สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(15กรกฎาคม 2563)------SPVI ประกอบธุรกิจหลักเป็นหนึ่งในตัวแทนจำหน่าย (Reseller) ผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้า Apple ทั้งคอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ประเภท iOS และอุปกรณ์เสริมต่างๆ รวมทั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าอื่นๆ ที่สามารถนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์ Apple เป็นหลัก เพื่อที่จะรองรับความต้องการของลูกค้าได้ครบวงจร นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้ขยายธุรกิจการบริการให้แก่ลูกค้า โดยมีศูนย์บริการสำหรับสินค้าภายใต้ตราผลิตภัณฑ์ Apple ในนาม iCenter ปัจจุบัน SPVI มีสาขาทั้งหมด 48 แห่ง โดยอยู่ในจังหวัดระยอง 5 แห่ง ที่กำลังมีข่าวทหารอียิปต์ติดโควิด หลายคน อาจจะกังวลว่าสาขาทั้ง 5 แห่งในจังหวัดระยอง จะกระทบรายได้มากหรือไม่

          ผมมองว่าไม่น่าจะมีผลกระทบ หรือกระทบเล็กน้อย น่าจะเป็นแค่ช่วงสั้นๆ ในการปิดทำความสะอาดไม่เกิน 2 สัปดาห์ (ดูระยะการฟักตัว 14 วัน ถ้าไม่มีการแพร่ระบาด คงกลับมาเปิดปกติ) แต่ที่เป็นประเด็นสำคัญของบริษัทคือกระแส WFH, LFH  สาขาที่เหลือเปิดปกติ 43 แห่ง คาดว่าช่วง 2H63 เติบโต QoQ และในปี 2564 คาดเติบโตไม่ต่ำกว่า 30 % จากปี 2563 จากช่วงครึ่งปีแรกที่ได้รับผลกระทบ และราคาได้รับผลกระทบด้านราคาไปแล้ว

          นอกจากนี้พบว่าในแง่มูลค่าหุ้น SPVI ล่าสุดเทรดที่ P/E ราว 14.71 เท่า เทียบกับ COM7 ที่ทำธุรกิจคล้ายกัน เทรดที่ P/E ล่าสุด 33.01 เท่า JMART เทรดที่ P/E ล่าสุด 20.17 เท่า

          ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนบริษัทที่เกี่ยวข้องอุปกรณ์เทคโนโลยีผู้จัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ ซอฟท์แวร์ ระบบสารสนเทศ และวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ โดดเด่นอย่างมาก หลังโควิด19 คือ SIS และ SYNEX ฉะนั้น SPVI ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะราคาปัจจุบัน SPVI น่าสนใจ เนื่องจาก Undervalue และครึ่งปีหลังเติบโตชัดเจนในยุคเทคโนโลยี 5G

          สำหรับกราฟ Daily Chart แกว่งตัวใน Uptrend Channel ระหว่าง 2.54-3.06 บาท โดยช่วงสั้นๆพยายามยืนเหนือ SMA 2.70-2.72 บาท และหากยืนได้สำเร็จ คาดว่าราคาพร้อมปรับตัวขึ้นทดสอบ 3.00 บาทอีกครั้ง และกรอบบนที่ 3.06 บาท