Today’s NEWS FEED

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

สัมภาษณ์พิเศษ :รุ่นสอง CCP "อาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม"

6,707

สัมภาษณ์พิเศษ :รุ่นสอง CCP
           "อาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม"


        กว่าจะฝ่าวิกฤตมรสุม มาสู่ช่วงขาขึ้น กระทั่งก่อตัวเป็น บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP ธุรกิจผลิตภัณฑ์คอนกรีต ที่มีชื่อเสียงติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย เกี่ยวกับงานสาธาณูปโภคอย่างครบวงจร "อาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม" กรรมการผู้จัดการบริษัทฯหนุ่มไฟแรง ที่เข้ามาในรุ่นสอง.... พูดได้เลยว่า หนทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ กว่าจะก้าวสู่ความเป็น CCP ได้นั้น ต้องผ่านอุปสรรคอะไรบ้าง ขอเชิญอ่านบทสัมภาษณ์ทั้งหมด........ได้เลยค่ะ


Q : คุณอาทิตย์เป็นรุ่นไหนที่เข้ามาดู CCP


    จริงๆ ผมเป็นรุ่นสองแท้ๆ เลยครับ อากงของผมแกมาจากประเทศจีน เดินทางมาถึงเมืองไทยกับอาม่า ตอนนั้นอาม่าพูดไทยไม่ได้เลย มาถึงสักพักอากงก็เสียชีวิต คุณพ่อก็เลยทำงาน จนอายุ 12-13 ปี คุณพ่อก็ออกมาทำงานในเมือง ใช้ชีวิตลูกจ้างอยู่ขณะนั้น พออายุ 20 ต้นๆ คุณพ่อก็เปิดบริษัทกันยง  พอทำไปสักพักก็เปิด CCP พอเสร็จแล้วก็พัฒนามาจนถึงตอนนี้ CCP เป็นรุ่นพ่อ มารุ่นคุณชาคริต ผมก็รุ่นเดียวกับคุณชาคริต ผมเป็นคนโต คุณชาคริต เป็นคนสุดท้อง

Q : ทำไมให้คุณชาคริตออกรับหน้าช่วงนั้น


    ตอนแรกผมทำ CCP ทำบริหารทั่วไป อยู่เบื้องหลัง แล้วตอนนั้นโฮมโปร เพิ่งสร้างเสร็จ เห็นโฮมโปรเขาทำดี เราก็ไปดูการจัดการว่าเขาทำอย่างไร ดูแล้วก็ไม่ได้ยากอะไร การคิดไม่ได้ยาก เราก็นำมาปรับใช้กับกันยงให้เป็นคล้ายโฮมโปร ค่อยๆปรับ ผมก็ย้ายจากบริหาร CCP มาทำกันยง ส่วนคุณชาคริตก็ทำ CCP ต่อไปเรื่อยๆ ทำกับคุณพ่อและคุณแม่ ผมก็ทำด้วย ตอนนั้นเป็นร้านค้าส่ง โฮมโปรเป็นเจ้าแรกที่เค้ามาทำร้านค้าปลีก ผมเองมองว่าเงินดี ก็เลยลองทำบ้าง

Q : กันยง ทำอยู่กี่ปี

    ทำอยู่เกือบ 7-8 ปี ที่ทำก็มีขยายสาขาที่พัทยา จังหวัดชลบุรี ช่วง 3-4 ปีก่อน เราเจอวิกฤตตอนนั้นมีผู้ถือหุ้นอยู่หลายคน ปรากฎว่าผู้ถือหุ้นเขาถอนตัวออก คุณพ่อก็เข้ามารับหน้าแทน คือ คุณพ่อไม่ยอมให้มันเสีย กระโดดเข้ามารับไว้ ตอนนั้นประมาณเดือนมกราคม เงินที่ได้มาก็ถูกดึงมาใช้ ช่วงนั้นธุรกิจของเราขรุขระมาก
    หลังจากนั้นเรามาแก้วิกฤตได้ตอนปี 2553 แต่ก่อนหน้านั้นเราเองก็เริ่มมีเงินเข้ามา กำไรเริ่มดีจากตอนที่เกิดวิกฤตน้ำท่วม ราคาเริ่มดี เงินไหลเข้ามา แก้วิกฤตตัวเองได้

Q : กันยง ปัจจุบันนี้เป็นอย่างไร

    ปัจจุบันเแป็นร้านค้าวัสดุก่อสร้างสาขาเดียว ในการบริหารงานถามว่าผมไปเจออะไรในช่วงบริหารกันยงมา ตอนช่วงแรกดีมาก กำไรเราสูงการแข่งขันน้อย เราเพิ่มยอดขาย ช่วงนั้นดีมาก กำไร รายได้ทุกอย่างขึ้นหมด ผ่านไปสักพัก เริ่มมีเปลี่ยนแปลง เราเห็นภาพว่าทำไมกันยงขายดีแต่กำไรเราลด ทำไป 2-3 ปี ก็ยังเหมือนเดิม เรามานั่งทบทวนใหม่ เลยรู้ว่าคือตอนนั้นราคาของขึ้น วัสดุขึ้นราคา สมมุติราคาขึ้น 10 % แต่เราไปขึ้นราคารกับลูกค้าได้ไม่ถึง 10% เราก็คิดว่าทำไม... แต่ถ้าเราขึ้นราคา ลูกค้าต้องไปซื้อของคู่แข่งแน่ เพราะของที่ขายกับคู่แข่งขายเหมิอนกัน โรงงานขึ้น ถ้าเราขึ้น ราคาแพง ลูกค้าก้ไปซื้อที่อื่น ช่วงนั้นก็เลยกลายเป็นยอดขายลดตลอด 3 ปีซ้อน กระทั่งประมารณปี 2552-2553 วิกฤตเริ่มดีขึ้น เงินเริ่มไหลมา ส่วนปัจจุบันตอนนี้ผมให้ภรรยาเป็นคนดูแลบริษัทกันยง อยู่ครับ

Q : ทำไมถึงแยกตัวเองออกมาทำส่วนตัว


    จริงๆโปรเจ็กที่เราอยากทำทางคุณพ่อเอง ยังไม่เห็นด้วย 100%  เกี่ยวกับการที่ทำตัวนั้นอยู่ มุมดีก็ดี มุมเสี่ยงก็มี เราไม่ได้เป็นดีลเวอร์ลอปเปอร์เอง ในมุมของเรียลเอสเตท ส่วนโครงการที่เราขายอยูา 30 เปอร์ ถ้าพวกนี้ไม่ขึ้น อย่างพฤกษาเองก็สร้างโรงงานผลิตสิ้นส่วนขึ้นมาเอง ถ้าไม่ทำเองกำไรก็น้อยพอสมควร หรือไม่คุ้ม เราก็เลยหาคำตอบพวกนี้ไม่ได้ เราต้องใช้ทรัพยากรอื่นที่เรามีอยู่ไปใช้อย่างอื่นได้ เช่น เราไปขยายส่วนอื่นแทน ซึ่งเรามีความรู้มากกว่า ตอบโจทย์ได้ดีกว่า กำไรไม่หวือหวามาก แต่คิดว่าตัวนี้มั่นคงที่กว่า ก็ที่มามีแค่นี้ ผมคือเอ็มดีคนหนึ่งนะครับ วันนหนึ่งผมแก่ตัวไปผมก็ต้องหาคนอื่นมาทำแทนอยู่แล้วครับ


Q : ยากไหมจากการที่บริการ บริษัท ชลบุรีกันยง จำกัด แล้วมาบริหาร CCP

    จริงๆแล้ว จะว่ายากก็ยาก อยู่ที่การแข่งขัน ทั้งในเรื่องการค้า ทั้งเรื่องทรัพยากรบุคคล  การค้าคือการหาลูกค้า มุมการค้าก็ไม่มีอะไรมาก ดีที่ CCP เอง มีชื่อ ติดตลาดอยู่พอสมควร การค้าก็เรื่องหนึ่งประกอบกับเมื่อช่วงปีที่แล้ว บอกเลยว่าตลาดมันดีค่อนข้างดีมาก ของขาดตลาด ผมเข้ามาในจังหวะนั้นก็ของมันขาด คีย์มันก็คือการผลิตเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด เพราะยอดขายมีแล้ว อยู่ที่การผลิต เราจะส่งของให้ลูกค้าอย่างไร ให้การผลิต ต้นทุน ที่มีอยู่ส่งให้ลูกค้าได้   
     ต่อมาเรื่องวัตถุดิบ ทรัพยากร คน เป็นเรื่องของกระบวนการภายในเรา การขายชะลอได้ช่วงหนึ่ง Backlog ของเราก็มีมาตรฐานอยู่ประมาณ 2 พันล้านบาท เพื่อเทียบแล้วจริงๆ 100% เราจะรับอยู่ 60% คือ 2 ใน3 ส่วน เพื่อที่ว่า จะได้รองรับส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเก็บไว้กับงานระยะสั้น ซึ่งกำไรดีกว่าเพราะลูกค้าต้องการความเร็ว ในขณะที่โปรเจ็คใหญ่คู่แข่งก็มีมาก     ด้านนโยบายวางไว้แล้วเราก็มาปรับตามสถานการณ์ โฟกัสไปเฉพาะจุดที่จำเป็น อย่างเรื่องงานกระบวนการภายใน เราไม่มีทรัพยากรบุคคลเพิ่ม เราต้องคิดแล้วว่าถ้าเรามีคนอยู่ 5 คน ทำอย่างไรถึงจะมีงานมากกว่า 10 ชิ้น มันก็ต้องมาพึ่งเครื่องมือมากกว่า ก็เลยบอกทีมงานให้โฟกัส และส่งเสริม ในส่วนนี้มากขึ้น ถามว่าระยะสั้นเราจะเพิ่มเครื่องจักรได้หรือไม่ หากเพิ่มเครื่องจักรเราก็ต้องเพิ่มคนอยู่ดี ส่วนนี้มองว่าเราต้องปรับกระบวนการภายใน
    ตอนนี้ที่เข้ามาบริหารงานและปรับปรุงในส่วนกระบวนการภายใน ทำได้ประมาณ 30% เราเห็นอีก 70% ที่ต้องทำอีกมาก โดยเฉพาะเรื่องกระบวนการภายใน และการลดต้นทุน การเพิ่มเครื่องจักรขนาดกลาง ปีนี้คิดวางแผนมากกว่านั้น เราต้องคิดจากเรื่องเล็กๆ ถ้าคิดทำแต่เรื่องใหญ่ คงไม่ได้ทำอะไรกันพอดี
    ปีที่ผ่านมาเรามีออเดอร์เข้ามาแล้ว เราต้องคิดแล้วนะว่าจะทำอย่างไร นั้นคือสิ่งที่ต้องทำ หากเราปล่อยจังหวะเลยไป มันก็จะผ่านไป

---จบ----

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

ผถห. SSP ผ่านฉลุย! จ่ายปันผล 0.20 บาท/หุ้น

ผถห. SSP ผ่านฉลุย! จ่ายปันผล 0.20 บาท/หุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้