Today’s NEWS FEED

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

สัมภาษณ์พิเศษ: KMC สู่ AQ ESTATE

4,500


 

        

***ภาพของ KMC จะเป็นอย่างไรบ้าง ****

                นายยงยุทธ : กฤษดานคร หรือ KMC กำลังจะกลายเป็นอดีต

กฤษดานครเป็นนิติบุคคล แสดงว่ามันมีใครมาเป็นเจ้าของก็ได้ ....จะเปลี่ยนยังไงก็ยังคงมีภาพนั้นอยู่ ทีนี้เราอยากเกิดใหม่ เราก็ต้องใช้เวลาระยะยาวในการพิสูจน์


 

***ไปเจอคุณยงยุทธได้อย่างไร และเข้าร่วมธุรกิจได้อย่างไร***

                นายวิรัตน์ : เรื่องของการรีแบรนด์เราคุยกันมานานแล้ว ตั้งแต่เริ่มมีผู้ถือหุ้นรายใหม่ทยอยเข้ามา ตั้งแต่ปี54 มีการเพิ่มทุนครั้งแรก 800 ล้านบาท แล้วก็มาเพิ่มอีกปี 55 หลังจากนั้นเราก็เริ่มคุยกัน  เราคุยกันสรุปว่ามันต้องมีการรีแบรนด์ ต้องมีผู้บริหารที่เป็นมืออาชีพจริงๆ ผมเองก็เป็นคนแก้ปัญหา ไม่ใช่มือที่จะมาบุก ผมไม่ใช่มืออสังหาริมทรัพย์ในเชิงรุก เฉพาะในส่วนที่ผมทำอะไร ต้อง conservative

 

***ตัดสินใจนานหรือไม่***

                นายยงยุทธ : ตอนที่อยู่อควาเรียส ผมคิดมาตลอดว่าจะทำยังไงให้งานมันดี มันไม่ยาก เราต้องรับงานให้เป็น ค่อยๆ ทำไปเรื่อยๆ จนมันดี กระทั่งเรายืนอยู่ จุดๆ หนึ่ง เราก็คิดแล้วว่าจะทำอย่างไรให้บริษัทไปไกลกว่านี้ มันต้องมีทุน ในจังหวะที่เราหาทุน ก็มีตรงนี้เข้ามา ตัดสินใจไม่กี่วัน ผมไม่คิดอะไรมาก ผมเช็คแต่อย่างเดียวว่า KMC clean จริงหรือไม่จะเหมือน LPN หรือไม่ ... ก็ลองตรวจสอบดู ผมลองคิดแป๊ปเดียวก็ตกลงเลย

                 หลักการก็สั้นๆ คือ เราดูก่อนว่าเราเองมีจุดแข็งอะไร Connection ที่ผมร่วม KMC ผมว่ามันน่าจะไปได้ดี 1 กลุ่ม share older เขายังมีใจให้ AQ ESTATE มั้ย หรือเขาไม่สนใจ AQ ESTATE หรือ เขาแค่ต้องการให้บริษัทเขาเจริญเติบโตทางการเงิน ฉะนั้นถ้ามี developer 2 คน มันก็ไม่ได้ มีผมเข้าใจ ทางคุณวิรัตน์ก็โอเค เข้าใจ

               

                นายยงยุทธ ; ผมดูและตรวจสอบว่า 1.บริษัทว่างจริง หรือ หลายคนถามผม แล้วคิดอยู่ดีๆ จะมีคนเอาบริษัทมาให้เรากันง่ายๆ หรือ

                 ถ้าบริษัทไม่มีปัญหา ลูกเถ้าแก่มาหาผมตระกูลใหญ่ๆ ทั้งนั้น แต่สุดท้ายมันก็เป็นของลูกเถ้าแก่ วันหนึ่งคุณก็เป็นหมาไม่ใช่เสือ แต่บริษัทนี้เขาเปิดทางให้หมด แต่คนที่อยากเข้ามาทำ AQ ESTATE ก็อยากมีส่วนร่วม อยากมีเรื่องเซลล์ อยากจะมีเรื่องราคา ทำพีอาร์ แต่เราไม่มีเลย  เราตกลงกันแล้วว่าไม่มีแน่ๆ เราอยากทำองค์กร องค์กรทำให้ธุรกิจไปได้ดี ธุรกิจก็ทำให้องค์กรไปได้ดี มันเป็นของคู่กัน แต่วิธีการแตกต่างกัน ผมไม่ได้ว่าเก่งหรืออะไร

 

*** ดูโหงวเฮ้งผู้ถือหุ้นมั้ย***

                นายยงยุทธ : ไม่รู้เลยครับ เพราะไม่เคยเห็นใครเลย  คือ ถ้าเกิดรู้ประวัติผม ตั้งแต่ทำงานมา ผมไม่เคยเปลี่ยนงานเลยนะ ผมไม่ทำresume ไม่เคยแคร์ ผมไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้ ผมสนใจ แต่โหงวเฮ้งบริษัทมากกว่า แล้วก็เรื่องของฮวงจุ้ยมากกว่า ผมคิดว่าผู้ถือหุ้น จะต้องกังวัลเรื่องการเงิน จะเอาเรื่องผู้ถือหุ้นมาคุยกัน ในเรื่องของหน้าที่ ว่าหน้าที่ของเราคืออะไร เรามีการทำงานอย่างโปร่งใส และในสิ่งที่ต้องทำให้ KMC ในวันนี้ คือ ปรับภาพลักษณ์  คือ ไม่ทำให้เค้าเห็นว่าเราทำไม่ได้ การทำรีแบรนด์ดิ้งในประเทศไทยมีตั้งเยอะ เช่น เป๊ปซี่ โค๊ก และอีกมากมายพอมันเปลี่ยนรีแบรนด์ดิ้งแล้วรสชาติมันเปลี่ยนมั้ย ....ผมก็ไม่เห็น

                นายยงยุทธ : การรวมตัวกัน เรามีทีมงานที่ดี กฤษดามหานครเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่มากในอดีต ผมเสียใจตรงที่ว่าผมเข้ามา ผมเสียดายความยิ่งใหญ่ของเขา ...เขามี Data Beta มากมายมหาศาล แต่ยังไม่ถูกใช้ แต่รอให้ผมแข็งแรง เดี๋ยวผมจะกลับมาใช้ Data Beta เหล่านี้ นี่แหละครับ เขาเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่ เพราะฉะนั้นมันสามารถกลับมายิ่งใหญ่ได้เท่าเดิม

 

*** KMC มีพนักงานลาออกบ้างไหม****

                นายวิรัตน์ : มีพนักงานไหลออกบ้างนิดหน่อย แต่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องพื้นที่ เพราะเราย้ายออฟฟิศจากแถวสุขุมวิท อโศกมาที่นี่ เด็กๆ ที่ทำงานส่วนใหญ่มาจากฝั่งธนบุรี ด้วยหลักการ ซึ่งเป็นหลังบ้านโดยส่วนใหญ่

 

***แล้วในปัญหาส่วนนี้มีการแก้ไขปัญหาอย่างไร****

                นายยงยุทธ : ส่วนใหญ่แล้วพนักงานเหล่านี้จะเป็นพวกจูเนียร์ มีคนหนึ่งออกไป เป็นคนรู้จัก เขาบอกว่าคุณยงยุทธมาไม่ไหวแน่ เพราะงานหนักแน่นอน เขาไม่ชิน

                นายวิรัตน์ : เป็นเรื่องของระบบการทำงาน บอกว่า KMC จะตายก็ไม่ตาย จะโตก็ไม่โต เราก็ต้องขายของที่มีอยู่เริ่มขายออกไป เริ่มทำโปรเจ็คใหม่ขึ้นมา เรารู้จักคุณยงยุทธ รู้ว่าต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงาน

 

****คุณยงยุทธ เคยทำอะไรมาก่อนค่ะ****

                นายยงยุทธ : จริงๆ แล้วผมเป็นไฟแนนซ์ จบ MBA ไฟแนนซ์ เศรษฐศาสตร์ไฟแนนซ์ ผมก็เป็นเจ้าหน้าที่สินเชื่อมา กระทั่งมาทำงานตำแหน่งสุดท้ายที่ ESTATE ผมดูสินเชื่อพร็อพเพอร์ตี้ สมัยก่อนมีคนดูสินเชื่อพร็อพเพอร์ตี้อยู่ไม่เยอะ แล้วผมเผอิญนั่งๆอยู่ สมัยก่อนมันมีโปรเจ็คไฟแนนซ์ เราก็เป็นคนดู ก็มีมาทำ มาดู ดูสูตร แล้วไม่ชอบ คือผมเนี่ยจะบอกว่าโง่ก็โง่นะ นิสัยของผมไม่สามารถมาเรียนรู้อะไรปลายทางได้ ถ้าเรียนก็ต้องเรียนตั้งแต่ต้น

                โปรแกรมสมัยก่อน ก็ใช้ไม่เป็น ยิ่งตอนปลายต้องมาเจอเขียนสูตรอะไรไม่รู้ยิ่งไม่เข้าใจ ขนาด a-z บรรทัดสัก 100 บรรทัด นี่ก็ว่าเยอะแล้วนะ Floppy Disk ก็ต้องเล็กกว่านี้ อันนิดเดียว แต่เราต้องเขียนเพื่อบันทึกไว้ในนั้นให้หมด ก็เอาสูตรมาเขียนเอง มา บวก ลบ คูณ หาร แล้วเอา มาพิมพ์ๆ จนผมคิดว่าผมเป็นเจ้าพ่อดิสก์ ผมมั่นใจว่าสูตรที่ผมเขียนเด่นแน่นอน จากแรกๆค่อยๆขยายไป จาก a-z แล้วค่อยขยายไป aa ต่อไปเรื่อยๆ เพราะแต่ก่อนคุณเซฟไม่ได้ เซฟในแผ่นๆนี้ไม่ได้ ทำไปทำมาคนเขาก็ชวน  เพราะเราดูส่วนนี้อยู่ ก็ทำมาประมาณ 20 กว่าปี จนกระทั่งย้ายมาทำงานที่ AQ ESTATE ปี 2548-2556 วันนั้นที่ถาม ที่เป็นพีอาร์ใหญ่เคยถาม เขาถามว่าพี่ทำบ้านเดี่ยวเป็นไหม

 

***ไตรมาส 4 ปีนี้มีแผนจะเปิดโครงการใหม่เพิ่มไหม****

                นายยุงยุทธ : ในไตรมาส 4 ปีนี้เราจะเปิดตัวสินค้าที่อยู่ภายใต้แบรนด์ ในปีนี้เราจะแบ่งสินค้าที่เรามีอยู่ แบ่งออกเป็น 2-3 อย่าง คือ  สิ่งที่อยู่ใต้กฤษดานครเดิม เป็นหมู่บ้าน บ้านเดี่ยว เราคงไม่เข้าไปแก้ไขอะไรเดิมๆ แต่เราจะเข้าไปทำภาพลักษณ์ให้มันดีขึ้นก่อน เพราะว่าชื่อมันขายมากว่า 90% แล้ว

***ตอนนี้มีทั้งหมดกี่โครงการ***

                นายวิรัตน์ : ตอนนี้มีทั้งหมด 7 โครงการ อย่าง The Kris ไม่ได้ไปปรับเปลี่ยนโครงการ เราอาจจะมีปรับเปลี่ยน เลเอาท์ สี สินค้า เปลี่ยนข้างใน แต่แบรนด์ไม่ได้เปลี่ยน แล้วยอดมาก็ถล่มทลาย

                นายยงยุทธ : ที่ผ่านมา ได้เปิดตัวโครงการ บางคนก็ถามว่าไม่เห็นมีอะไรเลย ไม่ใช่ว่าลดราคาแล้วขายได้ มันไม่ใช่ แต่เราหา position ของสินค้าใหม่ ตอนนี้ก็ไม่ใช่ราคาอย่างเดียว เราต้องปรับเปลี่ยนไซต์ เปลี่ยนสีโลโก้ เปลี่ยนชุดพนักงาน เปลี่ยนอะไรหลายๆอย่าง

แล้วจะเปิดโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ AQ ESTATE คือ AQ ESTAEE เราตกลงกันแล้วในระหว่างผู้บริหารคณะกรรมการว่าจะเปลี่ยนชื่อกฤษดามหานครเป็น AQ ESTATE ซึ่งจะใช้เป็นทางการก็ต่อเมื่อผู้ถือหุ้นอนุมัติ แต่กรรมการก็อนุมัติให้สามารถใช้ชื่อนี้ได้เลย

****บ้านคือการลงทุน ****

นายยงยุทธ : ตามทฤษฎีนะ.....บ้านมัน คือการลงทุน เพราะฉนั้นเนี่ยทำไมผมถึงสนใจตลาดคอนโดมิเนียมเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ผมคิดว่ามันเป็นการลงทุน  เราจึงเชื่อตรงนี้มาตลอดว่าการซื้อบ้าน บ้านจัดสรร มันคือการลงทุน  มันคือการฝากเงินออม  จริงๆแล้วผมดูตลาด เพราะมันเป็นการออมที่ดีที่สุด บ้านคือการออม

                ทำไมรัฐบาลจึงสนับสนุนการซื้อบ้านที่ดอกเบี้ยต่ำ มันเป็นจิตวิทยา เพื่อให้เราออม เพื่อเป็นการออมที่ดี

***ความแตกต่างของ แบรนด์***

                นายยงยุทธ : แบรนด์ดิ้ง ข้อแตกต่าง เรายึดหลักก็ขอให้มันมีความแตกต่าง ทุกคนคิดอะไรก็ขอให้มีความแตกต่าง ไม่ใช่แค่โปรดักส์ของเรามีความแตกต่างจากคู่แข่ง ทำให้สินค้าของเรามีค่าในอนาคต ตัวอย่างเช่น อันล่าสุดคือ AQ ESTATE หลายคนพยายามจะบอกว่าสร้างตึกสวย แต่ไม่ตอบโจทย์ ไม่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า บางอย่างไม่เหมาะสม พื้นที่เยอะเกินไป จัดการไม่ถูก ห้อง 30 ตาราง เราอาจขยายออกไปเป็น 35 ตารางวา ห้อง 23 เป็น 30 ตารางวา นี่คือ ความลึก ความแข็งแกร่งของเรา เราพยายามให้สินค้าเราออกมาแล้วไม่ตกรุ่น

         ส่วนนี้ที่เราทำมาใหม่คือตัวแบรนด์ดิ้ง ที่เปิดตัวใหม่ เปิดตัวปลายปีนี้ หรือทีเปิดไปแล้ว แถวรัตนาธิเบศร์ 370 ล้าน โครงการบ้านเดี่ยว แถวเรียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา โครงการเลี่ยงเมืองที่      ไบรพาสต์ชลบุรี 935 ล้านบาท แต่ตัวนี้กำลัง delverlop อยู่นะครับ และปัจจุบันคือโครงการที่เราดูแลอยู่ AQ ESTATE ประมาณ 4000 กว่าล้าน การคาดการณ์มันไม่แน่นอน มันมีขึ้นมีลง อย่างโครงการที่อยู่แถวรามอินทรา พึ่งจบไป เปิดปุ๊บวันแรกที่เปิดตัว ก็ขายได้กว่า 80%แล้ว

*** มองตลาดไว้เป็นอย่างไร***

           นายยงยุทธ : บริษัท AQ ESTATE อยู่ได้ก็เพราะตัวนี้ สมัยก่อน 8 ปีที่ผมทำมา โปรเจ็คจะทำมาประมาณ 300 ล้าน ไม่ต้องใช้เงินลงทุน แต่ใช้สมอง จริงๆแล้วก็จะเป็นการทำงานของ AQ ESTATE ตัวใหม่ อยากจะเรียนว่าตอนนี้เราจะต้องทำกำไรได้มากกว่าตลาดชั้นนำในตลาด คงต้องใช้เวลา

*** ปัจจุบันนี้มีเงินสดอยู่เท่าไหร่ครับ***

นายยงยุทธ : เรามีเงินส่วนที่เก็บอยู่ใน Balance sheet ประมาณ 500-600 ล้านบาท คงคาดยอดขายประมาณ 2,400 ล้านบาท มีเป้ารายได้อยู่ที่ 1,400 ล้านบาท ส่วนปีหน้าเรามีเป้าจะขายให้ได้ 3,500 ล้านบาท และก็เป้าที่คาดไว้ก็ประมาณ 2,500 ล้านบาท รายรับส่วนใหญ่จะได้มาจากการพัฒนาโครงการ 2 เปอร์เซ็นต์ รับจ้างพัฒนา บริหาร อยากจะบอกว่าน้อยมาก แต่จริงๆกำไรล้วนๆ คือ 2 เปอร์เซ็นต์ คือราคา net เลยนะ ถ้าจะเล่นในตลาด KMC Banking ประมาณ 30 ในปีหน้าเรา on pre sale นะ หมายความว่า ปีหน้าเราจะ pre sale

 

นายวิรัตน์ ; เรามีอยู่แล้วก็คือตัวแวร์เฮ้าส์ มีโมเดลอยู่แล้ว แต่โมเดลไม่ใช่อันนี้

นายยงยุทธ : ในการรับจ้าง เราใช้หลักมาบริหาร พัฒนาโครงการ เราเรียก delverlop projectment เราถือว่าเราเป็นมืออาชีพ เข้าไปดูงานให้ลูกค้า ส่วนไหนมีปัญหาก็เข้าไปแก้ ผมยังให้เกียรติเจ้าของเก่า ผมเลยไม่เปลี่ยนแปลงอะไรมาก คือตอนนี้เรามาหากิน มาใช้ชื่อบริษัทเดิม KMC เดิม คนเรามันผ่านมาหมดแล้ว มาใช้ร่างเดิมเขาในการทำมาหากิน จะพูดแรงเกินไปก็ไม่ได้ เบาเกินไปก็ไม่ได้ยิน เราต้องพูดประมาณกลาง  แต่คนส่วนใหญ่ยังจำภาพ KMC แต่ตอนนี้เราเปลี่ยนมาเป็น AQ ESTATE แต่ยังมีคนเรียกว่า KMC อยู่ เราจะบอกเขาว่า ให้เรียกเป็นทีมผู้บริหารใหม่ เป็น AQ ESTATE ส่วนสื่อเราต้องบอกเลยว่าขอโอกาสหน่อย เรากำลังจะมาใหม่

**ทิ้งท้ายด้วยว่า ***

     นายยงยุทธ : ในสิ่งที่ผมทำ ผมพยายามทำให้เป็นรูปร่าง ทำให้เห็นเด่นชัดขึ้น

 

 

---จบ---

By :ธนัสสรณ์ เปี่ยมสมบูรณ์/  มินตรา แก้วภูบาล

 

บทความล่าสุด

HotNews: MTC กำไร Q1/67 โต 29.8% ดีกว่าโบรกฯคาด ทั้งปีคาดพุ่ง 22%

MTC ตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่ไมโครไฟแนนซ์มาตรฐานระดับโลก เน้นจุดแข็งความยั่งยืน.....

ชมงบ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ช่วงนี้ คงต้องรอชมนก ชมไม้ เอ้ย รอชม ผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ของบริษัทจดทะเบียน เริ่มทยอย...

CFARM จับมือ APM UOBKH และ BYD ประเดิมโรดโชว์ให้ข้อมูลนักลงทุน จ.ชลบุรี

CFARM จับมือ APM UOBKH และ BYD ประเดิมโรดโชว์ให้ข้อมูลนักลงทุน จ.ชลบุรี

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้