สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (25 เมษายน 2567)-------บริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น จำกัด (มหาชน)(“SPREME”) ธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร อยู่ระหว่างขาย IPO 200 ล้านหุ้น หลัง SPREME ได้รับอนุมัติแบบคำขออนุญาตขายหลักทรัพย์จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เรียบร้อยแล้ว
ล่าสุด SPREME กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวนเสนอขายไม่เกิน 200 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.60 บาท เปิดให้จองซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 23-25 เมษายน 2567 และนับถอยหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 2 พฤษภาคม นี้
SPREME ภายใต้การบริหารของ CEO “ภานุวัฒน์ ขันธโมลีกุล” ยืนยันความพร้อมคาดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) เต็มพิกัด พร้อมสร้างการเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด ดั่งพยัคฆ์ติดปีกธุรกิจแบบ High Growth
เจาะธุรกิจ SPREME ประกอบธุรกิจทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสาร โดยเป็นผู้ออกแบบ จัดหาและติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในงานเทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจร (System Integrator) ทั้งอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ (Hardware) และโปรแกรมซอฟต์แวร์ (Software) รวมถึงให้บริการดูแลบำรุงรักษาและซ่อมแซมระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงหลังการขาย และการให้เช่าระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง ภายใต้การทำงานกับทีมงานของบริษัทฯ ที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถส่งมอบงานที่มีคุณภาพให้ลูกค้ามีความมั่นใจในศักยภาพของบริษัทฯ โดยสามารถแบ่งกลุ่มประเภทธุรกิจได้ 3 ประเภท ดังนี้
1)ธุรกิจจำหน่ายและติดตั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบเครือข่าย (“ธุรกิจจำหน่ายและติดตั้ง”)
บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในงานเทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจร (System Integrator) โดยเริ่มตั้งแต่การออกแบบ จัดหาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ติดตั้ง และให้บริการหลังการขายในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบเครือข่าย แบ่งเป็น 5 กลุ่ม ดังต่อไปนี้
2)ธุรกิจให้บริการดูแลบำรุงรักษาและซ่อมแซมระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง (“ธุรกิจ MA”)
นอกจากการจำหน่ายและติดตั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบเครือข่ายแล้ว บริษัทฯ ยังมีทีมงานที่มีความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ในการให้บริการดูแลบำรุงรักษาและซ่อมแซมระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงเพื่อดูแลให้ลูกค้าสามารถใช้งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับอายุใช้งานของผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นบริการในรูปแบบงานบำรุงรักษาตามรอบระยะเวลา (Preventive Maintenance) และงานแก้ไขปรับปรุง (Corrective Maintenance)
3)ธุรกิจให้เช่าระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง (“ธุรกิจให้เช่า”)
ทีมงานของบริษัทฯ สามารถให้บริการให้คำปรึกษา ติดตั้ง พร้อมทั้งให้เช่าระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงที่เกี่ยวข้องโดยจัดหาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับทั้งในด้านราคาที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อตอบสนองต่อความต้องการใช้งานของลูกค้าและให้บริการตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบตามกำหนดเวลา รวมทั้งซ่อมแซมและเปลี่ยนชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์ (Hardware) ที่จำเป็นซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถประหยัดต้นทุนและใช้งานได้ตลอดเวลา
SPREME มีสัดส่วนลูกค้าหลักจากภาครัฐ ประกอบไปด้วย หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะกลุ่มสถาบันการศึกษาของรัฐ สถาบันการเงินของรัฐ คิดเป็นสัดรายได้ประมาณ 30% ส่วนอีก 70% เป็นกลุ่มลูกค้าภาคเอกชน ซึ่งประกอบไปด้วยบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และบริษัทในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีความรู้ความสามารถในการเข้าประมูลงานกับหน่วยงานภาครัฐ
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงปี 2564-2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 901.64 ล้านบาท และ 1,037.50 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 110.53 ล้านบาท และ 99.24 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราส่วนกำไรสุทธิเท่ากับ ร้อยละ 12.26 และร้อยละ 9.57
ขณะที่ผลการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 1,276.41 ล้านบาท เปรียบเทียบกับรายได้ปี 2565 จำนวน 1,037.50 ล้านบาท โดยการเพิ่มขึ้นของรายได้ดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากการที่บริษัทฯ สามารถประมูลงานโครงการใหญ่ได้แก่โครงการพัฒนาระบบนิเวศน์ศูนย์ดิจิทัลชุมชนอย่างยั่งยืน กิจกรรมที่ 1 จัดให้มีศูนย์บริการอินเตอร์เน็ตสาธารณะ (“ศูนย์ดิจิทัลชุมชน”) ซึ่งมีมูลค่างานสูงถึง 500 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิปี 2566 เท่ากับ 156.59 ล้านบาท สูงกว่าปี 2565 ที่ทำได้ 99.24 ล้านบาท
“ภานุวัฒน์ ขันธโมลีกุล” ซีอีโอ SPREME ระบุว่าการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจของ SPREME สามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม โดยบริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO ไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ 1.เพื่อเป็นเงินทุนรองรับการประมูลโครงการที่มีขนาดใหญ่ 2.เพื่อลงทุนซื้อกิจการเพื่อต่อยอดธุรกิจเดิมของบริษัทฯ (Mergers & Acquisitions) และ 3.เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจและการดำเนินการอื่นใดเพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดต่อบริษัท
"เราเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศโดยเฉพาะทางด้านการศึกษา เรามีพันธมิตรทางธุรกิจ โดยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดจำหน่ายทางด้าน Software นอกจากนี้บริษัทฯ มีการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง และเรามีเป้าหมายขยายการเติบโตในอนาคตไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวของกับเทคโนโลยีสารสนเทศด้วยการทำ M&A ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่จะทำให้เรามีการเติบโตในอนาคตยิ่งขึ้น" นายภานุวัฒน์ กล่าว
โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SPREME หลังการเสนอขายหุ้นต่อประชาชน (IPO) ประกอบด้วย1.นายภานุวัฒน์ ขันธโมลีกุล ถือ 31.08% 2.บริษัท ซีนิธ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ถือ 25.68%
ทั้งนี้ นายภานุวัฒน์ ให้ความมั่นใจว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่พร้อมใจล็อคอัพ 100% และบริษัทฯ มั่นใจว่า ภายหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการทำธุรกิจให้มีการเติบโตมากขึ้น รวมทั้งมีความแข็งแกร่งในด้านฐานะการเงิน และเป็นที่ยอมรับของกลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน ขณะเดียวกัน ทำให้บริษัทฯ สามารถต่อยอดธุรกิจด้วยการทำ M&A เพื่อสนับสนุนความสามารถในการเพิ่มรายได้และผลกำไรให้สูงขึ้น เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ในอนาคต
SPREME มีนโยบายจ่ายเงินปันผลในแต่ละปีในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลของงบการเงินเฉพาะของบริษัทฯ และหลังหักเงินสำรองตามกฎหมาย และเงินสะสมอื่นๆ ตามที่บริษัทฯ กำหนด ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน แผนการลงทุน ความจำเป็นและความเหมาะสมอื่นๆ ในอนาคต ตามที่คณะกรรมการบริษัท และ/หรือผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เห็นสมควร
กล่าวโดยสรุป SPREME คือผู้นำด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสาร โดยเป็นผู้ออกแบบ จัดหา และติดตั้งอุปกรณ์อย่างครบวงจร มีจุดเด่นที่ชวนติดตาม ด้วยธุรกิจอยู่ในเมกะเทรนด์ของโลก ผู้บริหารมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีฯ และธุรกิจ System Integrator มาร่วม 30 ปี และมีวิสัยทัศน์ที่โดดเด่น ที่ดูแล้วมีอนาคตอีกไกล ...
By:อณุภา ศิริรวง
///จบ///
แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ภาคเช้าที่ผ่านมา หุ้นไทยแตะเบรค หลังวานนี้ปรับขึ้นมา แรงซื้อ แรงขาย.....
มารู้จักหุ้น SNPS ก่อน IPO - สายตรงอินไซด์
สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้