ในสภาวะที่ตลาดหุ้นยังมีความผันผวนจากหลายปัจจัย หุ้นบริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE อาจเป็นหุ้นอีกตัวที่น่าจะเหมาะสำหรับการทยอยเก็บเพื่อหาโอกาสจากผลตอบแทนที่ดี โดย ACE เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรายใหญ่ของประเทศ มีโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดตามเทรนด์โลกเกือบครบทุกประเภท ซึ่งสามารถทำกำไรสุทธิในช่วง 3 ปีหลังได้สูงกว่า 1,200 ล้านบาทมาโดยตลอด

    เมื่อพิจารณาช่วงต้นปี 2566 ที่ผ่านมา พบว่าบริษัทฯ มีการเติบโตที่ค่อนข้างโดดเด่นมีความคืบหน้าเชิงบวกส่งผลต่อพัฒนาการสำคัญในอนาคตของบริษัทฯ หลายส่วน ได้แก่ 1.โรงไฟฟ้าชุมชน 18 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 59.00 MW และกำลังการผลิตเสนอขายรวม 50.00 MW ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่สำคัญทั่วประเทศ ได้แก่ เชียงราย กำแพงเพชร บุรีรัมย์ ราชบุรี ลงนาม PPA กับ กฟภ. ไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 และอยู่ระหว่างเดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้าเพื่อจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ ภายใน 36 เดือน ตามกำหนดในสัญญา

    2.ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนสําหรับพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน ในโครงการพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565 - 2573 จํานวน 18 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตเสนอขาย (PPA) รวม 112.73 เมกะวัตต์ และ 3 ได้ลงนาม PPA ใน 2 โรงไฟฟ้าขยะชุมชนของ อบต.เชียงหวาง อุดรธานี และ อบต.โชคชัย นครราชสีมา กำลังการผลิตติดตั้งรวมทั้ง 2 โครงการอยู่ที่ 18.9 MW กำลังการผลิตเสนอขายรวมทั้ง 2 โครงการอยู่ที่ 15.75 MW

    ส่งผลให้ปัจจุบันกำลังการผลิตติดตั้งรวมของ ACE พุ่งไปมากกว่า 649.79 MW เป็นที่เรียบร้อย แบ่งเป็นการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ หรือ COD แล้วจำนวน 23 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 257.57 MW และที่อยู่ระหว่างก่อสร้างอีกจำนวน 53 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวมมากกว่า 392.22 MW

    เมื่อพิจารณา Pipeline โครงการต่างๆของ ACE พบว่า ที่ผ่านมาโตไปข้างหน้าแบบเงียบๆ มาตลอด ล้วนแล้วแต่เป็นสัมปทานระยะยาวสร้างรายได้มั่นคง ขณะเดียวกันก็มีข้อมูลทางการเงินที่น่าสนใจ แม้ราคา P/BV หรือ Price/Book Value อยู่ที่ 1.37 เท่า ส่วน P/E Ratio อยู่ที่ 16 เท่า แต่เมื่อพิจารณาองค์ประกอบอื่นๆ พบว่า ACE มีโรงไฟฟ้าเกือบครบทุกประเภทและอยู่ระหว่างลงทุนก่อสร้างอีกกว่า 20 แห่ง แต่ D/E ยังอยู่ที่ประมาณ 0.4 เท่า เท่านั้น ซึ่งเมื่อเปิดขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ตามแผนจะช่วยเพิ่มกระแสเงินสดเข้ามา ทำให้ยังสามารถเดินหน้าลงทุนใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง

    สำหรับแผนในอนาคต ACE ยังรอการเข้าร่วมประมูลจากภาครัฐในโครงการโรงไฟฟ้าจากขยะชุมชนในรูปแบบ Feed-in-Tariff (FiT) เช่นเดียวกับการประมูลโครงการพลังงานหมุนเวียน สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง ระยะที่สอง จำนวน 3,668.5 MW ที่ภาครัฐเตรียมในอนาคต ACE ก็แสดงความสนใจและพร้อมที่จะเข้าร่วมประมูล

    ส่วนโครงการในต่างประเทศ ยังมีการมองหาดีลใหม่ๆ ต่อเนื่อง และจากที่ล่าสุดรัฐบาลเวียดนามอนุมัติแผน PDP8 เพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้ามากถึง 150,489 MW โดยให้ความสำคัญกับพลังงานหมุนเวียน ซึ่งเป็นงานถนัดของ ACE จึงคาดว่าเป็นโอกาสที่ ACE จะออกเดินทางเข้าไปชิงเค้กก้อนนี้ด้วย และขณะที่ประเทศอื่นๆ อย่างอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ที่หากเปิดประมูลในด้านพลังงานสะอาด ก็พร้อมเข้าไปร่วมประมูลเพื่อสร้างโอกาสตรงนี้เช่นกัน

    นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างมองหา New S-Curve เข้ามาต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่ม เสริมความมั่นคงทางธุรกิจ อาทิ คาร์บอนเครดิต และใบรับรองเครดิตการผลิตพลังงานหมุนเวียน ในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Ecosystem ของธุรกิจพลังงานสีเขียว ช่วยย้ำจุดยืนในการมุ่งสู่ “ต้นแบบผู้นำด้านธุรกิจพลังงานสะอาดของโลก”

โบรกฯ มองเป้า 3.60 - 3.76 บาท
    บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ จัดทำบทวิเคราะห์ประเมินหุ้น ACE เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2566 ยังคงมูลค่าหมาะสมไว้ที่ 3.60 บาทต่อหุ้นสำหรับปี 2567 ประเมินจากมูลค่าโรงไฟฟ้าที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ายืนยันแล้วและโรงไฟฟ้าที่กำลังจะมีการลงนาม PPA ในอนาคต ขณะที่ปัจจุบันหุ้น ACE เทรดที่ P/E ปี 2567 เพียง 12.2 เท่า คาดว่ากำไรปกติจะทำได้ 1,757 ล้านบาท เติบโต 39.33% เทียบกับปี 2566  

    ขณะที่ บทวิเคราะห์ของ บล.กสิกรไทย เมื่อวันที่ 20 เม.ย.2566 คงคำแนะนำ "ซื้อ" ACE ด้วยราคาเป้าหมาย ที่ 3.76 บาท โดยอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนที่มีกำลังการผลิตรวม 271 MW คาดเริ่มดำเนินการภายในปี 2568 นอกจากนี้ยังชนะการประมูลโครงการพลังงานหมุนเวียนครั้งล่าสุดด้วยกำลังการผลิตรวม 112 MW ที่จะช่วยหนุนกำไรระยะยาว พร้อมได้ประเมินทิศทางในอนาคตของ ACE ว่า หากสามารถ COD ของ 34 โครงการในปี 2568 จะทำให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือ ขยายเป็น 528 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็น 2 เท่าของระดับปัจจุบัน และจะส่งผลให้กำไรของปี 2568 จะโตขึ้นกว่าเท่าตัวไปสู่ระดับ 3,850 ล้านบาท จากปี 2566 ที่คาดว่ากำไรจะอยู่ระดับประมาณ 1,365 ล้านบาท  

    เมื่อพิจารณาปัจจัยต่างๆ รวมถึงกำไรสุทธิในช่วง 3 ปีหลังที่ทำได้สูงกว่า 1,200 ล้านบาทมาโดยตลอด ACE จึงถือเป็นหุ้นพลังงานอีกตัวที่เก็บน่าสะสมเหมาะสมกับนักลงทุนที่ต้องการหุ้นปลอดภัย เพราะในช่วงนี้ถือได้ว่ามีราคาที่ไม่แพง เมื่อเทียบกับการเติบโตระยะยาวในอนาคตตาม Pipeline รวมทั้งมีความมั่นคงทางด้านการเงินของบริษัทฯ ที่ปัจจุบันถือเป็นอีกปัจจัยประกอบที่นักลงทุนควรพิจารณา

-- จบ --