราเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จในระยะยาวได้ คำว่าระยะยาวของผมไม่ได้วัดกันที่ 5 ปีหรือ 10 ปี แต่มันคือตลอดชีวิต เพราะอาชีพเทรดเดอร์เป็นอาชีพที่สามารถทำงานได้ตลอดชีวิตตราบเท่าที่คุณอยากทำ ดังนั้นระยะเวลาที่ยาวนานขนาดตลอดชีวิตนั้น เราจะต้องเจอกับสภาวะตลาดทุกแบบ หมี กระทิง ไซด์เวย์ ฟองสบู่ ตลาดพัง ถ้าคุณมีคุณสมบัติครบอีก 5 ข้อที่ผมจะกล่าวถึงต่อไปนี้ ผมมั่นใจว่าคุณจะต้องประสบความสำเร็จในอาชีพเทรดเดอร์แน่นอน

5. มีการจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย ทุกเดือน

สำหรับเทรดเดอร์หน้าใหม่ที่ยังไม่เคยทำบัญชีรายรับรายจ่าย เวลาที่พวกเขาได้กำไร ก็จะรู้สึกว่ากำไรที่ทำมาได้ มันช่างง่ายดายเหลือเกิน ทำให้เกิดอาการมือเติบ ที่น้อยๆบางคนก็เอาไปซื้อ โทรศัพท์ ซื้อเสื้อผ้า ซื้อของแบรนด์เนม ที่กลางๆก็เอาไปซื้อ นาฬิกา เอาไปเที่ยวเมืองนอก นั่ง Business Class ที่หนักๆก็เอาเงินไปดาวน์รถสปอร์ต หรือกู้ธนาคารเพื่อซื้อบ้านไปเลย

ผมไม่ได้บอกว่าเราใช้เงินไม่ได้ แต่การใช้เงินแบบมือเติบ สิ่งเหล่านั้นเป็นกับดักที่ผมเรียกว่า สามล้อถูกหวย เราอาจจะเคยได้ยินข่าวว่ามีสามล้อถูกล้อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ได้รับเงินไป 6,000,000 บาท แต่ใช้ระยะเวลาแค่ 6 เดือนในการละลายเงินก้อนนั้นทั้งหมด แถมเงินที่ละลายไปไม่ได้หมดไปกับการซื้อสินทรัพย์ใดๆ แต่เอาไปแจกนักร้องคาเฟ่ทุกวันจนเงินหมด

เวลาตลาดเป็นขาขึ้น คนส่วนใหญ่ได้กำไร ถ้าเราใช้เงินแบบมือเติบแล้ว เราต้องคิดเผื่อเวลาตลาดเป็นขาลงด้วย วิธีการที่จะทำให้คุณไม่ใช้เงินไปในสิ่งที่ไม่จำเป็นคือต้องทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย ทุกๆเดือน ถ้าคุณตระหนักถึงความสำคัญในข้อนี้ คุณจะใช้เงินทุกบาททุกสตางค์อย่างมีคุณค่า

6. รู้จักแก้ไขปรับปรุงข้อผิดพลาดอยู่เสมอ

ไม่มีตำราฉบับไหนที่จะทำให้คุณเทรดแล้วชนะทุกครั้ง ความสำคัญของเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่คุณจำเป็นต้องชนะทุกครั้ง เพราะมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ สำหรับคนที่บอกว่าไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง น่าจะเป็นคนที่ MM จนดัชนี SET เหลือ 0 ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่มีแต่ในทางทฤษฎี แต่ไม่เคยมีใครทำได้ในทางปฏิบัติความสำคัญของเรื่องนี้คือ เวลาที่คุณขาดทุน คุณต้องรู้ว่าจุดผิดพลาดของเรื่องนี้คืออะไร

และคุณจะแก้ใขมันอย่างไร เพื่อให้ครั้งต่อไปคุณไม่ต้องแพ้มันอีกใช้เวลาสักวันละ 15 นาที หลังตลาดปิด ว่าการเทรดวันนี้เราชนะเพราะอะไร เราแพ้เพราะอะไร ผลรวมของการเทรดเป็นอย่างไร และที่เราแพ้เราจะแก้ไขมันอย่างไรให้ชนะในครั้งต่อไป

7. มีความขยัน

อย่างที่ผมเคยบอก เทรดเดอร์ตามคอนเซ็ปท์สมัยนิยม ที่นั่งกระดิกเท้าจิบกาแฟแล้วรับเงิน มันเป็นแค่มโนภาพที่มีคนบางกลุ่มสร้างไว้ แต่ในความเป็นจริงจากประสบการณ์ของผม ไม่ว่าใครจะทำงานอะไรแต่ไม่เอาจริงเอาจัง เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ในระยะยาวผมไม่เคยเห็นใครประสบความสำเร็จสักคน ผมได้มีโอกาสคุยกับพี่ป๋อง ( วัชระ แก้วสว่าง ) รุ่นพี่เทรดเดอร์ที่ผมเคารพ

ในขณะที่พี่ป๋องมีพอร์ตหลักพันล้าน แต่พี่ป๋องยังนั่งทำการบ้านด้วยตนเองทุกครั้ง โดยดูรายงานจากบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ แล้วมา category บันทึกข้อมูลลง excel ด้วยตนเองเทรดเดอร์อาชีพต้องทำงานหนัก ต้องมีข้อมูลที่สามารถใช้ตัดสินใจได้ทันทีเวลาอยู่หน้างาน ดังนั้นการทำการบ้านสำคัญมาก

8. รู้จักว่าเวลาไหนควรเบาควรผ่อน เวลาไหนควรจัดเต็ม

เนื่องจากอาชีพนี้ สิ่งที่คุณจะเจอคือสภาวะตลาดที่เดาได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เทรดเดอร์ที่ยืนระยะอยู่ได้ ต้องรู้จักรอในบางจังหวะ ต้องรู้จักจัดหนักจัดเต็มในบางจังหวะ หรือในบางครั้งการอยู่เฉยๆแล้วออกไปทำอย่างอื่น อาจเป็นช่วงเวลาที่ดีกว่านั่งเทรด

คนที่จัดเต็มตลอดเวลา เวลาได้กำไรได้เยอะกว่าก็จริง แต่เวลาคุณโดน คุณก็โดนหนักกว่าคนอื่นคนที่กลัวไปหมด ระแวดระวังเกินไป คุณอาจจะเอาตัวรอดได้ แต่คุณจะไม่มีวันรวย เร็ว ช้า หนัก เบา คือศิลปะของวิชาชีพนี้ มันอาจสอนกันโดยตรงไม่ได้ แต่ถ้าคุณอยู่ในสนามนี้นานพอ คุณจะเข้าใจเองว่า ช่วงเวลาแบบนี้ คุณจะทำอะไร

9. อย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว จงเป็นน้ำแค่ครึ่งแก้วที่พร้อมเรียนรู้ตลอดเวลา

ตลาดในยุคปัจจุบัน รายย่อยจะต้องเจอทั้ง ต่างชาติที่มีเงินมากกว่าเรามหาศาล กองทุนที่มีข้อมูลในเชิงลึกกว่าเรา prop-trade ที่แทบไม่มีค่าคอมในการเทรด รายใหญ่ที่มีทั้งเงินมหาศาลและหุ้นมหาศาล robot-trade ที่ไม่มีความรู้สึก high frequency trade ที่ใช้ความเร็วน้อยกว่า 1 วินาทีในการแย่งชิง order จากการประมวลผลของข้อมูล และในอนาคตเราอาจต้องเจอกับ AI (Artificial Intelligents) ที่สามารถสร้าง conditions ใหม่ๆที่ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ได้ตลอดเวลา ดังนั้นสิ่งที่พวกเราจะต้องทำคือ เรียนรู้อยู่เสมอในทุกๆด้าน พัฒนาตนเองในทุกๆด้าน และทันต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกสถานการณ์

จาก 9 ข้อที่ผมกล่าวมา ลองทำลิสต์ว่าคุณทำได้กี่ข้อ ถ้าคุณทำได้ต่ำกว่าครึ่งจากทั้งหมด บางทีการเอาเงินไปให้ผู้จัดการกองทุนบริหาร เป็นเรื่องที่ปลอดภัยกว่า

#เพราะสนามนี้ไม่เคยมีที่ยืนให้กับผู้แพ้

กระทรวง จารุศิระ
President
Supertrader Group