สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (14 กันยายน 2566)-------บริษัท ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) SINO ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศอย่างครบวงจรสัญชาติไทย ที่ให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเลรายใหญ่ในเส้นทางไทย-สหรัฐอเมริกา เป็น IPO น้องใหม่ที่เตรียมเข้าเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใต้การนำของซีอีโอหนุ่มไฟแรง "นันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์"
ธุรกิจของ SINO มีโครงสร้างการดำเนินธุรกิจที่ไม่ซับซ้อน โดยธุรกิจหลัก (Core Business) คือให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศอย่างครบวงจร (Integrated Logistics Services) ประกอบด้วยการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางทะเล (Sea Freight) ทางอากาศ (Air Freight) และการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Multimodal Transport Operation) เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ที่มีความต้องการบริการขนส่งสินค้าตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางทั่วโลก (End - to - End Global Logistics) รวมถึงการให้บริการให้เช่าคลังสินค้า การให้บริการขนส่งทางบก การให้บริการด้านพิธีการศุลกากร และบริการอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศอย่างครบวงจร โดย SINO มีบริษัทลูก 2 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท อินเตอร์ คอนเนคชั่นส์ โลจิสติกส์ จำกัด และบริษัท เอสเอ็นซี คาร์โก้ (ประเทศไทย) จำกัด
ความน่าสนใจของ SINO คือมีปริมาณการขนส่งสินค้าทางทะเล (Sea Freight) เส้นทางไทย-สหรัฐอเมริกา อยู่ในอันดับที่ 6 ของบริษัทที่มีการขนส่งสินค้าทางทะเลเส้นทางไทย-สหรัฐอเมริกา ในปี 2565 ขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศสัญชาติไทยแล้วนั้น บริษัทฯ มีปริมาณการขนส่งสินค้าทางทะเลเส้นทางไทย-สหรัฐอเมริกาเป็นอันดับ 1
"นันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์" เล่าให้ทีมข่าวหุ้นอินไซด์ว่า SINO มีรายได้หลักจากการให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเลคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 97% ของรายได้รวม เป็นการขนส่งเส้นทาง ไทย-สหรัฐอเมริกา คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 70% ของรายได้การให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเล โดยปีที่ผ่านมา SINO มีปริมาณขนส่งสินค้าเส้นทาง ไทย-สหรัฐอเมริกา มากกว่า 15,000 ตู้ อยู่ในอันดับ 6 ของโลก และอันดับ 1 เมื่อเทียบกับบริษัทสัญชาติไทยด้วยกัน
SINO มีเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วโลก เนื่องด้วยมีเส้นทางขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางทะเลมากกว่า100 ประเทศ ตลาดหลักคือ เส้นทางไทย-อเมริกาเหนือ มีสัดส่วนการขนส่งประมาณ 70% เส้นทางไทย-เอเชีย มีสัดส่วนการขนส่งประมาณ 20% และเส้นทางไทย-ยุโรป มีสัดส่วนการขนส่งประมาณ 10% และอื่นๆ เช่นละตินอเมริกา ออสเตรเลีย มีสัดส่วนประมาณ 1-2%
ไฮไลท์ คือ SINO มี OTI License(Ocean Transport Intermediary) จาก Federal Maritime Commission(FMC) และได้วางหลักประกันFMC Bond จึงสามารถทำสัญญาการบริการกับสายเดินเรือในการขนส่งสินค้าไปยังประเทศแถบโซนอเมริกาเหนือได้ด้วยตนเอง ถือเป็นข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันที่เหนือกว่าคู่แข่ง ทำให้SINOสามารถนำเสนอโซลูชันการให้บริการขนส่งสินค้าทั้งในรูปแบบการขนส่งแบบเต็มตู้ (Full Container Load:FCL) และแบบไม่เต็มตู้ (Less Than Container Load:LCL) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ตรงตามระยะเวลาที่กำหนด
"OTI License สามารถขนส่งสินค้าจากประเทศไทยไปสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดเด่นของเรา ทำให้มีความสามารถไปเซ็นสัญญากับสายการเรือเพื่อจะล็อควอลุ่มที่จะส่งออก และเรื่องของราคาที่จะมีช่วงความหนาแน่นมาก กับความหนาแน่นน้อยตรงนี้ทำให้ราคาของ SINO ในตลาดค่อนข้างจะดี และยังมี Space ของเรือที่ค่อนข้างเยอะ แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้เราก็ต้องสร้างความน่าเชื่อถือกับสายการเดินเรือโดยการรักษาCommitment อย่างตรงไปตรงมา" นายนันท์มนัส กล่าว
ผลประกอบของ SINO ปี 2563 มีกำไรสุทธิ 23.35 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้น 14.93% ปี 2564 มีกำไรสุทธิ 319.03 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้น 18.64% ขณะที่ปี2565 ที่ผ่านมา SINO มีกำไรสุทธิ 691 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดด 119% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีอัตรากำไรขั้นต้น22.79% เนื่องจากได้ปัจจัยบวกค่าระวางเรือที่ปรับตัวสูงขึ้น
แม่ทัพใหญ่ SINO กล่าวด้วยว่ากลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่สร้างการเติบโตให้ SINO คือการทำตลาดเชิงรุก ทำให้บริษัทฯ สามารถมีมาร์เก็ตแชร์จากตลาดสหรัฐอเมริกาให้มีการเติบอย่างรวดเร็วในระยะเวลาเพียง 5 ปีแรก ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในทีมบริหาร เนื่องจากตลาดอเมริกาถือว่ามีความซับซ้อนสูง และเมื่อไปขยายตลาดอื่นๆ ก็สามารถทำได้ง่ายขึ้น เช่นยุโรป หรือเอเชีย ประกอบกับบริษัทฯ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับสายการเดินเรือ ทำให้ SINO เติบโตได้เร็ว และบริษัทฯ ได้วางเป้าหมายการเติบโตของผลประกอบการเติบโตเฉลี่ย 20% ต่อปี โดยในแผน 5 ปีที่บริษัทฯ ได้วางไว้คือสัดส่วนรายได้จากทางอากาศคาดว่าปีหน้าจะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 7% และ Cross Border จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน
SINO นับถอยหลังเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 292 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ซึ่งประกอบด้วย (1) หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัทฯ จำนวน 240 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 23.08 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ และ (2) หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยนายเถิ่งฟ้ง เหยิ่ง จำนวนไม่เกิน 52 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 5.00 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้
SINO กำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ในราคาหุ้นละ 1.40 บาทต่อหุ้น เตรียมเปิดให้นักลงทุนจองซื้อระหว่างวันที่ 13-15 กันยายนนี้ โดยคาดว่าจะนำหลักทรัพย์ของ SINO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 20 กันยายนนี้ ในหมวดธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์
วัตถุประสงค์การระดมทุน บริษัทฯ จะนำเงิน IPO ขยายพื้นที่บริการรับฝากตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ และลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและกลุ่มประเทศ ASEAN และลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนำเงินเป็นทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ และเพื่อรองรับการขยายกิจการ
"เรามีแผนนำเงิน IPO ไปพัฒนาลานตู้สินค้าที่มาบตาพุดเพื่อปรับปรุงลานให้เป็นลานมาตรฐานสามารถวางตู้ ISO TANK และสามารถเป็นลานเก็บได้ อีกส่วนหนึ่งคือจะไปร่วมลงทุนกับพันธมิตรในกลุ่มประเทศ ASEAN เพราะเรามี OTI License ซึ่งสามารถทำสัญญากับสายการเดินเรือได้ทุกประเทศในเอเชีย ทำให้มีความตั้งใจขยายสาขาไปในกลุ่มประเทศ Southeast Asia เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม ลาว กัมพูชา ซึ่งจะทำให้เราสามารถขนส่งสินค้าจากประเทศเหล่านี้ไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาได้ ทำให้ภาพของ SINO จะเป็น Hub ของภูมิภาคนี้ได้" นายนันท์มนัส กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SINO กล่าวด้วยความมุ่งมั่นว่าการเข้าระดมทุนของ SINO จะนำมาซึ่งโอกาสในการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากธุรกิจอยู่ในเมกะเทรนด์ที่มีโอกาสการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และการเข้าระดมทุนยังเป็นการติดปีกธุรกิจให้ SINO ขยายธุรกิจทุกรูปแบบทั้ง Organic Growth และ Inorganic Growth ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการศึกษารายละเอียดร่วมทุนในธุรกิจ Air Freight เพื่อที่จะผลักดันผลประกอบการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป
////จบ////
By:อณุภา ศิริรวง
4 เทพหุ้น ผ่ากลยุทธ์การลงทุน เดือนกันยายน2567 หลังSET ทะลุ1,400 จุด บล.ทิสโก้ แนะเล่น ขนาดใหญ่ ด้านกูรูทรีนีตี้
FTI ปันน้ำใจบรรเทาภัยน้ำท่วม บริจาคถุงยังชีพ ผู้ประสบภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้