Today’s NEWS FEED

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ : I2 หุ้น ICT อินเทรนด์ อัพไซด์สูง ธุรกิจเข้าสู่ Stage Growth

12,207

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (03 สิงหาคม 2566)-----บมจ.ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ (I2) หุ้นน้องใหม่ป้ายแดง ผู้นำธุรกิจให้บริการ System Integration (SI) ครบวงจร ภายใต้จุดแข็งพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง MFEC และคู่ค้ารายใหญ่ THCOM เตรียมเข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ วันที่ 8 เดือน 8 มาพร้อมกับ Backlog เฉียด 1 พันล้านบาท และโอกาสได้งานใหม่ที่ปีนี้เข้าร่วมประมูล 4-5 พันล้านบาท สนับสนุนธุรกิจเข้าสู่ Stage Growth  โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายสูงสุด 3.84 บาท/หุ้น

 

ถือว่ามีอัพไซด์ให้เล่นพอสมควรกับหุ้นน้องใหม่ I2 ราคาขายไอพีโอที่ 2.70 บาท/หุ้น หากเทียบราคาเป้าหมายที่ให้ไว้สูงสุดที่ 3.84 บาท/หุ้น หรือมีอัพไซด์กว่า 42.42%

 

ทั้งนี้ I2 ขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนหุ้นที่เสนอจำนวน 120 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 28.57% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯได้กำหนดราคาขายหุ้นIPO ในราคาหุ้นละ 2.70 บาท/หุ้น เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 8 สิงหาคมนี้ ในกลุ่มอุตสาหกรรม เทคโนโลยี (TECH)

 

“วัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทเตรียมนำเงินไปลงทุนในงานบริการโครงการขนาดใหญ่แก่ ลูกค้า นำไปใช้ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัท และที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อสร้าง New S Curve รองรับแผนการเติบโตในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า รวมถึงเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) สนับสนุนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต”นายอธิพร ลิ่มเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) (I2) ให้ความเห็น

 

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินราคาเหมาะสมหุ้น I2 ณ สิ้นปี 2567 ที่ 3.84 บาทต่อหุ้น อิง PER 15.0x ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยของกลุ่ม System Integrator จุดเด่นของ 12 คือการเป็นผู้เล่นที่มีขนาดเล็กทำให้มีโอกาสเติบโตอีกมากหากมีเงินทุนเพิ่มเติม การมี Synergy จากผู้ถือหุ้นอย่าง MFEC ในด้าน Knowhow และมีรายได้จากธุรกิจบริการอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกลรองรับในช่วง 3 ปีจากนี้ คาดการณ์กำไรปกติของ I2 ในปี 2566-2568 ที่ 76 ล้านบาท 108 ล้านบาท และ 126 ล้านบาท ตามลำดับ หรือคิดเป็นการเติบโตของกำไรปกติปี 2566-2568 ที่ 5%, 41%, และ 17% ตามลำดับ

 

ทั้งนี้ การเติบโตเด่นในปี 2567-2568 หนุนจากรายได้ที่เติบโตจากเงิน IPO ที่ทำให้บริษัทฯสามารถประมูลงานภาครัฐได้เพิ่มเดิม ส่วนการเติบโตในปี 2566 หนุนจาก Backlog ณ สิ้น Q1/66 ในมือที่แข็งแกร่งราว 1.0 พันล้านบาท

 

ทั้งนี้ I2 ประกอบธุรกิจให้บริการโซลูชั่นระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัลเป็นหลัก บริษัทมีรายได้ในปี 2565 ราว 936 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากงานรับเหมาด้าน IT หรือ SI คิดเป็นราว 71% ของรายได้ปี 2565 ซึ่งธุรกิจ SI ของ I2 จะเน้นงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจเกือบทั้งหมด งานที่บริษัททำได้มีความหลากหลาย เช่น การสร้าง Data Center การทำระบบโครงข่าย งานสายสื่อสาร หรืองานด้านระบบ Enterprise Cyber Security เป็นต้น

 

ส่วนรายได้หลักอีกราว 25% ต่อปี มาจากการให้เช่าช่องสัญญาณดาวเทียม และจัดหาอุปกรณ์สำหรับบริการอินเทอูร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกล (USO) โดยบริษัทเป็นคู่ค้าสำคัญกับ THCOM ในการให้บริการกับผู้ชนะการประมูลพื้นที่ดังกล่าวจาก กสทช. รายได้จากการให้บริการส่วนนี้จะมีอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2568 หรือจนกว่าจะหมดสัญญา USO

 

นอกจากนี้ บริษัทมีธุรกิจกลุ่มพลังงานราว 1% ของรายได้ปี 2565 แม้ไม่มากเพราะไม่มีงานใหมในช่วงสั้น แต่ในปี 2564 รายได้จากธุรกิจพลังงานอยู่ที่ 119 ล้านบาท (9% ของรายได้รวม) หลักๆ จากโครงการประหยัดพลังานไฟถนนประเภทโคมไฟเสาสูงกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

 

ในอนาคตคาดบริษัทใช้เงินทุนจาก IPO ประมูลงานด้านธุรกิจพลังงานเพิ่มเติม ขณะที่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Digital transformation เช่น Big Data หรือ E-Document อยู่ในช่วงเริ่มต้นมีรายได้ราว 24 ล้านบาทในปี 2565

 

นอกจากนี้ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน)(MFEC) ที่เน้นงานเอกชน ยังเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ I2 ในสัดส่วน 15% โดย MFEC เข้ามาลงทุน 12 ตั้งแต่ปี 2563 และจะรักษาสัดส่วนการลงทุน 15% หลังเข้าตลาดโดยจะเป็นการซื้อ Big Lot จากผู้บริหารที่ราคา IPO ซึ่งการดำเนินธุรกิจระหว่าง MFEC ไม่แข่งขันกันโดยตรง เพราะอยู่คนละตลาด โดย MFEC  เน้นงานเอกชน ขณะที่ I2 เน้นงานภาครัฐ

 

บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด ให้ราคาเป้าหมาย I2 ปี 2567 ที่ 3.42 บาท/หุ้น โดยใช้วิธี Relative PE เทียบกับหุ้นที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกับบริษัทฯ เช่น AIT ,MFEC ,TPS ,ITEL และGABLE ซึ่งมี PE เฉลี่ยที่ 14.15 เท่า

 

ทั้งนี้ คาดกำไร 2-3 ปี ถูกขับเคลื่อนจากเทรน Digital Transformation และ Smart Grid เราคาดกำไรสุทธิปี 2566 - 2568 ที่ 82.95 ล้านบาท , 103.83 ล้านบาท และ 97.13 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตที่ 84.43% ,25.16% และ -6.46% ตามลำดับ

 

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินมูลค่าพื้นฐาน ณ สิ้นปี 2567 ที่ 3.10 บาทหุ้น ด้วยวิธี PE ที่ระดับ x (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PE ย้อนหลัง 3 เดือนของหุ้นในกลุ่ม ซึ่งอยู่ที่ 15x) โดยเรามองว่าเป็นวิธีที่มีความเหมาะสมเนื่องจากสะท้อน

 

I2 ถือเป็นหุ้นผู้นำธุรกิจให้บริการ System Integration (SI) ครบวงจร ที่มุ่งสู่ New S Curve จากการขยายการลงทุนในธุรกิจด้านพลังงาน และ Digital Transformation ซึ่งอยู่ในเมกะเทรนด์ ผลักดันธุรกิจในช่วง 1-3 ปีข้างหน้าเข้าสู่ Stage Growth สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนในฐานะหุ้น Hybrid ที่มีทั้ง Growth  และ Dividend เรียกได้ว่าครบเครื่องเลยทีเดียว!

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

เก็งกำไรงบ บจ. By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม มองห้วงการเก็งกำไร ประเด็นงบไตรมาสแรกปีนี้ น่าจะเป็นสตอรี่ที่นักลงทุน ให้น้ำหนักการเก็งกำไร หรือ แม้งบอาจ...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้