สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (1 ธันวาคม 2566)-------บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) หนึ่งในผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)  ภายใต้ เครื่องหมายการค้า “เวิลด์แก๊ส” ที่ปัจจุบันยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 2 ฉายภาพธุรกิจบรรลุเป้าหมายการเติบโตตามเป้าที่วางไว้ รวมทั้งสามารถรักษาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งไว้ได้ โดยบริษัทฯ สามารถสร้างผลตอบแทนผู้ถือหุ้นด้วยการจ่ายปันผลอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ในอัตรา 0.25 บาท/หุ้น สำหรับผลการดำเนินงานของปี 2565

“ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WP กล่าวว่า นับเป็นเวลากว่า 44 ปีแล้วที่ “เวิลด์แก๊ส” ได้ส่งมอบบริการแก๊สปิโตรเลียมเหลว บนพื้นฐานของคุณภาพความปลอดภัยสูงสุด ภายใต้กฎหมาย กฎระเบียบ มาตรฐาน และข้อบังคับต่างๆ อย่างเคร่งครัด กลายเป็นผู้ให้บริการครบวงจรที่ได้รับความไว้วางใจทั้งจากร้านค้า ธุรกิจร้านอาหาร ภาคอุตสาหกรรมและบ้านเรือน ทำให้ภาพรวมธุรกิจรวมถึงผลการดำเนินงานของ WP  ในวันนี้มีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง

จากนโยบายเน้นการบริหารต้นทุนอย่างรัดกุม ควบคู่กับการขยายจุดกระจายสินค้าให้ครอบคลุม เพื่อเจาะภาคครัวเรือนเพิ่ม 

โดยปัจจุบันบริษัทฯ  มีจุดกระจายสินค้าภาคครัวเรือนที่ครอบคลุมถึง 168 แห่งทั่วประเทศ ทำให้สามารถกระจายสินค้าได้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น  ขณะที่ความต้องการใช้ก๊าซ LPG และราคาขายที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ

สำหรับธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ปัจจุบันมีการเซ็นสัญญาไปรวมทั้งสิ้น 11 เมกะวัตต์ จึงทำให้มั่นใจว่าผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ ทั้งในส่วนของกำไร และรายได้จะยังคงเติบโตอยู่ในทิศทางที่ดี และมั่นใจยอดขายปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 800,000 ตัน   ส่วนรายได้รวมคาดว่าจะได้ตามเป้าที่วางไว้ 17,000 ล้านบาท

ล่าสุด WP ได้ปรับอัตลักษณ์องค์กรและผลิตภัณฑ์ใหม่  มุ่งสู่การเป็น 1 ในผู้นำธุรกิจพลังงานแบบครบวงจรของไทยที่ขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้พลังงานของการคิดบวก พร้อมด้วยแนวคิด Positive Progress ที่เชื่อมั่นในความเป็นไปได้ที่จะปรับปรุง พัฒนา และทำให้คุณภาพชีวิตของคนไทยดีขึ้นได้ในทุกวันอย่างยั่งยืน โดยการให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าผ่านหัวใจหลักสำคัญทั้งสาม ได้แก่ 1.Operate with Sincerity (ร่วมมือกันอย่างจริงใจ) 2.Innovative Services (คิดค้น เพื่อยกระดับคุณค่า)  และ 3.Agile & Collaborative (เปิดรับและปรับตัว)

อีกทั้งในปีนี้ บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงปัจจัยรอบด้านที่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจในโลกยุคปัจจุบัน ด้วยการนำเรื่อง ESG : Environment, Social and Governance ( ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม) เข้ามาปรับใช้ในกระบวนการทางธุรกิจ และรวมอยู่ในแผนยุทธศาสตร์หลักของบริษัท โดยนำมาใช้ในการวิเคราะห์ ประเมินความเสี่ยง และบริหารจัดการเพื่อสร้างโอกาสในธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

บริษัทฯ ยังคงมีเป้าหมายที่จะรักษาอัตราการเติบโตของผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ไตรมาส เห็นได้จากผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566) มีกำไรสุทธิ 24.07 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 4,503.31 ล้านบาท และมี EBITDA อยู่ที่ 148.90 ล้านบาท   

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2566 คาดว่าจะเติบโตอยู่ในทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก ตามความต้องการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงธุรกิจพลังงานยังขยายตัวอยู่ในทิศทางที่ดี  ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ขณะที่ราคาก๊าซ LPG ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาในตลาดโลก