Today’s NEWS FEED

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

สัมภาษณ์พิเศษ : UBE หุ้นเมกะเทรนด์ที่ต้องจับตา

26,197

 

 

หุ้นอินไซด์ -บมจ.อุบล ไบโอ เอทานอล หรือ  UBE  ถือเป็นธุรกิจที่น่าติดตาม เพราะไม่ใช่แค่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมันสำปะหลังแบบครบวงจรรายใหญ่ของประเทศไทย แต่ธงของ  UBE  มุ่งมั่นจะยกระดับเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในธุรกิจอาหารระดับโลก (Food Tech)  ซึ่งถือว่าเป็นเมกะเทรนด์ที่ต้องจับตา   ซึ่งวันนี้ทีมข่าวหุ้นอินไซด์ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ "เดชพนต์ เลิศสุวรรณโรจน์"  แม่ทัพใหญ่ UBE  ที่จะเปิดเผยวิสัยทัศน์ และเป้าหมายธุรกิจที่จะสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงในระยาว  ขอเชิญติดตามพร้อมๆ กัน....

 

 

 

นายเดชพนต์ เลิศสุวรรณโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) (บริษัท) หรือ UBE  ระบุว่าจุดเด่นธุรกิจของ UBE คือมี 3 ธุรกิจหลัก ธุรกิจที่หนึ่งมีความมั่นคงสูง คือธุรกิจเอทานอล, ธุรกิจที่สอง ผลิตและจำหน่ายแป้งมันสำปะหลัง ซึ่ง ถือเป็นผู้ผลิตและส่งออกแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิครายใหญ่ของโลก และธุรกิจที่สามที่กำลังเติบโตอย่างธุรกิจเกษตรอินทรีย์

 

 

สินค้าที่เป็น Key Success ของ UBE  ที่โดดเด่นมากที่สุด คือเอทานอลเกรดอุตสาหกรรม ซึ่งบริษัทฯ สามารถผลิตออกมาเพื่อสอดรับกับความต้องการผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด/ฆ่าเชื้อ ในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาดอยู่ในตอนนี้  ที่มีความจำเป็นที่ต้องใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อสำหรับทำความสะอาดมือ บริษัทฯ สามารถปรับตัวและใช้เทคโนโลยีปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ต้องการของตลาด และราคามิตรภาพหาซื้อได้ทางออนไลน์ และร้านค้าที่จัดจำหน่ายภายใต้ตราสินค้า “UBON BIO”

 

 

 

"แป้งมันสำปะหลังออร์แกนิค ต้องบอกเลยว่าตอนนี้เราเป็นเบอร์1 ของการขายแป้งมัน แม้ว่าจะเป็นช่วงโควิด-19 แต่ยอดขายแป้งมันออร์แกนิคกลับโตขึ้นถึง 2 เท่า เราก็สอบถามลูกค้าเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น  เกิดจากกลุ่มลูกค้าหลักเราซึ่งเป็นลูกค้ายุโรป อเมริกา เขามองว่าการทานอาหารที่มาจากวัตถุดิบธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่งสารเคมี จะช่วยทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกัน กลายเป็นว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้เข้ากับยุคสมัย"  นายเดชพนต์  กล่าว

 

 

แม่ทัพใหญ่ UBE เล่าเรื่องการผลิตแป้งมันออร์แกนิคให้ทีมข่าวหุ้นอินไซด์ฟังเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญในการผลิตผลิตภัณฑ์แป้งมันออร์แกนิค ตลอดซัพพลายเชน คือเริ่มที่ต้นนำก็จะต้องไม่มีสารเคมี เช่น ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้า นอกจากจะทำให้ดินเสียแล้ว สินค้าที่ผลิตออกมาก็จะมีสารปนเปื้อน ดังนั้นการทำให้ผลิตภัณฑ์ปลอดสารเคมี ตั้งแต่ต้นนำ จะต้องมีการตรวจสอบย้อนกลับที่ต้องได้รับการตรวจรับรองจากหน่วยงานผู้ตรวจที่ลูกค้ายอมรับ คือมาตรฐาน USDA EU ซึ่งบริษัทฯ ได้ใบรับรอง ( Certificate ) ต่อเนื่องมาตลอดตั้งแต่เริ่มโครงการในปี 2559

 

 

"จากความต้องการของลูกค้า ทำให้  Business Model ของเราเปลี่ยนไป จากเดิมที่ขายสินค้าแบบ Community แบบที่มีกำไรไม่ค่อยเยอะมาก อย่างแป้งมันสำปะหลังแบบธรรมดา คือยังใช้สารเคมีในการปลูกอยู่ เราพยายามปรับตัวมาเรื่อยๆ โดยการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ด้วยการทำวิจัยและพัฒนาร่วมกับสถาบันการศึกษา สามารถเต่อยอดสินค้าให้มีมาร์จิ้นและมูลค่าที่สูงขึ้น คุณภาพดีขึ้น ดังนั้นถ้ามองย้อนกลับไปจะเห็นว่าตัวมาร์จิ้นของเราจะค่อยๆปรับตัวดีขึ้น ไม่ค่อยสวิงแล้ว พอสัดส่วนรายได้สูงขึ้น ความผันผวนของรายได้ก็ลดลง ซึ่งในอนาคตเราก็จะได้เห็นตัวสินค้าของบริษัท ไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาหาร อันนี้ก็เป็นการปรับเปลี่ยนอีกอย่าง จากผู้ผลิตกลางนำเป็นผู้ผลิตสินค้าแบบปลายน้ำที่มียี่ห้อของเราเอง ทั้งกลุ่มธุรกิจเอทานอล และแป้ง ต้องรอติดตามในต้นปีหน้าก็จะได้เห็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาครับ"  นายเดชพนต์  กล่าว 

 

 

 

หลังจากปลุกปั้นแป้งมันสำปะหลังธรรมดาให้มีมูลค่าสูงขึ้นแล้ว บริษัทฯ ก็มองหาผลผลิตอื่นๆจากเกษตรอินทรีย์ด้วย ซึ่งขณะนี้เราได้เปิดตัว คือ กาแฟออร์แกนิค  ซึ่งมีการทำสัญญากับเกษตรกรประมาณ 700 ไร่ อยู่ที่ สปป.ลาว แขวงสาละวัน ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกกาแฟที่ไม่ใช้สารเคมี มีการตรวจรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สากล ดังนั้น ในธุรกิจที่สามเกษตรอินทรีย์นี้ ยังคงมุ่งเน้นกระบวนการปลอดสารเคมีระดับสากล เพื่อให้ลูกค้าได้บริโภคผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคที่หลากหลายมากขึ้น

 

 

 

ส่วนข้าวอินทรีย์คาดว่าจะเปิดตัวในปี2565 เพราะกำลังดำเนินการอยู่ในประเทศไทยตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ประเทศไทย และยกระดับให้เป็นมาตรฐานระดับสากลด้วย ซึ่งเป็นจุดที่บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าเกษตรอินทรีย์ที่เป็นพรีเมี่ยม ยังมีรูมการเติบโตได้อีกมาก

 

 

 

"ต้องบอกว่าในวันนี้กระแสของเกษตรอินทรีย์ หรือความต้องการบริโภคผลผลิตที่ไม่มีสารเคมีกำลังมาแรง รวมถึงในวงการเกษตรบ้านเราเองก็เริ่มจะแบนการใช้สารเคมีแล้ว เพราะเกษตรกรผู้ปลูกก็ได้รับผลกระทบจากการใช้สารเคมีจนทำให้สุขภาพร่างกายของตัวเองไม่ค่อยดี ส่วนต่อมาคือสารเคมีทำให้ดินเสีย น้ำเสีย ทำให้พื้นที่เกษตรเสียหาย ก็ถือว่าการให้มาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นทำให้ เทรนด์ของการเกษตรต้องคลีนมากยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ผมย้ำอยู่เสมอคือเราจะต้องทำมาตรฐานของสินค้าให้ได้ระดับยุโรป สหรัฐอเมริกาให้ได้ เพราะเป็นตลาดใหญ่ มีคนพร้อมยินดีที่จะซื้อสินค้าเหล่านี้อยู่แล้ว พร้อมได้ราคาที่ดีด้วย"  นายเดชพนต์  กล่าว  

 

 

มองไปในอนาคต บริษัทฯ  จะเป็นผู้สร้างกระแสอาหาร  gluten free (อาหารที่ปราศจากกลูเตน)  ด้วยแบรนด์สินค้าอาหารของตนเอง เริ่มจากแคมเปญทางการตลาดที่จะดึงเชฟที่มีชื่อเสียงและประสบการณ์ตรงในการแพ้กลูเตน มาช่วยประชาสัมพันธ์ว่า  gluten free คืออะไร  เพราะในต่างประเทศแพ้กลูเตนกันมาก และเป็นการแพ้แบบฉับพลันกระแสนี้กำลังมาแรงมากแต่ในไทยอาจจะยังไม่คุ้นหู   ตรงนี้อยากจะให้ติดตามเรื่องของการลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตในส่วนของผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค รวมถึงการสร้างตราสินค้าที่เป็นออร์แกนิค และอาหารที่ปราศจากกลูเตน รวมถึงจะเห็นพันธมิตรมากมายของบริษัททั้งร้านอาหาร คาเฟ่ และโรงแรมต่างๆ ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ สร้างสรรค์อาหารที่ดีต่อสุขภาพและอร่อย

 

 

สำหรับเป้าหมายการเติบโตไตรมาสสุดท้ายของปี2564 ก็ยังมีทิศทางสวยงาม เชื่อว่าทั้งปีนี้ทำรายได้ทะลุ 6,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน  โดย3ไตรมาสที่ผ่านมาทำได้แล้วกว่า5,000ล้านบาท

 

ส่วนปี2565  บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตเบื้องต้นที่ 15% จากปี2564 หรือราว 7,000 ล้านบาท เพราะยังมีเวลาให้ทำงานต่ออีกพอสมควร แต่ระยะยาวมองว่าภายใน 3-5 ปี จะต้องมียอดขายทะลุ 10,000 ล้านบาท ซึ่งยอดขายเหล่านี้จะเติบโตมาจากสินค้ากลุ่มแป้งออร์แกนิค สินค้ากลุ่มที่ผลิตมาจากมันสำปะหลัง รวมถึงสินค้าแนวเกษตรอินทรีย์พรีเมี่ยม ที่บริษัทฯ เริ่มลงทุนไว้ ก็จะเป็นส่วนขับเคลื่อนให้รายได้ไปถึง 1 หมื่นล้านบาท ล้อไปกับกระแสผู้บริโภคที่กำลังใส่ใจสุขภาพ

 

 

นายเดชพนต์  กล่าวทิ้งท้าย ถึงผู้ถือหุ้น และนักลงทุนว่า UBE เป็นหุ้นที่ไม่ทำแต่เอทานอลเท่านั้น อนาคตหากสัดส่วนในเรื่องของการขายและผลกำไรมากจากกลุ่มอาหารมากขึ้น ก็มีแผนที่จะรีแบรนด์ และมีแผนที่จะย้ายหมวดจดทะเบียนธุรกิจไปอยู่ในหมวดอาหาร   พร้อมอยากจะขอขอบคุณนักลงทุนมากๆที่คอมเมนต์และช่วยให้คำแนะนำบริษัทมาตลอด ซึ่งบริษัทฯได้รับทราบและจะทำให้นักลงทุนเห็นพัฒนาการของบริษัทต่อไป รวมถึงมีแผนที่จะนำบริษัทลูกซึ่งผลิตสินค้าเกี่ยวกับอาหารโดยตรง เข้ามา Spin-off ระดมทุนและเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ภายในอีก 3 ปีข้างหน้าด้วย

 

 

อณุภา ศิริรวง /สิริวัฒนา กลางประพันธ์

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

HotNews: RJH ทุ่ม 420 ลบ. ลุยโครงการซื้อหุ้นคืน

บอร์ด RJH เคาะ โครงการซื้อหุ้นคืน จำนวน 18 ล้านหุ้น วงเงิน 420 ลบ. เริ่ม 15 พ.ย.67 - 30 เม.ย.68

หนาแน่น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นไทย เช้าวันนี้ ยังคงมีความคึกคัก .....

มัลติมีเดีย

รู้จัก เมดีซ กรุ๊ป ก่อนเทรด บนกระดาน SET - สายตรงอินไซด์

รู้จัก เมดีซ กรุ๊ป ก่อนเทรด บนกระดาน SET - สายตรงอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้