สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(21กันยายน 2563)---------บมจ.เอแอลที เทเลคอม (ALT) ผู้ประกอบธุรกิจโทรคมนาคมแบบครบวงจร แบ่งเป็น 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1. ธุรกิจให้บริการสร้างสถานีฐาน ติดตั้ง และซ่อมแซมอุปกรณ์โทรคมนาคม 2. ธุรกิจจำหน่ายสินค้าในกลุ่มโทรคมนาคม ได้แก่ สายเคเบิลใยแก้วนำแสง, ตู้โทรคมนาคม, สถานีโทรคมนาคมเคลื่อนที่, สายอากาศ และอุปกรณ์โทรคมนาคมอื่น ๆ 3. ธุรกิจให้เช่าโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม

        นับตั้งแต่เกิดโควิด-19 ทำให้หลายองค์กร  ทั้งหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนปรับตัวมาใช้ระบบออนไลน์มากยิ่งขึ้น จากนี้ไปการสื่อสารด้วยระบบออนไลน์จะปลอดภัยที่สุด รวดเร็ว ลดต้นทุน ทำให้ ALT จะได้รับอานิสงส์เต็มๆ ซึ่งปัจจุบัน ALT ได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจมีการโอนธุรกิจให้บริการ ใยแก้วนำแสงไปให้บริษัทร่วมทุนและถือ 49% ทำให้เกิดความคล่องตัว ลดต้นทุน  นอกจากนี้ยังขยายธุรกิจ สมาร์ทกริต ระบบบริหาร จัดการใช้ไฟฟ้าด้วยอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมรุก 5G เมื่อ ALT ได้เข้าซื้อหุ้นบริษัท เอ็นเนอร์จี แม็คซ์ จำกัด (EMAX) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายมิเตอร์ไฟฟ้าระบบอิเล็กทรอนิกส์  สัดส่วน 97.82% รวมทั้งโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรในอีกหนึ่งโครงการเพื่อรองรับการลงทุนและสร้างเสาสัญญาณสำหรับโครงข่าย 5G ของพันธมิตร

        สำหรับราคาปรับตัวลง ตั้งแต่เดือนส.ค. จากราคาสูงสุด 4.22 บาท ลงมาต่ำสุดที่ 2.90 บาท ก่อนจะฟื้นตัวมาปิดที่ 3.00 บาท มีค่าพี/อี 15 เท่าเศษเท่านั้น และหากดูผลประกอบการปี 63 สามารถพลิกเป็นกำไรได้อย่างมีนัยสำคัญ นับตั้งแต่ขาดทุนมา 2 ปีติดต่อกันตั้งแต่ปี 61 และปี 62 มาจากการรับรู้ค่าเสื่อมเป็นจำนวนมาก   จากการลงทุนหลายโครงการที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม เช่น โครงการสายเคเบิลใยแก้วนำแสง (Fiber Optic)โดย 1H/63 มีกำไร 233.90 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.23 บาท ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากโครงการ Smart

        สำหรับทางเทคนิคราคาหุ้น ALT มี Technical Rebound ในแนวขาลง จากภาวะ Oversold คาดว่ามีโอกาสฟื้นตัวช่วงสั้นๆ หรือพยายามสร้างฐานราคาที่แนวรับสำคัญที่ 2.90 บาทไว้ได้ ซึ่งแสดงว่าราคากำลัง Bottom out พร้อมกลับตัวขึ้นในรอบใหม่ โดยมีแนวต้านที่ 3.16-3.22 บาท และถัดไปที่ 3.50 บาท แต่ถ้าราคาพลิกมาปิดต่ำกว่า 2.90 บาทต้องตัดขาดทุน เนื่องจากราคามีความเสี่ยงลงมาระดับ 50% (ยอดสูงสุด 4.38 บาท และต่ำสุด 1.03 บาท) ที่ 2.70 บาท