สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(22กรกฎาคม2563)  --------  UTP เป็นบริษัทที่ได้รับประโยชน์ e-commerce เนื่องจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระดาษคราฟท์ ซึ่งใช้สำหรับอุตสาหกรรมหีบห่อและบรรจุภัณฑ์ ประเภทกล่องลูกฟูกและกระดาษทำผิวกล่อง ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของกล่องพัสดุบริษัทขนส่งบริการแบบรับสินค้าจากผู้ส่งโดยตรง (Door-to-Door) KERRY Express,NIM Express,FLASH Express,SCG Express และไปรษณีย์ไทย

                 แม้สถานการณ์แพร่ระบาดไวรัส โควิด-19 ส่งผลกระทบให้กิจกรรมการผลิตและความต้องการซื้อสินค้าสะดุดลงในเดือนเมษายน-พฤษภาคม แต่หลังรัฐบาลเริ่มทยอยผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์มากขึ้น โดยเฉพาะเดือนมิถุนายน ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ กลับมาปกติ ทำให้มีคำสั่งซื้อกระดาษคราฟท์ฟื้นตัวดีขึ้น อีกทั้งราคาเศษกระดาษซึ่งเป็นต้นทุนหลักยังลดลงกลับสู่ระดับ 140-150 เหรียญสหรัฐต่อตัน หรือ 4 บาทต่อกก. เมื่อเทียบกับช่วงพฤษภาคมที่ราคาเศษกระดาษดีดขึ้นไปสูงถึง 180-200 เหรียญสหรัฐต่อตัน หรือ 5-5.50 บาทต่อกก. ซึ่งนับเป็นสัญญาณเชิงบวกที่คาดจะช่วยหนุนให้ผลประกอบการปีนี้กลับมาปกติ

                 และUTPมีแผนเพิ่มลูกค้าใหม่ทั้งในไทยและตลาดส่งออกอย่างไต้หวัน เวียดนามและจีน จึงคาดยอดขายปีนี้จะยังใกล้เคียงปีก่อนได้  คาดว่าไม่ได้รับผลกระทบมากนัก โดยมองว่าปี 2563 จะมีกำไรปกติ 860 ล้านบาท

                 นอกจากนี้กลุ่มลูกค้าคือ ผู้ผลิตกล่องกระดาษและแผ่นลูกฟูกในประเทศและต่างประเทศ โดยมีลูกค้ารายใหญ่ทั้งหมด 11 ราย มียอดขายกว่า 70% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่ง 5 รายจาก 11 ราย เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท จึงมีฐานลูกค้าที่มั่นคงที่สร้างรายได้ราว 50%

                 หากพิจารณาดูงบการเงินย้อนหลัง 5 ปี UTP มีกำไรเติบโตมาตลอด จึงถือเป็นจุดแข็งของบริษัทที่มีฐานะการเงินแกร่ง กำไรมั่นคง และปันผลสูง Div. Yield เฉลี่ยปีละ 6% ฉะนั้นหุ้นที่ได้รับประโยชน์ครั้งนี้หลายตัวขึ้นไปเยอะมาก อาจจะมีการสลับเข้ามาในบริษัทผลิตและจำหน่ายกล่องกระดาษที่เติบโต 2H/63 หลังทุกอย่างคลายล็อกหมดแล้ว

                 สำหรับทางเทคนิค ราคาหุ้น UTP แกว่งตัว Sideway ชัดเจน ขณะที่เครื่องมือหลายตัวเริ่มสัญญาณบวกสนับสนุน ดังนั้นหากยืนเหนือ 11.50-11.20 บาท และมีวอลุ่มสนับสนุนเพิ่มสูงขึ้น คาดว่ามีโอกาสทดสอบ 12.00 บาท และถัดไปที่ 12.90 บาท