Today’s NEWS FEED

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ : 3 เซียนหุ้นส่องราคาเป้าหมาย WFX ผู้ผลิตเส้นด้ายยางยืดรายใหญ่ระดับโลก เข้าเทรด SET รายแรก อัพไซด์กว่า 40 -72% เทียบราคาไอพีโอ

18,186

 

3 เซียนหุ้นเคาะราคาเป้าหมาย หุ้น บมจ.เวิลด์เฟล็กซ์ (WFX) น้องใหม่ไอพีโอ ผู้ผลิตเส้นด้ายยางยืดรายใหญ่ระดับโลกรายแรกที่เข้าเทรด SET ก่อนคริสมาสต์นี้ โดยให้ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 10.10 -12.40 บาท/หุ้น เทียบราคาไอพีโอ 7.20 บาท/หุ้น จะมีอัพไซด์เปิดกว้างสูงกว่า 40 -72% คาดกำไรปี 64-65 โตเฉลี่ย 133%

 

หุ้นน้องใหม่ไอพีโอป้ายแดง! บมจ.เวิลด์เฟล็กซ์ (WFX) ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างคึกคัก ในช่วงที่เปิดขายไอพีโอระหว่างวันที่ 9-17 ธันวาคม 2564 โดยขายไอพีโอหุ้นละ 7.20 บาท และเตรียมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) ก่อนคริสมาสต์นี้ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า "WFX" ในหมวดธุรกิจแฟชั่น

 

" การเข้าระดมทุนและจดทะเบียนใน SET จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการเติบโตให้กับบริษัทฯ จากการขยายตลาดใหม่ ภายใต้จุดแข็งที่เหนือกว่าคู่แข่งในตลาด ไม่ว่าจะเป็นความได้เปรียบของโปรดักส์ที่มีความหลากหลาย ครอบคลุมทุกขนาด ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด และมั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วง 1-3 ปี ข้างหน้า จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง หลังจากเดินหน้าขยายกำลังการผลิต ซึ่งเฟสแรกมีกำหนดจะผลิตได้ในช่วงกลางปี 2565 จำนวน 6,200 ตัน/ปี และในเดือนมกราคม 2566 จะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 6,200  ตัน เพื่อรองรับออเดอร์ลูกค้าในต่างประเทศที่มีเข้ามาเป็นจำนวนมาก" ชวลิต ติยาเดชาชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WFX กล่าว

 

สำหรับผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกปี 2564 มีการเติบโตที่โดดเด่นมาก โดยมีรายได้รวม 2,590 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 874 ล้านบาท หรือ 51% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 1,715 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 188 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129 ล้านบาท หรือ 218% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 59 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อยู่ที่ 15.96% และกำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ที่ 7.27%

 

ทั้งนี้ โบรกเกอร์ได้ประเมินราคาเป้าหมายของหุ้นWFX ไว้ที่ระดับ 10.10-12.40 บาท/หุ้น และเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับราคาไอพีโอที่ระดับ 7.20 บาท/หุ้น จะพบว่ามีอัพไซด์เปิดกว้างสูงถึง 40 -72%  ผลจากมีการคาดการณ์ความสามารถในการทำกำไรตั้งแต่ปี2564-65 เติบโตเฉลี่ย 133%

 

 

 

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า WFX เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายเส้นด้ายยางยืดรายใหญ่ในโลก มีผลิตภัณฑ์เส้นด้ายยางยืดครอบคลุมในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มลูกค้า โดยสินค้าของบริษัทจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศภายใต้แบรนด์ของบริษัทเอง โดยกลุ่มลูกค้าหลักคือประเทศจีนคิดเป็นประมาณ 75% ของรายได้รวม โดยผลการดำเนินงานของบริษัทอยู่ในช่วงเติบโตจากการใช้กลยุทธ์เชิงรุกในการเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ รวมถึงชิงส่วนแบ่งการตลาดจากคู่แข่งจากความได้เปรียบในด้านต้นทุนยางพาราธรรมชาติที่ถูกกว่าคู่แข่ง เนื่องจากประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในโลก

 

หลังจากได้เงินจากการเพิ่มทุนบริษัทฯมีแผนจะนำไปขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับคำสั่งซื้อล่วงหน้าของบริษัทที่มีมาอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก อีกทั้งการเพิ่มกำลังการผลิตจะช่วยให้ Net margin ของบริษัทปรับตัวดีขึ้นจาก economies of scale รวมถึงความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้น

 

"ฝ่ายวิจัยประเมินกำไรสุทธิปี 2564 เพิ่มขึ้น 382%จากงวดเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 279 ล้านบาท และปี 2565 เพิ่มขึ้น14%จากปีก่อนอยู่ที่ 318 ล้านบาท จากสมมติฐาน 1)gross margin ปี 2564-65  อยู่ที่ 15% และ 14.5% ตามลำดับเพิ่มขึ้นจาก 7.4% ของปี2563 จาก economies of scale 2)รายได้ปี 2564-65 อยู่ที่ 3,595 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 50%จากปีก่อน) และ 4,120 ล้านบาท(เพิ่มขึ้น15%จากปีก่อน) จากการเพิ่มกำลังการผลิต และได้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 3)SG&A/Sales ปี2565 ลดลงเหลือ 4.5% จาก 4.9% ของปี 2565 จากรายได้ที่มากขึ้น 4)Tax ปี 2565 ลดเหลือ 16.5% จาก 18% ของปี 2564 จาก BOI"

 

ฝ่ายวิจัยได้ประเมินมูลค่าหุ้น WFX ที่ 12.40 บาท/หุ้น ด้วยวิธีปี2565 PER ที่ 18 เท่า เท่ากับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม Fashion โดยคาดว่า 2564-65 มีกำไรสุทธิเติบโตเพิ่มขึ้น 382%/เพิ่มขึ้น14% ตามลำดับ  โดยผลการดำเนินงานของบริษัทฯจะเติบโตได้โดดเด่นจากธุรกิจแผนขยายกำลังการผลิตต่อเนื่อง โดยใช้ความได้เปรียบด้านต้นทุนบริษัทจึงใช้กลยุทธ์เชิงรุกเข้าไปเจาะกลุ่มตลาดใหม่มากขึ้น

 

 

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2565 สำหรับ WFX ที่ 10.10 บาท – 11.50 บาท ซึ่งคำนวณโดยอิง PER ปี 2565 ที่ 15 -17 เท่า ซึ่งเท่ากับหุ้นในกลุ่มสิ่งทอในจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักของบริษัท เนื่องจากไม่มีหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯที่ดำเนินธุรกิจเช่นเดียวกันกับบริษัท

 

โดยมองว่า WFX มีศักยภาพในการเติบโต และได้เปรียบคู่แข่งด้านวัตถุดิบ เพราะมีสินค้าที่ครอบคลุมทุกขนาด ตอบสนองความต้องการได้หลากหลาย อีกทั้งยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอายุการใช้งานไม่นานนัก ต้องมีการเปลี่ยนแทน หรือใช้แล้วทิ้ง อีกทั้งบริษัทยังมีความได้เปรียบด้านการเข้าถึงวัตถุดิบ เพราะโรงงานผลิตของบริษัทอยู่ในประเทศไทย ซึ่งไทยเป็นผู้ผลิตน้ำยางข้น อันดับ 1 ของโลก ที่เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเส้นด้ายยางยืด รวมทั้งการที่มี บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TRUBB) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำยางข้นในไทย เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ช่วยให้บริษัทเข้าถึงวัตถุดิบที่มีคุณภาพในปริมาณที่ต้องการ

 

 "ฝ่ายวิจัยได้คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2564 – 2565 โตเฉลี่ย 133% โดยบริษัทจะมีกำไรสุทธิในปี 2564 ของ WFX จะโตแรงถึง 369%จากปีก่อน เป็น 271 ล้านบาท เพราะได้แรงหนุนจากทั้งปริมาณการขายและราคาขายที่ปรับตัวสูงขึ้น สำหรับปี 2565 คาดกำไรโตได้ต่อเนื่องเป็น 313 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน) จากปริมาณการขายที่คาดยังเพิ่มขึ้น และการขยายกำลังผลิตเพิ่มอีก 1.24 หมื่นตัน ในปี 2565 - 2566 ส่วน EPS ปี 2564 ที่ 0.58 บาท/หุ้นจะเติบโต 211%"

 

 

 

ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด  ประเมิน Fair value สิ้นปี 2565 ที่ 11.34 บาทอ้างอิงวิธี P/E 17 เท่า ซึ่งเป็นระดับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีของอุตสาหกรรมแฟชั่น(SETFASH Index) -0.25SD โดยเลือกเฉพาะระดับที่อยู่ในช่วงเวลาปกติไม่เกิน 100 เท่า เพื่อความ Conservative โดยประมาณการรายได้และกำไรมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดอัตราการเติบโตเฉลี่ยของรายได้ปี 2563-2566 (CAGR) ราว 20.0% ต่อปี และกำไรเติบโตเฉลี่ย(CAGR) 79.1% ต่อปีเติบโตในอัตราเร่งที่สูงกว่าการเติบโตของรายได้

 

จากข้อมูลข้างต้นน่าจะพอสะท้อนให้เห็นว่า หุ้น WFX น่าจะเป็นหนึ่งในหุ้นไอพีโอน้องใหม่ที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีและเป็นของขวัญสุดประทับใจส่งท้ายปี 2564 ให้กับนักลงทุนและผู้ถือหุ้นได้อย่างแน่นอน

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

HotNews: RJH ทุ่ม 420 ลบ. ลุยโครงการซื้อหุ้นคืน

บอร์ด RJH เคาะ โครงการซื้อหุ้นคืน จำนวน 18 ล้านหุ้น วงเงิน 420 ลบ. เริ่ม 15 พ.ย.67 - 30 เม.ย.68

หนาแน่น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นไทย เช้าวันนี้ ยังคงมีความคึกคัก .....

มัลติมีเดีย

รู้จัก เมดีซ กรุ๊ป ก่อนเทรด บนกระดาน SET - สายตรงอินไซด์

รู้จัก เมดีซ กรุ๊ป ก่อนเทรด บนกระดาน SET - สายตรงอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้